มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1610

ลี่เฟยหลงส่งเสียงโห่ร้องเพื่อไปหลบที่เรือนจำเกาะสวรรค์ แต่เมื่อรู้ว่าตำแหน่งของเขาถูรุ่นน้องของเขาอย่างซือถูหนานเอาไปแล้ว เขาก็อดที่ไม่ได้จะรู้สึกโกรธเคือง

ยังไงซะตำแหน่งนั้นก็เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจสูงสุดของแก๊งสี่ไห่ !

อำนาจมันมีพลังมากพอที่จะทำให้คนจำนวนมากเสื่อมทราม ทำและเปลี่ยนเป็นคนที่โหดร้าย ผู้ที่มีอำนาจอยู่ในมือมักจะไม่ปฏิบัติต่อผู้อื่นเหมือนมนุษย์

ซือถูหนานกุมอำนาจของแก๊งสี่ไห่เอาไว้ได้ แล้วเขาจะไปจำเรื่องราวมิตรภาพในอดีตได้ยังไงกัน? ลี่เฟยหลงแทบอยากจะกลับมาจัดการสับเขาเป็นชิ้นๆแล้วเอาไปให้หมากิน

อย่างไรก็ตาม เจียงหูยังคงเป็นสถานที่ที่มีกฏเกณฑ์ที่ไม่ได้เขียนเป็นอักษรซ่อนไว้อยู่มากมาย

ยิ่งไปกว่านั้น รูปปั้นของเทพเจ้ากวนอูก็ยังตั้งอยู่ที่ด้านหน้าสุดอีกด้วย

“ซือถูหนาน นั้นเป็นเก้าอี้หัวมังกรของฉัน ฉันยังไม่ได้ออกจากอำนาจหัวหน้าสูงสุดอย่างเป็นทางการ คุณมีสิทธิ์อะไรมานั่งตำแหน่งนี้?!” ลี่เฟยหลงก้าวไปข้างหน้าโดยมีฉีเติ่งเสียนอยู่เคียงข้างเขาใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา

ซือถูหนานอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะเย้ย ลูกน้องหลายคนที่อยู่ด้านหลังเขากำลังจะเริ่มพูดออกมาเพื่อค้านลี่เฟยหลง แต่ทว่ากลับโดนเขายกมือยั้งไว้

อย่างไรก็ตาม ซือถูหนานลุกขึ้นอย่างอวดดี และลุกขึ้นจากที่นั่งหัวหน้าสูงสุด พูดขึ้น: “ในเมื่อพี่ใหญ่อยากจะนั่ง ก็นั่งให้ดีๆล่ะ !”

ลี่เฟยหลงลหัวเราะเยาะและนั่งลงที่เก้าอี้หัวหน้าสูงสุดอย่างไม่สะทกสะท้าน

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ดูไม่ค่อยจะมีสติอยู่กับตัวมากนัก เขาจึงบอกให้นั่งลงก่อน หากเย่จีกั๋วอยู่ที่นี่คงจะมีท่าทางประจบแน่

อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้สำคัญอะไรเขาตัดสินใจที่จะทำลายองค์กรแก๊งสี่ไห่ กระดูกสันหลังของที่นี่ก็ถูกกัดกร่อนไปแล้ว หากไม่มีเรื่องที่จะร่วมมือกับคนเจียเผิงก็คงจะไม่เหลือความหมายอะไร

หลังจากที่ลี่เฟยหลงนั่งลง ทำให้บรรดาผู้อาวุโสหลายคนไม่พอใจอย่างมาก ใบหน้าของแต่ละคนมีความอึมครึมขึ้นมา

ซือถูหนานกลับไม่ได้จริงจังอะไร และพูดขึ้นอย่างใจเย็น: “วันนี้เป็นวันสถาปนาแก๊งสี่ไห่ของเรา ต้องสักการะเทพเจ้ากวนอู โดยต้องมีหัวนายสูงสุดเป็นประธาน นี่มันมีอะไรไม่เหมาะสมหรอ?”

ทันทีที่เขาพูดออกไปบรรดาผู้คนก็เงียบสงบลง

ในเวลาเดียวกัน ทุกคนก็ตระหนักถึงบางอย่างขึ้นมาได้ ลี่เฟยหลงก็แค่คนที่มาประดับเท่านั้นเอง คนที่สามารถทำให้ทุกคนเชื่อฟังได้จริงๆมีเพียงซือถูหนานคนเดียวเท่านั้น !”

ถึงลี่เฟยหลงจะมานั่งอยู่ที่ตำแหน่งเก้าอี้หัวสูงสุดแล้วจะยังไง ?!

“ที่พี่ใหญ่ซือถูหนานพูดก็ถูก นี่เป็นกฎของเจียงหู ถ้าอย่างนั้นก็ทำตามกฎของเจียงหู!” หวังข่ายพูดขึ้นเสียงดัง แต่เขากลับมองไปทางลี่เฟยหลงกับฉีเติ่งเสียน ด้วยสายตาท้าทาย

ซือถูหนานพูดขึ้น : “วันนี้เป็นวันที่แก๊งสี่ไหของเราสักการะเทพเจ้ากวนอู และยังมีเพื่อนมาร่วมชมพิธี! เชิญคุณต้วนเทียนหยาแห่งเทียนเตาหมิง!”

ต้วนเทียนหยาเป็นผู้นำของเทียนเตาหมิงและมีชื่อเสียงในการเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในเผิงไหล อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนที่ถ่อมตัวมาก และหมกมุ่นอยู่กับการต่อสู้เรื่องในสังคมทั้งในและนอกต่างก็มอบให้น้องชายแท้ๆของเขาอย่างต้วนเทียนชงเป็นคนดูแล

ต้วนเทียนหยาปรากฏตัวแล้ว เขาเป็นคนอายุอยู่ในช่วงกลางคนแต่ด้วยที่เขาปิดเก็บเลือดลม ทำให้เขาดูเหมือนอยู่ในวัยหนุ่มสาวอยู่ แถมเขายังมีรูปร่างหน้าตาและท่าทางที่สง่างามมาก

ฉีเติ่งเสียนก็มองไปที่ต้วนเทียนหยาด้วยความสงสัย ยังไงซะเขาก็เป็นตัวแทนของเผิงไหล ในการเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ห้าชาติที่หลี่เสวียนเจินจัดขึ้น

ในแผนการของฉีเติ่งเสียน ก็คือหาโอกาสไปทุบอัดเขาให้ตาย หากเป็นอย่างนั้นแน่นอนว่าทั้งห้าชาติก็จะสิ้นสุดลง

ใบหน้าของต้วนเทียนหยาเต็มไปด้วยความใจเย็น หลังตากที่เขามาถึงสังเวียน เขาถือกำปั้นหลวมๆไปที่ฝูงชน จากนั้นก็พูดกับลี่เฟยหลง : “ลี่เฟยหลง ไม่เจอกันนานเลยนะ !”

ลี่เฟยหลงลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าน่ายำเกรง แล้วกำปั้นหลวมๆกลับด้วยความเคารพ กล่าวขึ้น: “หัวหน้าต้วน ไม่ได้เจอกันเสียนานจริงๆ คุณยังมีสง่าเหมือนอย่างเคยเลยนะ!”

ต้วนเทียนหยายิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปที่ฉีเติ่งเสียนแล้วพูดด้วยเสียงเนิบๆ : “ฉันคิดว่านี่คงเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ภายในที่มีชื่อเสียง ฉีเติ่งเสียน หรือปรมาจารย์ฉีสินะ”

ใบหน้าของฉีเติ่งเสียนปรากฏรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย และพูดกับต้วนเทียนหยา : “อาจารย์ต้วนพูดเล่นแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง