“นายรู้ได้ไงว่าจังกรุ๊ปกำลังขาดทุน การหาคนมาร่วมลงทุนครั้งนี้ก็เพื่อที่จะยักยอกเอาเงินแล้วหนีไป?”
หลี่อวิ๋นหว่านยืนขวางทางเดิน พร้อมกับพูดถามฉีเติ่งเสียน
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเรียบเฉย: “ผมอธิบายไปแล้วรอบหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำรอบสอง ผมคิดว่าคุณคงไม่ได้หูหนวกหรอกนะ!”
หลี่อวิ๋นหว่านเหลือบตามองบน คำพูดของหมอนี่ชอบยั่วโมโหเสียจริง
โดยปกติผู้ชายส่วนใหญ่เมื่อได้เห็นเธอ ต่างก็จะตัวเป็นสุภาพบุรุษ?
“ฉันเชื่อคำพูดนาย ฉันจึงตัดสินใจจะไปเอาเงิน 10 ล้านที่รวมลงทุนคืนกลับมา!” หลี่อวิ๋นหว่านพูดพร้อมกับรอยยิ้ม
คำพูดเธอทำให้ฉีเติ่งเสียนถึงกับต้องชะงัก ตอนแรกคิดว่าผู้หญิงคนนี้แค่จะหัวเราะเยาะเย้ยเขาเท่านั้น แต่นึกไม่ถึงว่าเธอจะมาเชื่อในคำพูดของเขา?
เขาขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า : “แล้วแต่เธอ”
หลี่อวิ๋นหว่านพูดต่อ : “แล้วนายทนเห็นเฉียวกรุ๊ปต้องสูญเสียเงินจำนวนมากให้กับจังกรุ๊ปได้ยังไง?”
ฉีเติ่งเสียนพูด : “พวกเขาไม่เชื่อผม ผมพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ผมกลับสงสัยว่าทำไมคุณถึงมาเชื่อผม?”
“ฉันคอยสังเกตนายอยู่ตลอดเวลา ที่วันนี้ฉันแกล้งพูดโกหกแล้วยกความดีความชอบให้กับจังเซ่าเจี๋ย ก็เพราะจะดูว่านายจะทำอย่างไร ดูว่านายจะเป็นลูกผู้ชายพอหรือเปล่า”
“จากที่ฉันคอยสังเกตนายอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ฉันก็เห็นว่านายไม่ใช่คนที่เอาแต่ผลประโยชน์ตัวเอง ไม่พูดอวดให้ตัวเองดูเป็นคนดี”
“ดังนั้นถึงพวกเขาจะไม่เชื่อนาย แต่ฉันเชื่อนาย!”
หลี่อวิ๋นหว่านเดินมาอยู่ด้านข้างฉีเติ่งเสียนและพูดด้วยรอยยิ้มหวาน ขาเรียวยาวเคลื่อนไหวพร้อมด้วยเสียงรองเท้าส้นสูงที่กระทบพื้นอย่างเป็นจังหวะ
ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้วอย่างแปลกใจมาก
หลี่อวิ๋นหว่านเดินเข้าใกล้เขามากยิ่งขึ้น ยิ้มและพูด : “ท่านฉี สิ่งที่ฉันพูดทั้งหมดคือความจริง ไม่ได้โกหก! ฉันเชื่อนาย ทำไมนายถึงไม่เชื่อฉัน?”
ฉีเติ่งเสียนยิ้มอย่างเฉยชา : “ถ้าพวกเขาไม่เชื่อผม คุณก็กลับไปพูดโน้มน้าวพวกเขาให้ถอนหุ้นออก ไม่อย่างนั้นถ้าอสังหาริมตระกูลจังยักยอกเงินไป ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้!”
หลี่อวิ๋นหว่านพยักหน้า : “ฉันจะหาโอกาสคุยกับเมิ่งเมิ่งเรื่องนี้เอง นายวางใจได้เลย”
“พรุ่งนี้นายมีเวลาว่างไหม? ฉันอยากจะชวนนายไปดื่มชาสักหน่อย” หลี่อวิ๋นหว่านยิ้มหวาน
“หืม?” ฉีเติ่งเสียนไม่รู้ว่าในใจของผู้หญิงคนนี้กำลังคิดจะทำอะไรไม่ดีกันแน่
คงไม่ได้วางกับดักทำให้เหมือนเขานอกใจ จนต้องหย่ากับเฉียวชิวเมิ่งหรอกนะ?
“นายแค่บอกมาว่าตกลงหรือไม่ตกลง!” หลี่อวิ๋นหว่านเข้าใกล้พร้อมเอามือไปกอดแขนฉีเติ่งเสียน
ฉีเติ่งเสียนผู้ซึ่งไม่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้หญิงใกล้ชิดแบบนี้มาก่อน เขารู้สึกได้ว่าแขนของตัวเองนุ่มสบายเหมือนได้สัมผัสกับทรายนิ่มๆที่ชายหาด
แต่เขาไม่ใช่ผู้ชายตัณหากลับอย่างนั้น จึงรีบแกะมือของเธอออก และพูดอย่างเย็นชาว่า : “ขอบใจ ผมไม่สนใจ!”
หลี่อวิ๋นหว่านถึงกับหน้าเสีย ทั้งชีวิตนี้นี่เป็นครั้งแรกที่เขานัดผู้ชายออกเดต แต่กลับถูกปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย?!
“เหอะ นายนี่มันพูดดีๆไม่ฟังชอบต้องให้บังคับหรือไง!” หลี่อวิ๋นหว่านพูดอย่างหงุดหงิดใจ
“……” ฉีเติ่งเสียนโบกมือเรียกรถแท็กซี่นิ่งเฉย
หลี่อวิ๋นหว่านพูด : “นี่ ฉันเป็นเพื่อนสนิทเมิ่งเมิ่งนะ ถ้านายอยากจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อเธอ ก็ต้องดีกับฉันด้วยสิ! ท่าทางแบบนี้ นายคิดว่าฉันจะช่วยนายพูดกับเธอเหรอ?”
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเรียบเฉยว่า “เธอไม่ได้ชอบผม ผมรู้อยู่แก่ใจ แตงที่ถูกบังคับมักจะไม่มีความหวานในตัวเอง
ผมแต่งงานกับเธอก็เพราะคำขอร้องของคุณพ่อ! ผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอ แค่แอบช่วยปกป้องเธออยู่เงียบๆ และรอให้เรื่องนี้มันจบไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...