ผู้หญิงมักอ่อนไหวง่าย นี่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แน่นอนว่าที่สภาพจิตใจและร่างกายของสวีเอ้าเสวี่ยไม่ค่อยดีนักก็เป็นเพราะเหตุผลนี้ด้วย
เพราะเธอได้รู้ข่าวการเสียชีวิตของปู่แล้ว
แน่นอนว่าเธอมีความแค้นและความเกลียดชังต่อตระกูลสวี แต่ที่เธอเก่งเหมือนทุกวันนี้ได้ก็เพราะผู้อาวุโสสวี
การที่คนในครอบครัวเสียชีวิตแต่ไม่สามารถไปร่วมงานศพได้ ทำให้เธอรู้สึกเศร้าใจมาก
มีเรื่องมากมายให้เธอทำที่หนานหยาง บวกกับสภาพจิตใจที่อ่อนล้า สุดท้ายก็ทำให้เธอล้มป่วย
สวีเอ้าเสวี่ยนวดขมับตัวเองเบาๆ ก่อนจะมองหากล่องยาเพื่อหายาลดไข้กิน แต่เมื่อเปิดดูกลับไม่พบยาที่ต้องการ
ในขณะที่กำลังจะโทรให้คนไปซื้อยา ก็เห็นฉีเติ่งเสียนกลับมาพร้อมถือถุงบางอย่างในมือ
"กลับมาทำไม?" สวีเอ้าเสวี่ยถามด้วยสีหน้ามืดครึ้ม
"ก็ไปซื้อยาให้คุณมาน่ะสิ คิดว่าผมจะมาหาเรื่องคุณหรือไง?" ฉีเติ่งเสียนตอบเสียงเรียบ
สวีเอ้าเสวี่ยได้ยินก็แค่นหัวเราะ แต่ในใจกลับรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด สภาพจิตใจก่อนหน้าที่ยุ่งเหยิงก็เหมือนจะตีรวนกันมากยิ่งขึ้น
เช่นเดียวกับฉีเติ่งเสียน ที่หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าแค่ชอบร่างกายของเธอหรือตกหลุมรักเธอเข้าให้แล้ว
"จะเสแสร้งไปทำไม? ต่อให้ฉันต้องตาย ฉันก็ไม่มีวันกินยาของนายเด็ดขาด!" สวีเอ้าเสวี่ยพูดพลางยิ้มเย็น
ฉีเติ่งเสียนยักไหล่ ก่อนจะโยนถุงยาให้สวีเอ้าเสวี่ย "อ่านฉลากยาเอาเองแล้วกัน เดี๋ยวผมทำอะไรให้กิน คุณต้องกินอะไรสักหน่อย"
ในขณะที่พูดก็เดินเข้าไปในครัว ทำบะหมี่ง่ายๆให้สวีเอ้าเสวี่ยหนึ่งชาม พร้อมด้วยไข่ดาวและต้นหอมตกแต่งเสร็จสับ
ฉีเติ่งเสียนชอบทำบะหมี่ให้สวีเอ้าเสวี่ยกิน
"กินอะไรสักหน่อยเถอะ ชามนี้ผมพยายามทำมากนะ" ฉีเติ่งเสียนวางชามบะหมี่ตรงหน้าสวีเอ้าเสวี่ยพลางพูด
สวีเอ้าเสวี่ยไม่สบาย ถึงแม้ท้องจะหิวแค่ไหนแต่ก็ไม่รู้สึกอยากอาหารเลย แต่ตอนนี้ พอได้กลิ่นหอมๆก็เริ่มรู้สึกอยากขึ้นมาบ้างแล้ว
แต่อาหารตรงหน้าก็ไม่ได้ทำให้สวีเอ้าเสวี่ยรู้สึกไว้ใจฉีเติ่งเสียนขึ้นมา เธอหัวเราะเสียงเย็นพลางถาม "ดีกับฉันแบบนี้ ไม่ใช่ว่าหวังผลอะไรอยู่หรอกนะ?"
"ดูชามนี้สิ ทั้งกลมทั้งใหญ่ บะหมี่ก็ทั้งยาวทั้งกว้าง แม้แต่ปากของคุณก็ทั้งแข็งทั้งเหม็น" ฉีเติ่งเสียนพูด
สวีเอ้าเสวี่ยขี้เกียจต่อปากต่อคำด้วยแล้ว จึงหยิบตะเกียบคีบเส้นบะหมี่เข้าปาก ความรู้สึกแรกคืออร่อยมาก จึงอดไม่ได้ที่จะกินต่ออีกหลายคำ
"เป็นไงบ้าง?" ฉีเติ่งเสียนถาม
"อร่อยมาก!" สวีเอ้าเสวี่ยโพล่งออกมาอย่างลืมตัว
สุดท้ายแล้วบนโลกใบนี้ก็ไม่มีใครหนีอาหารเลิศรสได้ แม้แต่คนเย่อหยิ่งอย่างสวีเอ้าเสวี่ยก็ตาม
สวีเอ้าเสวี่ยเหมือนจะรู้ตัว จึงพูดกลบเกลื่อน "ฉันบอกว่าจะไม่กินยาของนาย แต่ไม่ได้บอกว่าจะไม่กินบะหมี่"
ได้บะหมี่ชามนี้ช่วยหาทางลงให้ สวีเอ้าเสวี่ยก็รู้สึกโล่งอก หลังกินบะหมี่เสร็จก็กินยาต่อ
ฉีเติ่งเป็นคนมีสัญชาติญาณที่ดี เขารู้ดีว่าสาเหตุที่ทำให้สวีเอ้าเสวี่ยมีสภาพเป็นแบบนี้คืออะไร แต่เขาก็ไม่ได้พูดปลอบใจอะไร เพราะพูดไปแล้วอาจจะทำให้เธอเสียใจยิ่งกว่าเดิม สู้ไม่พูดอะไรจะดีกว่า
"การแข่งเซียนพนันจะประกาศเมื่อไหร่?" สวีเอ้าเสวี่ยถาม
"อยากกลับหนานหยางแล้วเหรอ?" ฉีเติ่งเสียนพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...