เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคำพูดยั่วยุของหวังเจี้ยนเฉิงพุ่งตรงไปยังฉีเติ่งเสียน ครั้งก่อนเขาเสียหน้าครั้งใหญ่ที่เซียงซาน ก็อยากจะกู้หน้าให้เร็วที่สุด
เซี่ยงกรุ๊ปใกล้จะพังทลายลง ไม่มีใครมีความสามารถพอที่จะต้านวิกฤตได้ กระทั่งว่าเซี่ยงตงฉิงถึงกับไปขอเงินทุนจากชาวยิว
ตอนนี้ไม่พูดเยาะเย้ยสักหน่อย แล้วจะให้รอพูดตอนไหนล่ะ?
เซี่ยงตงฉิงพูดเสียงเย็น “ขอแค่มีฉันอยู่ เซี่ยงกรุ๊ปไม่มีทางล้มละลายแน่นอน”
หวังเจี้ยนเฉิงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม พูดว่า “เป็นอย่างนี้จริงหรือไม่ ประธานเซี่ยงรู้ดีที่สุด! ถ้าประธานเซี่ยงยอมเสียราคาที่ต้องจ่ายสักหน่อย ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถรักษาเอาไว้ได้จริงๆนะ?”
ฉีเติ่งเสียนมองหวังเจี้ยนเฉิง ขมวดคิ้ว พูดว่า “เห่าจบรึยัง? เป็นถึงคุณชายใหญ่ตระกูลหวัง สุดท้ายถูกคนตัดหางปล่อยวัดไล่ออกไปจากเซียงซาน เมื่อกี้ก็ยังพูดจาทุเรศอย่างกับพวกนักเลงไม่มีการศึกษาอีก ทำตัวให้เหมาะสมหน่อยเป็นมั้ย?”
“ขยะชั้นต่ำอย่างแก เหยียบก็ยังขี้เกียจจะเหยียบเลย!”
“ตบหน้าของไร้ประโยชน์อย่างแกไปก็คงเท่านั้นสินะ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหวังเจี้ยนเฉิงพลันแข็งค้าง เขาเป็นถึงคุณชายตระกูลหวัง นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกคนเหยียดหยามดูถูก
“ฉีเติ่งเสียน ตอนนี้ถือดีให้พอ เดี๋ยวเซี่ยงกรุ๊ปล้มละลายแกได้ร้องไห้แน่!” หวังเจี้ยนเฉิงขบฟันพูด
“อย่างแกจะมาจีบอวี้เสี่ยวหลง? บ้านไม่มีกระจก แต่ก็ต้องสำเหนียกตัวเองได้บ้างนะ?” ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะขมวด พูดอย่างเหยียดหยาม
หวังเจี้ยนเฉิงโกรธจนแทบกระอักเลือด รู้สึกว่าไอ้บัดซบนี่ปากคอเราะร้ายเหลือเกิน แน่นอน เรื่องต่อสู้ ตนเองก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แค่คิดยังไม่ต้องคิดเลย
หวังเจี้ยนเฉิงยิ้มดุดันขึ้นมา พูดว่า “คนแซ่ฉี ครั้งที่แล้วแกปลอมตัวเป็นไอ้บ้าอ้วนหลี่ปั้นเสียนที่เซียงซาน รวมหัวกับสวีเอ้าเสวี่ยมาทำให้ฉันอับอาย!”
“บัญชีนี้ ฉันจะจำเอาไว้”
“เซี่ยงกรุ๊ปใกล้ล้มละลาย แต่ว่าเงินทุนของชาวยิวไม่มีทางเข้ามาในประเทศหัวกั๋วของพวกเราได้!”
“รอให้ถึงตอนนั้นฉันกำเซี่ยงกรุ๊ปไว้ในมือ จะดูสิว่าแกยังกล้าพูดแบบนี้กับฉันอีกมั้ย”
ฉีเติ่งเสียนรำคาญจนดึงมือออกจากกระเป๋ากางเกง มองหวังเจี้ยนเฉิงด้วยใบหน้าไร้รอยยิ้ม ถามว่า “นี่แกเตรียมตัวให้ฉันมัดแล้วจัดการแกอีกสักยกใช่มั้ย?”
หวังเจี้ยนเฉิงคำรามเสียงต่ำ พูดกับเซี่ยงตงฉิงว่า “ประธานเซี่ยงมีความสุขกับช่วงเวลาสุดท้ายดีๆนี้ให้เต็มที่นะ ถ้าจะโทษก็โทษตัวเองที่เลือกผิดฝั่ง เลือดผิดคน!”
หลังพูดคำนี้จบ หวังเจี้ยนเฉิงก็ไม่กล้าอยู่ต่ออีก เขาออกไปในทันที เลี่ยงฉีเติ่งเสียนที่อาจจะโหนเขาแล้วจะจัดการเขาจริงๆ
“โง่เอ๊ย!”
ฉีเติ่งเสียนรอให้คนไปแล้ว ก็ยิ้มเหนื่อยหน่ายกับเซี่ยงตงฉิง
เซี่ยงตงฉิงพูดเรียบๆ “เมื่อกี้เขาบอกว่าคุณกับสวีเอ้าเสวี่ยทำให้เขาอับอาย? มันเกิดอะไรขึ้น? ที่แท้ตอนอยู่ที่เซียงซานคุณก็ยังเจอกับสวีเอ้าเสวี่ยด้วยนี่!”
ฉีเติ่งเสียนพูดเรียบๆ “เฮ้อ นั่นก็เป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้ผมกับสวีเอ้าเสวี่ยไม่ได้ติดต่อกันตั้งนานแล้ว เธออยู่ที่หนานหยางรอผมโดยเฉพาะ อยากจะแก้แค้นน่ะ...”
ฉีเติ่งเสียนและเซี่ยงตงฉิงออกจากสนามบิน ส่งเธอถึงบริษัท หลังจากนั้นก็ติดต่อบอดี้การ์ดของเธอ เขาถึงได้วางใจ
วันนี้บังเอิญเจอหวังเจี้ยนเฉิงที่สนามบิน ดูจากหวังเจี้ยนเฉิงที่หัวสมองคิดอะไรจริงจังต่างนานาแล้ว แสดงว่าแผนของเซี่ยงตงฉิงประสบความสำเร็จแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...