ถึงแม้ว่าจะมาเจอกับผู้ชายคนนี้ที่ทำให้ตัวเองรู้สึกแค้นจนเข็ดฟันนั้น แต่สวีเอ้าเสวี่ยกลับรู้สึกอุ่นใจอย่างแปลกประหลาด
เมื่อเห็นฉีเติ่งเสียนรับโทรศัพท์แล้วก็ไปอาบน้ำเพื่อที่จะไปนั้น สวีเอ้าเสวี่ยก็อดไม่ได้ที่จะห้าเปลี่ยนเป็นเย็นชา พึ่งจะจัดการสำเร็จก็เตรียมที่จะปล่อยเธอทิ้งไว้คนเดียว มันทำให้เธอรู้สึกราวกับถูกหลอกฟันก็ไม่ปาน
“เธอยังจะตะลึงอยู่ตรงนี้อีกทำไม?รีบไปเปลี่ยนชุดแล้วไปรับคนกับฉันเร็ว ฉันหาโอกาสมาให้ เธอจะเอาไหม?” ฉีเติ่งเสียนมองไปยังสวีเอ้าเสวี่ยด้วยความไม่สบอารมณ์
“หืม?” สวีเอ้าเสวี่ยชะงัก หลังจากที่ได้สติกลับมา ก็ได้แต่ยิ้มแห้ง“นายจะให้โอกาศอะไรฉัน?”
“ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่เป็นอย่างไร!” ฉีเติ่งเสียนรีบพูด
“บิดารมันเถอะ!” สวีเอ้าเสวี่ยไม่ได้ตามใจเขา และตอบกลับทันที คนฉลาดแบบเธอนั้น จะฟังที่ฉีเติ่งเสียนพูดไม่ออกได้อย่างไร
ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าฉีเติ่งเสียนหน้าหม้อนี้จะไปรับใคร แต่สวีเอ้าเสวี่ยก็ได้เปลี่ยนชุดเรียบร้อย และออกไปพร้อมกับเขา มุ่งหน้าไปยังสนามบินเมืองจิงเต่า
ทั้งสองก็มาถึงสนามบินอย่างรวดเร็ว อาจารย์จางเทียนและเหรินซวนทั้งสองนั้นอยู่ท่ามกลางผู้คน เรียกได้ว่าโดดเด่นกว่าในหมู่คนทั่วไป
เนื่องจากทั้งสองคนไว้มวยผม แม้ว่าเหรินซวนจะอยู่ในชุดธรรมดา แต่ก็ไม่อาจกลบกลิ่นอายของเขาได้ ส่วนอาจารย์จางเทียนนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย อยู่ในชุดของราชวงค์ถังสีขาวทั้งชุด ราวกับเซียนไม่ปาน คนอื่นเมื่อมองก็รู้ได้เป็นยอดฝีมืออย่างแน่นอน
“โยม อาตมาว่าโหงวเฮ้งของโยมดูดีไม่น้อย มีโชคชะตาพารวย ในอนาคตมีแววได้เป็นคนรวย อาตมาวันนี้มีวาสนากับโยม......” อาจารย์จางเทียนพูดกับชายผู้หนึ่งที่ดูทรงแล้วเหมือนคนรวย
“หลอกลวง ไปซะ!ข้าบุกใต้ตะลุยเหนือ ขึ้นเหนือล่องใต้มานานหลายปี จะมีคนแบบไหนที่ยังไม่เคยเจออีก?คงไม่ได้คิดว่าตัวเองไว้มวยผมแล้วจะเป็นอาจารย์สำนักหรอกใช่ไหม?” เขาแสยะยิ้ม จากนั้นก็หันหน้าแล้วเดินจากไปทันที
อาจารย์จางเทียนโบกมืออย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นจึงหันไปพูดกับเหรินซวนว่า“บอด โลกได้เปลี่ยนไปแล้วซินะ ธุรกิจมิจฉาชีพ แม้แต่ผู้ที่มีวาสนาก็ไม่เชื่อพวกเราแล้ว”
เหรินซวนพยักหน้า แล้วถามขึ้นว่า“ท่านอาจารย์ ท่านได้เก็นเงินจำนวนห้าล้านจากบาจรีย์ท่านก่อน ค่าใช้จ่ายของเขาเสวียนหวู่ของพวกเราตอนนี้ก็ลงตัวดี ยังจำเป็นที่จะต้องหาผู้ที่มีวาสนาอีกหรือ?”
“ยิ่งมากยิ่งดี!” อาจารย์จางเทียนบอก
ฉีเติ่งเสียนอาศัยช่วงจังหวะที่ทั้งสองคุยกันนั้น ได้พาสวีเอ้าเสวี่ยเดินมายังตรงหน้าของทั้งสองคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เชอะ!ดูไม่รู้เลยนะเนี่ย ผู้มีวาสนาของอาจารย์นี่เยอะจริงๆ?!” ฉีเติ่งเสียนหัวเราะ พร้อมกับประเมินไปที่อาจารย์จางเทียน
อาจารย์จางเทียนรีบร้อนทำมือเคารพ “ขอเทียนจุนอำนวยพร เคารพท่านบาจรีย์!”
สวีเอ้าเสวี่ยที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว คิดในใจว่าฉีเติ่งเสียนไปรู้จักกับคนแปลกประหลาดแบบนี้ที่ไหน สองคนนี้ดูทรงราวกับมิจฉาชีพอย่างไรอย่างนั้น?
อีกอย่าง หมอนี่ เป็นถึงบาจรีย์ของนักพรตผมขาว?ลำดับนี้ไม่มากเกินไปหรือ?!
เหรินซวนก็รีบพูดขึ้น“ขอเทียนจุนอำนวยพร เคารพท่านบาจรีย์!”
สวีเอ้าเสวี่ยถึงกับเหลือกตามองบนทันที เยี่ยมไปเลย ยิ่งกว่าเดิม!
อาจารย์จางเทียนที่อยู่ด้านข้างนั้นก็ได้มองประเมินสวีเอ้าเสวี่ยด้วยแวบเดียว“เอ๋ แม่หญิงผู้นี้มีความเป็นมาอย่างไร?ชะตาชีววิตถึงได้มีกลิ่นอายมงคล อีกทั้ง ดูจากโหงวเฮ้งแล้ว เป็นคู่เหมาะคู่สมกับท่านบาจรีย์นะเนี่ย!”
สวีเอ้าเสวี่ยยิ้มแห้ง“หลอกลวง เลิกพูดจาเพ้อเจ้อได้แล้ว ระวังฉันจะจับไปหันแล้วเอาไปให้ฉลามกิน”
อาจารย์จางเทียนถึงกับชะงักกับคำพูดของสวีเอ้าเสวี่ย หนวดถึงกับกระตุก
นี่มันอะไรกัน?!
ตาแก่หลอกลวง?!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...