มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1485

ฉีเติ่งเสียนเล่าเหตุการณ์ที่ผึ่งไหลให้เซี่ยงตงฉิงฟัง เขาเดินทางไปส่งเซี่ยงตงฉิงที่โมตูเสร็จก็ย้อนไปที่ผึ่งไหลทันที

เรื่องนี้ทำให้เซี่ยงตงฉิงกังวลแน่นอน เพราะนี่เป็นการเข้าไปในสงครามสากลที่แปลกและลึกลับ ใครจะรู้ว่าผลสุดท้ายจะเป็นยังไง?

แต่ทว่า เซี่ยงตงฉิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย ฉีเติ่งเสียนมีประสบการณ์มากมายนับไม่ถ้วน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องให้เธอตักเตือนอะไรอยู่แล้ว

ฉีเติ่งเสียนให้เซี่ยงตงฉิงพักผ่อนอยู่ในโรงแรม ส่วนเขาวิ่งกลับเข้าไปหาพระสันตะปาปาที่วิหารอีกครั้ง เพื่อขอน้ำมนต์

“นายดื่มน้ำมนต์แทนน้ำแร่หรือไงกัน? หืม? ก่อนหน้านี้เพิ่งให้นายไปไม่นานก็ดื่มหมดแล้วเหรอ!” สมเด็จพระสันตะปาปาจ้องฉีเติ่งเสียนเขม็ง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ผมเองก็ไม่อยากดื่มหมดไวขนาดนี้เหมือนกัน แต่บางทีมันไม่ดื่มไม่ได้น่ะสิ…” ฉีเติ่งเสียนแบมืออย่างช่วยไม่ได้แล้วตอบ

สมเด็จพระสันตะปาปาเอ่ยเสียงเย็น “หนึ่งร้อยล้านดอลลาร์กระบอกหนึ่ง เอาเงินมาซื้อสิ นายเอาเงินมาซื้อได้มากเท่าไหร่ ฉันก็จะให้น้ำมนต์นายมากเท่านั้น! มากสุดก็แค่มอบทั้งวิหารนี้ให้กับนาย!”

มอบทั้งวิหารให้ฉีเติ่งเสียนคนเดียวนั้นเป็นเรื่องล้อเล่นอยู่แล้ว อีกอย่างฉีเติ่งเสียนเองก็ไม่มีเงินจำนวนมากขนาดนั้นด้วย

แต่ทว่า ฉีเติ่งเสียนรู้นิสัยขี้เหนียวของพระสันตะปาปาตั้งนานแล้ว เขาจึงรีบเข้าไปใกล้แล้วกระซิบพูดกับเขาเบาๆ

สมเด็จพระสันตะปาปาฟังแล้วสีหน้าพลันเข้มงวดขึ้นมา จากนั้นก็เหลือบมองฉีเติ่งเสียนแวบหนึ่งแล้วถามว่า “จริงเหรอ?”

ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า กล่าวว่า “ผมพูดจริงทำจริงอยู่แล้ว ขอแค่ท่านมอบน้ำมนต์ให้กับผม กลับไปผมจะจัดการให้ทันที”

พระสันตะปาปาลูบเคราของตนเองแล้วครุ่นคิดเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง เมื่อคิดว่าฉีเติ่งเสียนก็คงไม่กล้าโกหกเขา เขาจึงสั่งให้ผู้ช่วยของตนไปหยิบน้ำมนต์มามอบให้กับฉีเติ่งเสียน

ฉีเติ่งเสียนได้รับน้ำมนต์ ก็ยิ้มดีใจอย่างเห็นได้ชัด การมาครั้งนี้คุ้มค่าจริงๆ

ขณะที่ฉีเติ่งเสียนหันหลังกำลังจะกลับ พระสันตะปาปาก็พูดขึ้น “ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”

ฉีเติ่งเสียนกล่าว “ว่ามาได้เลยครับ”

พระสันตะปาปาพูดต่อ “ครั้งหน้าถ้านายพาผู้หญิงมาขอพรอีกต้องจ่ายมาสองร้อยล้านดอลลาร์”

“หา?!”

ฉีเติ่งเสียนได้ยินดังนั้นก็แทบจะมุดดิน นี่มันหลอกลวงกันชัดๆ คิดจะหลอกกันใช่ไหม?

“ไม่สิ ทำแบบนี้ได้ยังไง?” ฉีเติ่งเสียนถามอย่างไม่เข้าใจ

“เรื่องของความรู้สึกมันใช้เงินมาวัดไม่ได้ ครั้งแรกฉันอวยพรให้ฟรีไม่ใช่เหรอ? ฉันบอกได้แค่ว่าพรที่ยิ่งมาทีหลังยิ่งแพง!” พระสันตะปาปากล่าวอย่างเย็นชาแล้วมองฉีเติ่งเสียนด้วยสายตาไม่พอใจ

แท้จริงแล้วพระสันตะปาปาไม่ชอบแสดงละครร่วมกับฉีเติ่งเสียนเลย แต่เพื่อเงินดอลลาร์...อืม เพื่ออนาคตของศาสนาศักดิ์สิทธิ์ เขาในฐานะที่เป็นผู้นำก็ต้องอดทนและรับผิดชอบไปทำสิ่งที่ตนเองไม่ชอบ! ทั้งหมดนี้ ไม่ได้ทำเพื่อเกาะน้อยๆ ที่เขาซื้อไว้แต่อย่างใด แต่เพื่ออนาคตของศาสนาศักดิ์สิทธิ์ล้วนๆ!

ฉีเติ่งเสียมองพระสันตะปาปาด้วยสีหน้าอ้ำอึ้ง หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถอนหายใจออกมา “ถ้าหากมาพร้อมกันหลายๆ คนล่ะ จะอวยพรให้ทีเดียวเลยได้ไหม?”

“???!!!” พระสันตะปาปามองฉีเติ่งเสียนด้วยความตะลึงตกใจและเต็มไปด้วยคำถาม พูดอะไรไม่ออกทันใด

ฉีเติ่งเสียนถามอีกครั้ง “ช่างมันเถอะๆ ค่อยว่ากันอีกทีตอนที่ผมมาขอพรกับท่านครั้งหน้าแล้วกัน! ผมไปก่อนล่ะ รอให้ว่างเมื่อไหร่ค่อยจัดการเรื่องนั้นแล้วกัน”

พระสันตะปาปาเอ่ยเรียบนิ่ง “อย่าลืมก็พอ”

ฉีเติ่งเสียนยังก้มหน้าจูบริมฝีปากของเซี่ยงตงฉิงเบาๆ ยามที่เธอเงยหน้าหลังตื่นนอนอย่างสลึมสลือด้วย

ในความเป็นจริง แผ่นกั้นบางๆ นี้ควรจะถูกทำลายตั้งนานแล้ว เพียงแต่ว่าเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นตอนที่กลับเรือนจำโยวตูเมื่อคราวก่อนเท่านั้น

“จะว่าไปแล้วที่คุณหลอกใช้เซี่ยงกรุ๊ปให้ขุดหลุมกับดัก แล้วคนที่ต้องการทำให้ติดกับคือใครกัน?” ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะถาม

“ดูว่าใครจะมาเหยียบหลุมนี้เองล่ะมั้ง ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่มีเป้าหมายที่แน่นอน แต่อย่างไรก็ต้องเป็นศัตรูเท่านั้น” เซี่ยงตงฉิงตอบอย่างเรียบเฉย

ฉีเติ่งเสียนกล่าว “หากต้องการเงินประเทศมี่ คุณต้องแจ้งก่อนล่วงหน้า เผื่อถึงตอนนั้นหามาได้ไม่ครบแล้วเกิดข้อผิดพลาดขึ้นอีก”

เซี่ยงตงฉิงกล่าว “ฉันเตรียมการมาอย่างดีแล้ว ขอแค่คนพวกนั้นตกระกำลำบาก เซี่ยงกรุ๊ปนี้ก็สามารถทิ้งได้เลยทันที เพราะเซี่ยงกรุ๊ปอีกที่หนึ่งสามารถลุกขึ้นได้ในชั่วข้ามคืนและเข้ารับกิจการทั้งหมดของเซี่ยงกรุ๊ปนี้

ฉีเติ่งเสียนไม่รู้ว่าแผนการของเซี่ยงตงฉิงเป็นยังไง แต่ว่าเขาเชื่อมั่นเชื่อใจในหัวธุรกิจของเซี่ยงตงฉิงมาก อีกอย่างเขายังให้เฉียวชิงเมิ่งติดต่อขอความร่วมมือจากตระกูลเสวี่ยแห่งโมตูแล้วด้วย…

ท่ามกลางช่วงเวลาที่ทั้งผ่อนคลายทั้งเพลิดเพลิน ทั้งสองก็เดินทางมาถึงโมตูแล้ว

“คุณไปทำธุระของคุณเถอะ ฉันก็จะตั้งใจทำงานต่อไปแล้ว ถ้ามีเรื่องอะไรก็ติดต่อหากันแล้วกัน” เซี่ยงตงฉิงคิดจะอำลาฉีเติ่งเสียนที่สนามบินเลย เพราะว่ามีงานมากมายก่ายกองรอเธออยู่แล้ว”

ฉีเติ่งเสียนแบมือกล่าวอย่างหมดหนทาง “ไม่มีเรื่องอะไรก็ติดต่อหากันบ่อยๆ เถอะ ไม่อย่างนั้นจะประคองความสัมพันธ์นี้ไปได้ยังไง?”

เซี่ยงตงฉิงยิ้มเบาๆ กล่าวว่า “แล้วแต่คุณเลย”

ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา ซึ่งคือหวังเจี้ยนเฉิงที่กลับมาอย่างไร้ประโยชน์ที่เซียงซานก่อนหน้านี้นั่นเอง!

“อุ๊ย ทั้งสองกลับมาจากไหนกันเนี่ย? เซี่ยงกรุ๊ปยังจะเอาอยู่ไหม ถ้าไม่เอาแล้ว ผมไม่เกรงใจแล้วนะ” หวังเจี้ยนเฉิงปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองด้วยท่าทีอย่างผู้ชนะพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งผยอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง