มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1309

ท้ายที่สุดเฉินชิงได้เข้าไปลี้ภัยอยู่ในเรือนจําโยวตู่มาระยะแล้วหนึ่ง ชัดเจนมากว่าฉีเติ่งเสียนคนบ้านนอกที่แทบจะไม่ได้ออกจากคุกเล็กๆนั้น ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูเหมือนเรียบง่ายและจริงจัง จริงแล้วมีแผนการที่มืดมนแฝงไว้

มันอาจจะต้องควบคุมเมื่อออกจากคุกครั้งแรก แต่หลังจากปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมภายนอกได้ก็ไม่ต้องควบคุมอะไรขนาดนั้นแล้ว

หลังจากเห็นเฉินชิง ฉีเติ่งเสียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่ายีนตระกูลเฉินของพวกคุณจะไม่เหมือนกับพี่สาวของนายเลย ดูลูกชายสิถูกแดดเผาจนเหมือนลิง”

เฉินชิงตะคอกอย่างเย็นชาและพูดว่า “ไม่ว่าฉันจะดําขําแค่ไหน แต่มันก็ไม่ดําเหมือนหัวใจของนายหรอก!”

ฉีเติ่งเสียนขี้เกียจจะพูดอะไรกับผู้ชายคนนี้ ปล่อยให้เขาขึ้นรถตัวเองแล้วพาเขากลับไปที่วิลล่าของหยางกวนกวน

“วันนี้มีปาร์ตี้แวดวงชั้นสูงที่จิงเต่า พวกเขาทุกคนเป็นนายน้อยของตระกูลที่ร่ำรวยในจิงเต่าและเซียงซาน ทําไมไม่ไปด้วยกันล่ะ? บางทีเราอาจหาโอกาสในการร่วมมือทําธุรกิจด้วยกันได้” เฉินชิงพูดด้วยรอยยิ้ม

“อืม? ก็ไม่แย่นะ” เมื่อฉีเติ่งเสียนได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกสนใจเล็กน้อย

สุดท้ายแล้วการพึ่งตระกูลเหอแค่ตระกูลเดียวก็ยังไม่พอที่ต่อสู้กับคาสิโนที่ตระกูลจ้าวและตระกูลเย่ส่งเสริมอยู่ มันจำเป็นต้องดึงกองกำลังที่สามเข้ามาเพิ่ม

เฉินชิงพูด “ทำไมนายเปลี่ยนมาขับบีเอ็มซีรี่ส์เจ็ดหล่ะ มันเกิดอะไรขึ้น? ซื้อรถใหม่เหรอ”

ฉีเติ่งเสียนพูด “รถคันนี้ไม่ใช่ของฉัน แต่เป็นของเลขาหยาง”

หยางกวนถูกเจ้าของบริษัทใหญ่ของเบ้นท์และออดี้เยาะเย้ยตั้งแต่ไปซื้อรถกับฉีเติ่งเสียนและคนอื่นๆในจงไห่ มันทำให้เธอยิ่งตกหลุมบีเอ็มเอารถและเอารถบีเอ็มมาเปลี่ยนแทนทุกที่ทุกคันในกรุ๊ป

ฉีนเติ่งเสียนไม่สนใจที่จะประเมินเรื่องรสนิยมของหยางกวนกวน เขาเป็นคนบ้านนอก รถอะไรก็ได้แค่ไม่ดึงจุดสนใจก็พอ ขอแค่ขับได้

เขาชอบโฟล์คสวาเกนเฟทอนที่อู่เต้าทิ้งไว้ แต่น่าเสียดายที่มันถูกเปลี่ยนไปหมดแล้ว

ถ้าให้พูดเรื่องรสนิยมเรื่องรถ ต้องเป็นนายทุนคนสวยแน่ๆ เธอยกมือก็เห็นรถอัศวินไนท์ฟิฟทีน มันทำให้ฉีเติ่งเสียนตกหลุมรักได้ในทันที แต่น่าเสียดายที่รถนั้นสะดุดตาเกินไปและยากที่จะบิดบังความร่ำรวยจากคนอื่น ตอนนี้ยังอยู่ในเซียงซาน ให้กุญแจอาปินไปแล้วเพื่อที่เขาจะได้ขับรถเล่นตอนว่างๆ อย่าทำให้มันพัง

ทันทีที่ฉีเติ่งเสียนจอดรถในโรงรถ ก็ได้ยินเสียงที่น่าตกใจดังมาจากลานวิลล่า

“แรงขึ้นหน่อย แรงขึ้นอีก อย่าหยุด!” เสียงที่โหดเหี้ยของจิ่วเฮิงดังขึ้น

“ไม่ได้แล้ว อาจารย์จิ่วเฮิงฉันทําไม่ได้จริงๆ...” เสียงหมาป่าโลภผู้บอบบางดังตามมา

จิ่วฮิงหัวเราะเยาะและพูดว่า “ไม่ได้ก็ต้องได้ ฉันเกือบจะสบายใจแล้ว แรงขึ้นอีก!”

เฉินชิงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฉีเติ่งเสียนและคนอื่นๆด้วยความกลัวและพูดว่า “นี่...”

ฉีเติ่งเสียนยักไหล่และพูดว่า “นายอยากเข้าร่วมกับพวกเขาด้วยไหมหล่ะ?”

ทั้งสองออกมาจากโรงรถ ผ่านไปไม่กี่ก้าวเฉินชิงก็เห็นว่าจิ่วเฮิงและหมาป่าโลภกําลังฝึกซ้อมอยู่ ในที่สุดเขาก็โล่งใจว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด

ทําไมถึงดูผิดหวังเล็กน้อย?

“อ่าว? มีแขก!” จู่จิ่วเฮิงก็ลืมตา เขาผลักหมาป่าโลภออก และเดินออกมาอย่างรีบร้อน

เฉินชิงรู้สึกว่าชายผู้แข็งแกร่งคนนี้มีพลังเหมือนสิงโต!

จิ่วเฮิงยืนนิ่งอยู่ข้างหน้าเฉินชิงและกวาดสายตามองขึ้นลงเล็กน้อย เขาถอนหายใจและพูดอย่างไม่แยแสว่า “เป็นขยะที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้แค่ห้าอย่างเท่านั้น มันน่าเบื่อ”

หลังจากพูดแบบนี้เขาก็หันกลับมาและเดินออกไป

เฉินชิงทนไม่ได้ที่จะยืนอยู่ในสถานการณที่ยุ่งเหยิงแบบนี้ นี่เป็นคนแบบไหน? เพิ่งมาถึงก็พูดเยาะเย้ยกันแบบนี้ มารยาทบ้างหรือเปล่า? คุณภาพต่ำจริงๆ

“นายมีเลขาที่สวยขนาดนี้ ยังคิดถึงพี่สาวฉันอยู่เหรอ? ละอายใจบ้าง” เฉินชิงอดไม่ได้ที่จะด่าข้างๆหูของฉีเติ่งเสียน

“เฉินหยูร้ายเกินไป ฉันแค่กลัวว่าเธอจะทําร้ายผู้ชายคนอื่น คุณรู้ดีว่าฉันเป็นพระอัครสังฆราชของศาสนาศักสิทธิ์!บุตรศักดิ์สิทธิ์ปล่อยให้ตัวเองถูกตรึงกางเขนและทนทุกข์เพื่อผู้ศรัทธา ฉันพระอัครสังฆราชถึงแม้ว่าจะทำเรื่องความรักที่ไม่เห็นแก่ตัวไม่ได้ แต่อย่างน้อยฉันก็เต็มใจที่จะเสียสละตัวเอง” ฉีเติ่งเสียนพูด

“ไม่สําคัญหรอกว่าน้องสาวฉันจะดูดีหรือไม่ เหตุผลหลักๆคือนายไม่ต้องการให้ผู้ชายคนอื่นถูกทําร้ายใช่ไหม” เฉินชิงเข้าใจคําพูดของฉีเติ่งเสียน และพูดในสิ่งที่เขากำลังจะพูด

“...” ฉีเติ่งเสียนเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วรอยยิ้มที่ใจดีก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “โชคดีที่ที่นี่ไม่ใช่เรือนจําโยวตู ไม่อย่างนั้นฉันจะให้นายได้ลิ้มรสการถูกครอบงำ”

เฉินชิงจําอดีตได้และอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เขาพูดกับตัวเองว่าต่อให้เขาตายก็จะไม่มีทางปล่อยให้ผู้ชายคนนี้เป็นพี่เขยตัวเองเด็ดขาด!

“จิ่วเฮิงมีปาร์ตี้ตอนบ่าย คุณอยากไปด้วยกันไหม” ฉีเติ่งเสียนถาม

“มีใครให้สู้บ้างไหม?” จิ่วเฮิงถามแต่ไม่ได้ลืมตาขึ้น

ฉีเติ่งเสียนพูด “อาจจะไม่”

จิ่วฮัมพูด “งั้นไม่ไป”

หมาป่าโลภที่อยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะอก ที่สื่อว่า - เลือกฉันสิ! เลือกฉัน!

ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้จะมีเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัด

“เห็นว่าช่วงนี้คุณทำงานอย่างมีความรับผิดชอบ ดังนั้นฉันจะให้คุณออกไปด้วย” ฉีเติ่งเสียนกันไปมองหมาป่าโลภและพูดด้วยรอยยิ้ม

วิธีเดียวคือใช้ความยุติธรรมและความเมตตา ไม่ใช่การกดขี่อย่างสุ่มสี่สุ่มห้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง