จากความสามารถของฉีเติ่งเสียนเเล้ว อยากติดตามคนสองสอง สำหรับเขาแล้ว เป็นเรื่องที่อย่าง่ายเกินไป
หลังจากสองคนนี้ออกจากโรงยิม ก็ได้ขึ้นรถโตโยต้าสีขาวทีไม่เด่นมาก ขับด้วยความเร็วคงที่
ผ่านไปไม่นาน รถขับนี้ได้ขับเข้าไปในวิวล่าหลังหนึ่ง จอดอยู่ด้านนอกของวิวล่าเล็กๆ
"โอ้? หรือว่าสวี่เอ้เสวี่ยซื้ออสังหาริมทรัพย์ในจินเต่านานแล้ว แอบกลับจากหนานหยางเงียบๆ? "ฉีเติ่งเสียนหรี่ตาลง จอดรถอยู่ที่ไกลออกไป
เขาไม่พอใจสวี่เอ้าเสวี่ยมาก ผู้หญิงคนนี้ดื้อรั้นมาก เมื่อกลับถึงหนานหยาง มีการใช้วิธีการต่างๆ อีกอย่างยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำประเทศมี่อีก กระทั้งยุยงให้ขุนศึกปล้นวิหารหนานหยาง
ถ้าไม่ใช่เพราะไม่มีเวลา เขาคงนั่งเครื่องบินสังหารไปหนานหยางนานแล้ว ให้สวี่เอ้าเสวี่ยได้ลิ้มลองความเก่งกาจซะบ้าง!
สวี่เอ้าเสวี่ยในตอนนี้ แม้ว่าจะดูแข็งแกร่งและมั่นใจมากก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากเธอใครสักคนใช้วิธีรุนแรงอย่างกระทันหัน ก็อาจไม่สงผลกระทบอะไรมากนัก
ถึงขั้น ตระกูลจ้าวต่างก็รู้สึกรำคาญที่เธอไม่เชื่อฟังอย่างลับๆ
นี่เป็นเรื่องธรรมดา สวี่เอ้าเสวี่ยหยิ่งมากขนาดนี้ ผู้หญิงที่มีบุคคลิกเด้ดเดี่ยวเช่นนี้ จะเป็นคนที่ถูกควบคุมได้ยังไง? เธอมีความสามารถมากในหนานหยาง ไม่ใช่เพราะว่าอยากสะสมพื้นหลังอย่างนั้นเหรอ เพื่อให้สามารถยืนหยัดต่อใครก็ได้ ควบคุมชะตากรรมของตัวเอง
เมื่อคนหนานหยางทั้งสองคนเข้าไปในวิวล่าแล้ว ถอดหน้ากากออก เผยรอยยิ้มบนใบหน้าออกมา
"เห็นพวกคุณยิ้มมีความสุขขนาดนี้ สถานการณ์แลกเปลี่ยนในวันนี้ เป็นไปได้ว่าจะมีเรื่องตลกเกิดขึ้น? "เสียงเย็นชาดังขึ้น น่าแปลกที่สวี่เอ้าเสวี่ยเป็นผู้ที่ควรรับผิดชอบในหนานหยาง
ผู้หญิงคนนั้นโค้งคำนับสวี่เอ้าเสวี่ย กล่าว"คุณสวี่ วันนี้เกิดเรื่องบางอย่างจริงๆ มีผู้มีฝีมือระดับสูงบุกเข้ามาในงานแลกเปลี่ยน และกระทืบฉินเอ้าจนพิการคาที่ ฉินเอ้าคนนี้ ทั้งชีวิตที่เหลือ สวนมากคงจะได้นั่งเพียงวิวแชร์แล้วล่ะ"
ผู้ชายกล่าวต่อ"ไม่ผิด เหยียนมู่หลงอยากยืมตแหน่งรองประธานหนานหยางช่วยให้ตัวเองได้แทรกซึมมปฏิบัติการของหนานหยาง ย่อมถูกขัดขวางเพราะสิ่งนี้! ฉันคิดว่า ความกดดันของคุณสวี่ อาจจะน้อยลงไปมาก"
สวี่เอ้าเสวี่ยฟังแล้วอดไม่ได้ที่จะตะลึง กล่าว"ใช่หรือ? คนคนนั้นชื่อว่าฉีเติ่งเสียนใช่มั้ย? ! "
หญิงสาวกลับส่ายหัวกล่าว"ไม่ใช่ เป็นชายวัยกลางคน เขาบอกว่าตัวเองเป็นอัศวินแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ภายใต้ฉีเติ่งเสียน"
"อะไรอะไรอัศวินแห่งแสงนะ......"สวี่เอ้าเสวี่ยขมวดคิ้ว ส่ายหัวไปมา ได้ยินว่าคนทำไม่ใช่ฉีเติ่งเสียน ในใจเกิดความประหลาดใจเล็กน้อย
อัศวินแห่งแสงเพิ่งได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งขึ้น ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ดังนั้น สวี่เอ้าเสวี่ยสมาชิกแกนกลางที่ไม่ใช่คาทอลิกของสำนักพระสันตะปะปาไม่รู้เรื่องนี้ แต่ก้ไม่ใช่เรื่องแปลก
ข่าวลือเรื่องอัศวินแห่งแสง ตอนนี้เพียงแค่เผยแพร่ในคริสตจักรเท่านั้น ต้องรอให้ด้านฉีเติ่งเสียนเตรียมพร้อมแล้ว ถึงจะประกาศให้โลกรู้
"คุณสวี่ เราจะกลับหนานหยางเมื่อไหร่? "หญิงสาวกล่าวถาม
สวี่เ้าเสวี่ยกลับกล่าว"ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา มีคนมากมายอยากกำจัดฉัน แม้แต่ผู้นำประเทศมี่ ก็อยากกำจัดฉันทิ้ง เพื่อแบ่งปันทรัพยากรในมือของฉัน รากฐานของฉันในหนานหยาง ยังไงก็ยังตื้นเกินไปนิดหน่อย เผชิญเจอปัญหาอะไร ก็ต้องออกมาหลบบ้าง"
สวี่เอ้าเสวี่ก็รู้สึกว่าสถานการณ์หนานหยางในตอนนี้กดดันกันเกินไป ถูกบังคับจนไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงออกมาชั่วคราวก่อน
เนื่องจาก แม้แต่ในหมู่ประเทสมี่ที่เธอจงใจผูกมิตรแต่บางคนยังต้องการรกำจัดเธอ
สิ่งนี่ทำเธอรู้ว่าตัวเองนั้นรากฐานตื้น อีกอย่าง ช่วงนี้สร้างเรื่องไว้ฉูดฉาดเกินไป ควรถ่อนตนหน่อย ไม่อย่างนั้น ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป รากฐานที่เพิ่งสร้างขึ้นในหนานหยาง อาจจะถล่มได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...