หลานอวี่ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่ฉีเติ่งเสียนปรากฏตัวอยู่ที่นี่
หลิวต้าฟู่ก็ไม่ได้รีบอธิบายว่าทำไมถึงได้มาพบกับฉีเติ่งเสียนที่นี่ได้
ทุกคนต่างเงียบ
สุดท้ายหลานอวี่ก็เป็นคนทำลายความเงียบนี้ เธอหัวเราะออกมาเบาๆแล้วพูด : “ทำไม? รู้ว่าสถานการณ์ของตัวเองกำลังย่ำแย่ เตรียมจะทิ้งศักดิ์มาอ้อนวอนขอความช่วยแหลือแล้วหรอ? หรือว่ายอมรับโชคชะตาปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม?”
ฉีเติ่งเสียนกลับยิ้มขำแล้วพูดว่า :“คนรับใช้อย่างเธอหยุดพูดเถอะ ฉันไม่สนใจจะเปลืองน้ำลายกับคนรับใช้คนหนึ่ง ให้เจ้านายของเธอมาคุยกับฉันจะดีกว่า ”
หลานอวี่กลับตอบ :“ถือเป็นเกียรติของฉันที่ได้ทำเพื่อคุณชายหมิงลู่ ! ถึงแม้ฉันจะเป็นเพียงแค่คนรับใช้คนหนึ่งตามที่คุณพูด แต่คนรับใช้อย่างฉันก็สามารถบีบคุณจนมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่ว่าคุณจะไร้ประโยชน์เกินไปหรอ ?”
ฉีเติ่งเสียนเพียงยักไหล่ คร้านที่จะตอบ
หลานอวี่ยังพูดกดดันต่อว่า :“ถึงแม้ว่าคุณจะร่วมมือกับบ้านรองตระกูลเฮ่อได้สำเร็จ กระทั่งในงานเลี้ยงฝากตัวเป็นศิษย์ยังสามารถสร้างความยุ่งยากครั้งใหญ่จนทำให้เฮ่อเซียนเซียนเสียหน้าได้”
“แต่แล้วอย่างไรเล่า ? เหตุการณ์นั้นใช่ว่าจะสร้างผลกระทบต่อเมืองจิงเต่าสักเท่าไหร่กัน?!”
“บ้านสามนั้นมีตระกูลฉีคอยสนับสนุน ไม่มีทางที่จะสนใจคุณหรอก ; บ้านใหญ่ยังมีตระกูลจ้าวของฉันที่คอยช่วยเหลือ คุณย่อมไม่มีทางสอดมือมาได้!”
“อีกอย่าง ใกล้จะถึงวันแข่งเซียนพนันที่คาสิโนฮวาลั่วแล้ว ถึงเวลานั้นอาศัยเพียงแค่บ้านรองตระกูลเฮ่อคุณจะเอาอะไรมาสู้กับฉันได้”
หลิวต้าฟู่หัวเราะออกมาเสียงดังแล้วพูด : “เป็นตามที่คุณหนูหลานพูดมาไม่ผิด สกุลฉีก็เป็นเพียงแค่สุนัขขี้แพ้ข้างถนนเท่านั้นแหละ มีสิทธิ์อะไรมาสู้กับพวกเรากัน? ”
ไม่พูดไม่ได้ว่าหลิวต้าฟู่เป็นนักแสดงที่ดีจริงๆ ตอนนี้ที่แสดงออกมาช่างหาจุดตำหนิไม่เจอเลย
แน่นอนล่ะว่า ตัดความเป็นจริงที่ว่าเขาถูกฉีเติ่งเสียนรังแกออกไม่ได้ เขาจึงใช้โอกาสนี้เหน็บแนมฉีเติ่งเสียนให้หนักๆอีกทั้งยังไม่ต้องกังวลว่าจะถูกแก้แค้นอีกด้วย
“รีบไสหัวออกไปจากจิงเต่าซะ กลับไปเฝ้าสกุลเหลยที่ทรุดโทรม ดูแลสาขาย่อยหลงเหมินที่แสนอ่อนแอของคุณเถอะ อย่าคิดสอดมือเข้ามายุ่งกับเมืองจิงเต่า ”
หลานอวี่พูดออกมาด้วยมาดสูงส่ง บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ตอนนั้นมีทาสชั้นต่ำชื่อลวี่ฉ่ายตอนมาที่เซียงซานครั้งแรก ก็หยิ่งยโสเหมือนกับเธอในตอนนี้ แต่สุดท้ายแล้วแม้แต่หัวก็ไม่มี..... ” ฉีเติ่งเสียนถอดถอนหายใจพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้
เพียงเอ่ยถึงเด็กรับใช้ลวี่ฉ่าย สีหน้าของหลานอวี่กลับเปลี่ยนเป็นไม่น่ามองอย่างมาก
พวกเธอทั้งสี่คนล้วนรับคำสั่งจากจ้าวหมิงลู่อีกทั้งความสัมพันธ์ดุจดั่งพี่น้อง หลังจากลวี่ฉ่ายตายจิตใจของพวกเธอก็ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก
ไม่เอ่ยถึงว่าเป็นหยางกวนกวนลงมือสังหารลวี่ฉ่ายแต่ยังตัดหัวส่งให้กองทัพราตรีนิรันดร์มอบให้แก่จ้าวหมิงลู่ที่เมืองหลวง
เรื่องนี้สำหรับตระกูลจ้าวแล้วนับเป็นความน่าอัปยศยิ่งนัก!
“ตอนนี้ฉันก็ได้รับเฮ่อตั่วเหลียนมาเป็นศิษย์แล้ว ทำไมไม่ปล่อยให้เธอทุบตีคุณให้ตายแล้วหลังจากนั้นก็ตัดหัวคุณ ? ฉันว่าวิชากังฟูของเธอก็ไม่ได้สูงส่งพอๆกับลวี่ฉ่ายคนนั้นหรอก” ฉีเติ่งเสียนมองไปอย่างหลานอวี่อย่างครุ่นคิดแล้วถามด้วยรอยยิ้ม
หลานอวี่สีหน้าภายนอกยังแสดงออกอย่างเย็นชา แล้วพูด “ถึงเวลานั้นฉันจะตัดหัวของพวกนายแต่ละคนเอง!”
ฉีเติ่งเสียนปัดพนักแขนโซฟาเบาๆ ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ก็เพราะอยู่ที่เมืองจิงเต่า ถ้าหากว่าอยู่ที่เซียงซานละก็ฉันจะตัดหัวของเธอมาดองเหล้า ! แต่ว่านะเชื่อเถอะว่าอีกไม่นานหรอกแม้ฉันจะอยู่ที่จิงเต่าก็สามารถตัดหัวของเธอได้อย่างเปิดเผยแล้ว”
ครั้งก่อนหลานอวี่ได้แสดงตัวที่เขาเซียงซาน เห็นได้ชัดว่าเธอช่างใจกล้านัก ณ ตอนนั้นเป็นเพราะข้างกายเธอมียอดฝีมืออย่างจ้าวหงซิ่วซ่อนตัวอยู่ในเงามืด
ตอนนี้หากให้โอกาสเธออีกครั้ง ให้ไปยังเซียงซานเพียงลำพัง เธอคงไม่มีแม้แต่ความกล้าด้วยซ้ำ นั้นมิใช่เท่ากับว่าส่งตัวเองไปตายหรอกหรือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...