มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1592

งานใหญ่ของฉีเติ่งเสียนเสร็จสิ้นลงไปแล้ว ฉีปู้อวี่เองก็เริ่มทำการใหญ่ของตัวเองบ้าง

เจ่จือกำลังแปลให้ฉีปู้อวี่ แม้ว่าทักษะการแปลจะไม่ดีเท่ากับหมาป่าโลภและผีพยาบาท แต่ก็ยังพอถูไถไปได้

มันไม่มีทางเลือก ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะถูกบังคับ ถึงแม้ภาษามือของหัวหน้าใหญ่จะเป็นแค่การทำไม้ทำมือไปสุ่มๆ แต่ถ้าใครไม่เข้าใจในทันที คงมีแต่จะโดนทุบ

“ท่านบรรพจารย์ นะ... นี่มันไม่ดีหรอกมั้ง ถึงอย่างไรการทำเรื่องแบบนี้ก็มีแต่จะส่งผลเสียต่อบุญกุศลของท่านบรรพจารย์! หนึ่ง ชะตาชีวิต สอง โชคชะตา สาม ฮวงจุ้ย สี่ สั่งสมบุญกุศล ห้า การศึกษา...” หนวดเคราของอาจารย์จางเทียนสั่นไหว

ฉีปู้อวี่ส่งสัญญาณมือด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่แยแส จากนั้นเจ่จือที่อยู่ข้างๆ จึงเอ่ยว่า “ร้อยล้านดอลลาร์ซื้อยันต์นี่ โอเคไหม”

อาจารย์จางเทียนได้ยินดังนั้นก็สั่นเทิ้มไปทั้งตัวและบอกว่า “มันไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงิน!"

แววตาของฉีปู้อวี่ฉายแววหมดความอดทน ถ้าอาจารย์จางเทียนไม่ยอมร่วมมือ ความยากในการดำเนินการของเขาครั้งนี้คงจะเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า

“ถึงอย่างไรยันต์ของผม เอาไปขายที่อื่นก็มีค่าแค่ไม่กี่ล้าน ท่านบรรพจารย์ก็คนกันเอง เดี๋ยวผมจะเขียนยันต์ให้ท่านด้วยกระดาษยันต์สีม่วง และจะถือโอกาสมอบของขวัญให้เพิ่มอีกสองสามแผ่น ใช้ด้วยกันผลลัพธ์จะยิ่งดีไปอีก!” อาจารย์จางเทียนยิ้มอย่างเก้อเขิน

“คนอย่างผม ไม่เคยค้ากำไรเอาเปรียบ!"

“แต่ไหนแต่ไรผมทำธุรกิจอย่างยุติธรรมและตรงไปตรงมาเสมอ ไม่เชื่อลองไปถามท่านบูรพาจารย์ได้เลย”

ฉีปู้อวี่ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าอย่างครุ่นคิด จากนั้นจึงเอื้อมมือชี้ไปที่หัวหน้าผู้ศรัทธาเป็นเชิงบอกว่า ฝากเรื่องนี้ไว้เป็นธุระของนาย

อาจารย์จางเทียนพยักหน้า คิดในใจว่า “หมอนี่ก่อกรรมทำชั่วมานับไม่ถ้วน เห็นเลยว่ากลิ่นอายรอบตัวเขามีวิญญาณร้ายอาฆาตคอยวนเวียนอยู่ เห็นได้ชัดว่าเขาฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน ต่อให้ส่งเขาไปตายฉันก็ไม่รู้สึกผิดอะไรเลย!"

“อืม... ขอเทียนจุนอำนวยพร!"

“ไม่แปลกใจเลยที่มีมูลค่าถึงร้อยล้านดอลลาร์ แม้ว่าฉันจะไม่เคยเห็นเงินจำนวนมากขนาดนี้มาก่อน! แต่ฉันก็เป็นคนซื่อตรงแบบนี้ ที่ทนเห็นคนชั่วช้าแบบนี้ลอยนวลอยู่บนโลกไม่ได้”

“แน่นอนว่าที่สมเด็จพระสันตะปาปาถูกใส่ร้ายนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน อย่างไรซะฉันก็เป็นคนดีที่ริเริ่มส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของกรมศาสนาตะวันตกและตะวันออก! ฉันก็แค่วาดยันต์ คนที่ลงมือจริงๆ คือบรรพจารย์ต่างหาก”

“ลัทธิเต๋าของฉันเคารพบรรพครูมาโดยตลอด คำสั่งของท่านบรรพจารย์ ฉันไม่ฟังไม่ได้”

อาจารย์จางเทียนรู้สึกสงบขึ้นภายในใจ จากนั้นเขาจึงมองหัวหน้าผู้ศรัทธาพลางยิ้มน้อยๆ

เจ่จือเอ่ยกับอาจารย์จางเทียนว่า “ขอเทียนจุนอำนวยพร ขอบคุณท่านปรมาจารย์!"

อาจารย์จางเทียนหัวเราะฮึๆ และกล่าวว่า “อย่าได้เกรงใจ การแสดงความเคารพต่อครูเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ จากจัดการของผู้อาวุโสคือคุณสมบัติที่ดีของชาวเต๋า”

ด้วยเหตุนี้อาจารย์จางเทียนจึงขอให้เจ่จือไปไชน่าทาวน์เพื่อซื้อชาดและเลือดไก่มาให้ จากนั้นเขาจึงหยิบกระดาษยันต์สีม่วงออกมาจากกระเป๋า

กระดาษยันต์สีม่วงเป็นกระดาษยันต์ระดับสูงที่สุด แม้แต่เสื้อคลุมที่ปรมาจารย์สวมยังเป็นสีม่วงทั้งหมด

ฉีปู้อวี่ออกไปจากที่นี่และพบกับร็อบเบน จากนั้นจึงแจ้งล่วงหน้าผ่านเจ่จือ นำกลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์ไปโจมตีหวงหลง เตรียมทำลายลัทธิบูชาแดร็กคิวล่าให้สิ้นซาก รวมถึงทำลายเศษซากของลัทธิเทพอเวจีด้วย

คนเก่าแก่ยังเป็นคนที่มีศีลธรรมและเป็นสมุนเพื่อสมเด็จพระสันตะปาปาจริงๆ พร้อมจะกวาดล้างพวกนอกรีตเหล่านี้ให้ราบคาบ

หลังจากนั้นไม่นานเจ่จือก็กลับมาพร้อมชาดและเลือดไก่ เริ่มแรกอาจารย์จางเทียนเขียนไปบนกระดาษยันต์สีเหลืองและเผามันด้วยไฟ จากนั้นจึงผสมชาดกับเลือดไก่เข้าไป นำเหรียญกษาปณ์สร้างรูปแบบขึ้นมาและเริ่มวาดยันต์

เจ่จือมองภาพตรงหน้าและอดคิดไม่ได้ว่า ‘นี่นะหรือ เวทมนตร์ลัทธิเต๋าที่สืบทอดกันมาในประเทศหัวกั๋วเป็นเวลาหลายพันปี ทำไมดูเหมือนพวกลัทธิไม่ดีเลยล่ะ...’

ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนต่างชาติ ยากที่จะเข้าใจวัฒนธรรมดั้งเดิมของประเทศหัวกั๋ว

อาจารย์จางเทียนกับเจ่จือยังคงรอคอยอย่างอดทนได้ แต่หัวหน้าผู้ศรัทธาไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมแบบไหน เขาจึงไม่สบายใจและรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

แต่เขาถูกตีที่จุดเหมินอย่างแรงจนพูดอะไรไม่ได้ ซึ่งนั่นทำให้เขาอึดอัดมาก

“เลิกคิดดีกว่า คราวนี้นายตายแน่” เจ่จือหัวเราะเยาะใส่หัวหน้าผู้ศรัทธาและเอ่ยเรียบๆ

สีหน้าของหัวหน้าผู้ศรัทธาเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ แต่เขารู้ดีว่าตัวเองไม่มีทางต่อต้านชะตากรรมนี้ได้ ถูกกำหนดให้ทำได้เพียงไหลไปตามกระแสและเชื่อฟังการจัดสรร

เมื่อวาดยันต์เสร็จ อาจารย์จางเทียนก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงตรงในห้องเพื่อนั่งสมาธิและพักผ่อน ส่วนเจ่จือเป็นคนคอยจับตาดูหัวหน้าผู้ศรัทธา

แน่นอนว่าเจ่จือถือเป็นชายหนุ่มที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เขาไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ และทำงานเพื่อหัวหน้าใหญ่อย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้แม้แต่ความเชื่อของตัวเองเขาก็ทรยศไปแล้ว

ในเวลาเดียวกันนั้น ฉีปู้อวี่กำลังนำกลุ่มอัศวินศักดิ์สิทธิ์ไปสังหารทุกคน ร็อบเบนตามหลังเขาไป เมื่อเห็นเขารัวหมัดใส่เด็กน้อยคนหนึ่งก็อดรู้สึกไม่ได้ว่ามันโหดร้ายและนึกกลัวจนพูดไม่ออก

เหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ยังต่อสู้โรมรันด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับพลังลึกลับ ฟาดฟันที่สำนักลัทธิบูชาแดร็กคิวล่าจนเรียกได้ว่าเป็นแม่น้ำโลหิต เมื่อด้านหน้ามีดาบคมอย่างฉีปู้อวี่และร็อบเบน การเข่นฆ่าของพวกเขายิ่งผ่อนคลายเป็นพิเศษ

“อา ท่านแดร็กคิวล่าไม่มีทางให้อภัยพวกแกแน่!” ผู้ศรัทธาคนหนึ่งคำรามออกมา เขาแข็งแกร่งมากจนรอดอยู่ได้ทั้งที่มีดาบสี่เล่มเสียบอยู่บนร่างกาย

ฉีปู้อวี่ขมวดคิ้วแล้วคว้าศีรษะของอีกฝ่ายเอาไว้ นิ้วทั้งห้าประสานเข้าด้วยกัน เกิดเสียงดังปังก่อนที่ศีรษะของคนผู้นั้นจะระเบิดเหมือนลูกโป่งที่อัดลม...

“ท่านแดร็กคิวล่าผู้ยิ่งใหญ่ ท่านจะต้องลงทัณฑ์พวกมัน...” ผู้ศรัทธาอีกคนภาวนา

ฉีปู้อวี่เดินเข้าไปหา คว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายและยกมือขวาไปตรงศีรษะของเขา เสียงปังดังขึ้นสามครั้งติดกัน ตามมาด้วยการระเบิด...

มุมปากของร็อบเบนกระตุกเมื่อเห็นดังนั้น พระอัครสังฆราชใช้คทาเป่าศีรษะ แต่บุรุษผู้นี้ระเบิดศีรษะด้วยมือเพียงคู่เดียว...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง