มิคาอิล เขาเป็นบุคคลสำคัญในประเทศเสวี่ย ซึ่งทำงานภายใต้ผู้นำผู้ก่อตั้งประเทศเสวี่ย
เขายังมองเห็นถึงความเสื่อมโทรมของประเทศเสวี่ยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และทิ้งการสำรองข้อมูลไว้มากมายก่อนที่เขาจะเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ก็ไม่มีประโยชน์
ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อบางสิ่งเน่าเสียจนถึงแกนกลาง ถ้าคุณไม่เปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับพลังงาน ไม่ว่าคุณจะใช้การสำรองข้อมูลกี่ครั้ง มันก็จะไร้ประโยชน์
ในที่สุดประเทศเสวี่ยก็มาถึงจุดสิ้นสุดของการสลายตัวในปัจจุบัน และมรดกทางการเมืองก็ถูกแบ่งแยกโดยผู้ประกอบการที่ก้าวร้าว
สายเลือดหนึ่งเดียวของอิเลียน่าจินวา ในช่วงเวลาสถานการณ์ที่ตึงเครียดก็ถูกคนนั้นจับตามอง
เห็นท่าทางที่แน่วแน่ของฉีเติ่งเสียน ฉีหยุนเฟิงพูดขึ้น: “ฉันไม่ห้ามคุณ ฉันจะพูดกับคุณเพียงประโยชว์ที่คนเหล่านั้นพูดถึง....”
“ใคร?โทคาเรฟสกี?หรือกูซินสกี้ วิโนกราดอฟ โดโคสกี้ หรือรัฐบาลประเทศเสวี่ย?”ฉีเติ่งเสียนถามขึ้น
“ทั้งหมดเลย”ฉีหยุนเฟิงพูดอย่างจริงจัง
ฉีเติ่งเสียนเม้มปากแล้วพูดขึ้น: “ไม่ต้องพูดกับฉันละ ฉันไม่มีทารมณ์และไม่อยากทำเรื่องแบบนี้ อีกทั้งตระกูลฉีอย่าหวังอะไรจากเขา ฉันไม่อย่านั้นฉันไม่ไว้หน้า!”
ฉีหยึนเฟิงเห็นฉีเติ่งเสียนจริงจังและแน่วแน่ ก็ตะลึงแล้วถอนหายใจ ตบไปที่ไหล่ของเขาแล้วพูดขึ้น: “ฉันรู้แล้ว!”
“เหตุผลที่ตระกูลฉีแตกต่างจากตระกูลจ้าวก็เพราะพวกเขาไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้เป็นอันดับแรก”
“ตราบใดที่คุณไม่ตัดสินใจเด็ดขาดมากเกินไป พวกเราจะสนับสนุนคุณเพราะเราคือครอบครัว!”
หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนได้ยิน ในใจก็อบอุ่นมาก เพราะเหตุผลนี้เขาจึงติดต่อกับฉีปู้อวี่และตระกูลฉีอย่างลับๆจนถึงตอนนี้
ฉีเติ่งเสียนพูด: “ฉันจะค่อยปกป้องเขาตลอด นอกจากวันที่เขาตัดสินใจกลับประเสวี่ยทำบางอย่าง แน่นอนว่าถ้าเขาต้องการให้ฉันช่วยฉันก็ไม่ปฏิเสธ”
ฉีหยุนเฟิงหัวเราะ แล้วไม่ตามเรื่องนี้อีก แม้ว่าสมาชิกหลักบางคนในครอบครัวให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก แต่เนื่องจากฉีเติ่งเสียนคัดค้าน เขาจะไม่บังคับ
ยิ่งกว่านั้นคือเขาไม่สามารถบังคับได้!
นิสัยของฉีปู้อวี่ หนึ่งคนหนึ่งหมัดไม่รู้ระเบิดสมองคนไปเท่าไหร่แล้ว นิสัยของฉีเติ่งเสียนไม่ต่างจากพ่อของเขามากเท่าไหร่หรอก
“ฉันไม่กินข้าวกับคุณแล้ว อีกสักพักยังต้องไปเจอนายกเมืองจิงเต่าคุยกันหน่อย”ฉีหยุนเฟิงยกมือขึ้น ความหมายคือให้ฉีเติ่งเสียนตามสบาย
“ตุม พี่ใหญ่ก็คือพี่ใหญ่ คนใหญ่คนโต ดีไม่ดีก็จะไปกินข้าวกับนายก และจะไปสนทนากัน”ฉีเติ่งเสียนเม้มปากแล้วพูด
ฉีหยุนเฟิงไม่อยากสนใจเขา ให้เขารีบไป
ฉีเติ่งเสียนไม่พูดอะไรต่อ เรียกสวีเอ้าเสวี่ยแล้วจากไปพร้อมกัน
หลังจากที่ทั้งสองจากไป ฉีหยุนเฟิงก็ติดต่อกับที่ปรึกษาของตัวเอง สามารถช่วยสวีเอ้าเสวี่ยอย่างไงได้บ้าง
“เป็นไงบ้าง ดีต่อคุณไหม?รู้ว่าสถานการณ์ของคุณในหนานหยางไม่ค่อยดี กำลังของตระกูลฉีฉันก็เอามาช่วยคุณหมดแล้ว นี่ยังไม่ขอบคุณฉัน?”ฉีเติ่งเสียนพูดกับสวีเอ้าเสวี่ย ท่าทางได้ใจ
“ฮ่าๆๆ ไม่เลวเลย นี่ก็ทำให้ฉันรู้สึกกลายเป็นหญิงสาวแสนสวย ผู้ชายกลายเป็นหมาเลียแข่ง”สวีเอ้าเสวี่ยหัวเราะเบาๆแล้วตอบกลับ
คำพูดนี้ทำเอาฉีเติ่งเสียนมองบน ไม่เจอมาสักพัก สวีเอ้าเสวี่ยปากดีขึ้น ทำให้เขานั้นได้ใจและทำให้เขานั้นนอยด์
แต่ว่า พูดไปแล้วครั้งนี้ได้รับการช่วยเหลือจากฉีเติ่งเสียนจริงๆ สวีเอ้าเสวี่ยไม่ได้ขอร้องเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...