มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1252

ฉีเติ่งเสียนไม่ได้เกียจคร้าน และส่งข้อความแสดงความยินดีปีใหม่ถึงนางเงือกทุกคนในบ่อของเขา

หลังจากส่งข้อความแล้ว เขาก็ได้ปิดเสียงโทรศัพท์ แล้วกลับไปดื่มเหล้ากินของว่างและดูทีวีเป็นเพื่อนหยางกวนกวนและเซี่ยงตงฉิง

พระสงฆ์สามรูปไม่มีน้ำดื่ม ช่างไม่สมเหตุสมผลเลย

ฉีเติ่งเสียนหงุดหงิดกับตัวเองที่ก่อนกลับมาไม่ให้หยางกวนกวนจัดตารางงานให้ทำภารกิจที่แยกตัวออกมายาก กลับไปจะได้ไปขอโทษ อย่างนี้จะได้ไม่ลำบากใจ

อยู่กันถึงประมาณตีห้า จากนั้นเซี่ยงตงฉิงก็แน่นิ่งไป ตาแดงจนเริ่มง่วง เอนมาซบลงที่ไหล่ของฉีเติ่งเสียนแล้วหลับไป

อีกทางหนึ่งหยางกวนกวนก็เอนตัวลงที่โซฟา ตัวค่อยๆเลื่อนมาทางนี้โดยพิงอีกด้านของฉีเติ่งเสียนแล้วหลับไป

ฉีเติ่งเสียนกลายเป็นแฮมเบอร์เกอร์ติดอยู่ตรงกลาง เขาควรจะมีความสุขแต่กลับรู้สึกทรมานแทน

แต่ว่าโชคดีที่พระอัครสังฆราชฉีเป็นคนโหดและมุ่งมั่นมาก เขาใช้แนวคิดทางพุทธเรื่องความไม่บริสุทธิ์ที่เขาพูดในงานชุมนุมศาสนา โดยเอาผู้หญิงเปรียบเป็นโครงกระดูกสีชมพู ก็ยังสามารถสงบได้

เช้าวันที่สอง ผู้คุมเรือนจำจัดกลุ่มนักโทษที่กึ่งหลับกึ่งตื่นไปกวาดหิมะในเรือนจำ

หัวหน้าผู้ศรัทธายังคงแขวนอยู่ที่นั่น ร่างกายปกคลุมไปด้วยเกล็ดหิมะ ทั้งตัวของเขาเกือบจะแข็งไปแล้ว

เงาร่างของจิ่วเหิงปรากฏบนสนาม มือทั้งสองข้างกุมตรวนหินหนักกว่า 100 จิน เขากวาดอย่างมีพลังและเสียงดังไม่น้อย จนหิมะรอบตัวปลิวฟุ้งขึ้นมา

สำหรับคนบ้าผู้นี้ ผู้คนในเรือนจำโยวตูเห็นจนเป็นเรื่องปกติแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม เหล่านักโทษไม่ค่อยชอบเขา

เพราะคนบ้าผู้นี้ชอบไปหาเรื่องชกต่อยกับผู้อื่นช่วงกลางค่ำกลางคืน ทำให้ทุกคนนอนไม่หลับ จนต้องรวมกลุ่มทุบตีเขา ถึงจะสามารถนอนได้

เซี่ยงตงฉิงค่อยๆ ลืมตามาอย่างงุนงวย รู้สึกปวดเนื้อปวดตัวไปหมด เพราะว่านั่งหลังตรงเป็นเวลานาน เธอหันกลับมาเห็นฉีเติ่งเสียนและหยางกวนกวนยังนอนอยู่ด้วยกัน จึงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

เปิดม่านและมองออกไปเห็นเหล่านักโทษกำลังทำงานแล้วโดนเจ้าหน้าที่เรือนจำดุด่า เธอรู้สึกว่าชอบบรรยากาศแปลกๆ นี้

เซี่ยงตงฉิงเห็นฉีปู้อวี่กลิ้งบอลหิมะ ราวกับเตรียมสร้างมนุษย์หิมะก็อดขำไม่ได้ จากนั้นสวมเสื้อโค้ทแล้วก็ออกไปด้านนอก

“ลุงฉี ให้ฉันช่วยดีกว่า?” เซี่ยงตงฉิงใส่ถุงมือหัวเราะเบาๆ แล้วพูด

“ได้” ฉีปู้อวี่หยักหน้า จากนั้นทั้งสองคนก็ร่วมมือกัน

เซี่ยงตงฉิงไม่รู้ว่าฉีปู้อวี่อายุปูนนี้แล้ว ทำไมยังมาปั้นมนุษย์หิมะอยู่ คงไม่ใช่ยังมีความเป็นเด็กอยู่นะ?

เมื่อฉีเติ่งเสียนลืมตาขึ้นก็พบว่าเซี่ยงตงฉิงไม่อยู่ในห้องแล้ว หยางกวนกวนยังเอนกายพิงเขาหลับอยู่

เมื่อเห็นหยางกวนกวนยังนอนอยู่นั้น ก็อดไม่ได้ที่จะใช้นิ้วลูบเสื้อไหมพรมของอีกฝ่ายขึ้นมาจนถึงท้องอันอบอุ่นของเธอ

แม้ว่าจะคุ้นเคยกับส่วนต่างๆ แต่ทุกครั้งที่ได้สัมผัส เขาก็ยังรู้สึกใจสั่นอย่างอธิบายไม่ได้

หยางกวนกวนขมวดคิ้ว แล้วลืมตาอย่างงุนงงแล้วพบกับฉีเติ่งเสียนกำลังทำมิดีมิร้ายอยู่ ทำให้เธอตกใจจนหน้าแดง เธออาจจะยังไม่ทราบว่าเซี่ยงตงฉิงนั้นออกไปด้านนอกแล้ว

หลังจากหันศีรษะมองสองรอบด้วยความกลัว เมื่อไม่เห็นร่างของเซี่ยงตงฉิง เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นจึงต่อยเข้าที่คางของฉีเติ่งเสียน

อย่างไรก็ตาม"นักปีนเขา" อย่างฉีเติ่งเสียน ก็ถูกกำหนดให้ปักธงบนยอดเขาในวันแรกของปีใหม่

“ปีนี้กับปีที่แล้วช่างแตกต่างกันนะ” ฉีเติ่งเสียนพูด

“ตรงไหนที่ไม่เหมือนล่ะ?” หยางกวนกวนถามอย่างมีความสุข แต่สองมือยังคงกอดเขาแน่น

“ปีที่แล้วมีพรมแดนกั้นระหว่างฉู่และฮั่น แต่ปีนี้ปืนใหญ่อิตาลีนั้นถูกจัดวางไว้โดยตรงกับค่ายแม่ทัพใหญ่ของคุณ……” ฉีเติ่งเสียนกล่าวอย่างจริงจัง

เมื่อหยางกวนกวนได้ยินเช่นนั้น ก็โมโหจนอยากให้เจ้าคนผู้นี้ไปตายซะ แต่เมื่อนึกถึงความห่วงใยและความรักที่เขามอบให้เขาในตอนปีใหม่ที่ของปีที่แล้วนั้น ในใจก็รู้สึกหวานชื่น

ดังนั้นจากตอนแรกที่ต้องการกัดเขาด้วยความโกรธจึงกลายเป็นแผนการเล็กๆ โดยทิ้งรอยกัดเอาไว้ที่คอของเขา

“กวนกวน คุณสวยจังเลย” ฉีเติ่งเสียนอดอุทานออกมาไม่ได้

“……” หยางกวนกวนพูดไม่ออก แต่ใช้การเคลื่อนไหวร่างกายที่ใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อแสดงความรักของตน

“ดังนั้นเรามาดีกันทั้งชีวิตดีกว่า?”ฉีเติ่งเสียนพูด

จ้าวซือชิงพูด “นี่ก็คือหนู”

“ฟุบ!”

จ้าวหงหนีทำหน้ารังเกียจ จนจะอาเจียนเป็นเลือด พูดว่า "หนูไม่อยากจับมือกับผู้ชายคนนี้"

จ้าวซือชิงยิ้มอย่างอ่อนโยนและแนะนำต่อไปว่า "นี่คือเด็กผู้หญิงสกุลเซี่ยง นี่คือเด็กผู้หญิงสกุลหลี่ นี่คือเด็กผู้หญิงสกุลหยาง……"

"อา โลภมากจัง……" จ้าวหงหนีอ้าปากค้างแล้วกรอกตา

จ้าวซือชิงจับมือจ้าวหงหนีแล้วพาเข้าไปด้านในห้อง แล้วถามว่า “คนผู้นั้นตายไปหรือยัง?”

จ้าวหงหนีทำหน้าเคร่งขรึมแล้วพูด "ไม่……ยิ่งไปกว่านั้น หนูคิดว่าอารมณ์ของเขาเปลี่ยนไปมาก เหมือนว่าเขาจะเริ่มต้นเส้นทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง"

หลังจากจ้าวซือชิงได้ฟังก็ประหลาดใจเล็กน้อยแล้วพูด “วัชระกาย?ว่ากันว่ามีบรรพบุรุษตระกูลฉีเคยบรรลุขั้นในตำนานนี้……”

จ้าวหงหนีเห็นสีหน้าของจ้าวซือชิงแล้วก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวแล้วพูด "คุณป้า ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าอะไรในโลกนี้ที่ทำให้ป้าตกใจได้!"

จ้าวซือชิงหัวเราออกมา แตะศีรษะของจ้าวหงหนีแล้วพูด “คนมีคุณธรรมจะได้รับการช่วยเหลือสนับสนุน คนไม่มีคุณธรรมจะไร้คนช่วยเหลือสนับสนุน ตระกูลจ้าวได้สูญเสียหัวใจของคนในโลกไปแล้ว ถึงจะมีพลังที่แข็งแกร่งแต่แล้วจะทำอันใดได้?”

จ้าวหงหนีครุ่นคิด แต่จู่ๆ ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเย็นชาในพริบตา

แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ถึงจะตายแต่หนูก็จะไม่ยอมช่วยฉีเติ่งเสียน เห็นแก่หน้าคุณป้าไม่ทุบตีเขาจนตายก็ถือว่าควบคุมตัวเองได้ดีแล้ว!”

“หงซิ่ว สุขสันต์วันปีใหม่” จ้าวซือชิงหยิบซองอั่งเปาให้เธอ

“……” จ้าวหงซิ่วหมดคำพูด

จ้าวซือชิงพูด “มาเล่นหมากรุกกัน!”

จ้าวหงซิ่วผู้มีจิตใจดีกลับถูกสับเป็นชิ้นๆ

เห็นได้ชัดว่าจ้าวซือชิงเป็นผู้หญิงนิสัยไม่ดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง