เซี่ยงตงชิงไม่รู้เลยว่าผู้ชายเจ้าชู้จะมีชั้นเชิงไม่สิ้นสุด ถึงขั้นเอาเสือมาขู่เธอ เพื่อจะได้หาเรื่องเอาเปรียบกัน
ฉีเติ่งเสียนที่กอดเซี่ยงตงชิงอยู่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตอนนี้เขากำลังคิดไปถึงฉากการนวดในบ่อน้ำพุร้อนหลังผ้าม่านนั่น ซึ่งมันอาจถึงตายได้เลย
แต่โชคดีที่พระอัครสังฆราชฉีเป็นคนที่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นจึงไม่ได้กระตุ้นความขุ่นเคืองใดๆให้เซี่ยงตงชิง
จิ่วเฮิงมาหาหยางกวนกวนที่กำลังฝึกอยู่ จมูกและใบหน้าของเขาบวมช้ำ ไม่รู้ว่าไปมีเรื่องกับใครที่ไหนมา
แต่ยังไงเขาก็รู้สึกมีความสุขมากที่ได้อยู่ที่นี่ ได้ต่อยตีทุกวัน ทำให้เขาพึพอใจสุดๆ
ถึงแม้ว่านอกจากฉีปู้อวี่แล้ว จะมีคนเป็นสิบรุมเขาคนเดียว แต่เขาก็รู้สึกชอบมาก
เจดีย์ซือกัวปิดมายี่สิบปีแล้ว การได้ต่อยตีกับคนอื่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในจินตนาการเท่านั้น
แต่ปีศาจราตรีไม่ได้รู้สึกชอบด้วย ตอนกลางวันต้องทำงาน ตอนกลางคืนยังต้องมาคอยระวังไอ้บ้านี่ลอบโจมตีอีก แถมฝีมือของไอ้บ้านี่ดันสูงเอาเรื่อง ต้องให้ทุกคนรุมถึงจะหยุดเขาได้
"เมื่อกี้ฉันเห็นอาจารย์เสี่ยวฉีพาคุณเซี่ยงออกไปล่าเสือ แถมยังกอดกันด้วย" จิ่วเฮิงพูดกับหยางกวนกวนอย่างลังเลใจ
เขาเป็นคนที่จริงจังและรักเดียวใจเดียวอันดับหนึ่งในเส้าหลิน เพราะเขาเลือกที่จะออกบวชทันทีที่เห็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ตัวเองรักแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น ถึงแม้ว่าเขาจะนับถือในกังฟูของฉีเติ่งเสียนมาก แต่ก็รู้สึกละอายใจกับพฤติกรรมของฉีเติ่งเสียนเหมือนกัน
หยางกวนกวนได้ฟังสีหน้าก็พลันเย็นชา ปล่อยหมัดใส่ก้อนอิฐจนแตกเป็นเสี่ยงๆ
ช่วงนี้เธอมักจะตามติดจิ่วเฮิงแจ ถึงแม้จะไม่ได้ลงไปสู้ด้วยกัน แต่การได้ดูเขาสู้ก็นับว่าได้เรียนรู้แล้ว
"อาจารย์จิ่วเฮิง คุณเป็นผู้มีฝีมือสูงส่งระดับสูงจริงๆ แต่การที่คุณมาพูดเรื่องซุบซิบนินทาคนอื่นแบบนี้ ไม่กลัวว่าจะโดนคนหัวเราะเาะเอาเหรอ?" หยางกวนกวนพูด
"ฉันกลัวว่าเธอจะหูอื้อตาบอดอยู่คนเดียวน่ะสิ! ถึงได้มาเตือนด้วยความหวังดีนะ" จิ่วเฮิงพูด
หยางกวนกวนขมวดคิ้วเบาๆ เตรียมจะเดินไปจัดการฉีเติ่งเสียน แต่ไปได้ครึ่งทางก็ถูกฉีปู้อวี่เรียกไว้ก่อน เขาเดินเข้ามาทักทาย บอกว่าจะสอนอะไรบางอย่างให้
ยังไงคนเป็นพ่อก็ต้องช่วยลูกชายอยู่วันยันค่ำ
"ลูกชายของฉันคนนี้เป็นพวกอยู่ในกะลา หลังจากไปจากเมืองหลวงก็เติบโตมาในเรือนจำนี้ตลอด พอได้ออกไปเจอผู้คน ได้สัมผัสอะไรมากมาย มันก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงนิสัยแย่ๆแบบนี้"
"นิสัยน่ารังเกียจของเขาพวกนี้มาจากไอ้อ้วนคนฆ่าสัตว์ทั้งนั้น ไม่ต้องไปสนใจมากหรอก"
ผีพยาบาทยืนแปลภาษามือของฉีปู้อวี่ให้หยางกวนกวนฟังอยู่ด้านข้าง หยางกวนกวนได้ฟังก็ตะลึง
ผีพยาบาทแปลไปก็รู้สึกขำไปในใจ โชคดีที่คนฆ่าสัตว์ไม่ได้อยู่ที่นี่ตอนนี้ ไม่อย่างนั้นก็นึกสภาพไม่ออกเลยจริงๆ
"ลุงฉีบอกฉันทำไม?" หยางกวนกวนพูด
ผีพยาบาทมองมือของฉีปู้อวี่ ก่อนจะแปล "หัวหน้าใหญ่บอกว่า เขาคิดว่าคนที่เหมาะสมที่สุดคือคุณ ในอนาคตฝีมือการต่อสู้ของคุณจะต้องดีมากแน่ๆ เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นคนร่วมเรียงเคียงบ่าที่ดีที่สุดของรองหัวหน้าใหญ่ เขาจะสนับสนุนคุณตลอดไป ถ้ารองหัวหน้าใหญ่กล้าทำเรื่องอะไรให้คุณเสียใจ เขาจะตีรองหัวหน้าใหญ่ให้ขาหักไปเลย"
หยางกวนกวนที่ไม่ได้อารมณ์ดีตั้งแต่แรก พอได้ฟังคำแปลภาษามือของฉีปู้อวี่แล้วก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง จึงพยักหน้ารับ "ลุงฉีไม่ต้องกังวล ฉันรู้ดีว่าต้องทำยังไง กว่าจะมีวันนี้ต้องทำยังไงบ้าง"
ฉีปู้อวี่ยิ้มน้อยๆพลางพยักหน้า จากนั้นก็มอบตำราลับการต่อสู้ให้หยางกวนกวน นี่คือหนังสือที่เขาอ่านและฝึกมาเองกับตัว เนื้อหาทั้งหมดล้วนแทรกซึมแน่นอยู่ในหัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...