สิ่งที่สามารถสะท้อนความเป็นมนุษย์ได้มากที่สุด นั่นก็คือ นิสัยของมนุษย์
ธรรมชาติของมนุษย์มีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง
ในโลกใบนี้มีคนที่เห็นแก่ตัวและฝักใฝ่หาเกียรติยศ แต่ก็มีคนที่กล้าหาญและยินดีที่จะสละชีวิตเพื่อผู้อื่น ในโลกนี้มีคนที่จิตใจชั่วร้าย แต่ก็มีคนที่มีความเมตตาด้วยเช่นกัน
ผู้ที่สามารถเดินเคียงข้างฉีเติ่งเสียนได้มักเป็นคนที่มีแสงสว่างของธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อเผชิญกับความไม่ยุติธรรม พวกเขาจะไม่เฉยเมย แม้จะไม่สามารถยื่นมือช่วยเหลือได้ แต่ก็ยังรู้สึกเห็นใจ
แม้แต่คนอย่างฉีปู้อวี่ที่พูดจาไม่ได้ เมื่อเห็นข่าวสาวน้อยกระโดดลงจากตึกเพราะความหิวโหย ดวงตาของเขาก็ยังแสดงความเห็นใจและความโกรธแค้นอย่างลึกซึ้ง
ตอนนี้หยางกวนกวน คงถูกคนชั่วจิตใจต่ำทรามพวกนั้นทำร้ายอย่างแน่นอน
“กวนกวน ไม่เจอกันนานเลยนะ” หูอวี้มองไปที่หยางกวนกวน พูดด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง
เธอหายหน้าหายตาไปหลายปี แต่หลังจากที่เธอออกจากตระกูลหยางไป ดูเหมือนชีวิตของเธอจะดีขึ้น แก้มของเธอดูมีแดงฝาด ผิวหนังดูมีประกาย และท่าทางของเธอก็สง่างาม
หยางกวนกวนค่อย ๆ บีบอัดความเจ็บปวด ความเศร้า ความโกรธ และความรู้สึกไม่พอใจต่าง ๆ ที่อยู่ในใจของเธอให้ลดลง หลังจากที่เธอประสบเหตุการณ์ใหญ่โตมามากมาย เธอก็สามารถทำให้ตัวเองสงบเยือกเย็นได้อย่างดี
“คุณอยากจะคุยอะไรกับฉันคะ?”หยางกวนกวนยิงถามโดวตรง เธอมีลางสังหรณ์ว่าการปรากฏตัวของหูอวี้ในครั้งนี้เป็นการเล็งตรงมาที่เธอ
หยางยี่และคนอื่น ๆ เริ่มยิ้มเยาะ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา ความดูถูก และ … ความรังเกียจที่ทำให้คนอื่นไม่ชอบใจ!
หยางโอวเอ่ยเยาะเย้ยว่า “แน่นอน ที่เขามาที่นี่เพราะจะมาบอกแกว่าความจริงแล้วแกมันเป็นลูกนอกสมรส!”
หยางกวนกวนหันศีรษะเล็กน้อย ดวงตาเปล่งประกายด้วยความโกรธแค้น
เธอสามารถสังหารลวี่ฉ่ายได้โดยที่ไม่กระพริบตา เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดเหมือนเมื่อหลายปีก่อนอีกต่อไป นอกจากนี้การที่เธอได้พบเจอกับบุคคลระดับสูงในเซียงซานและเมืองจิงเต่าทำให้เธอมีบารมีขึ้นมาบ้าง
เธอมองไปแค่ครั้งเดียว ก็ทำให้หยางโอวรู้สึกเย็นเยียบไปถึงมือและเท้า และความรู้สึกหนาวเย็นนั้นก็เหมือนจะทะลุไปถึงท้ายทอย ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองถูกแช่แข็ง
“พูดใหม่อีกทีซิคะ” หยางกวนกวนพูดคำต่อคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น น้ำเสียงแฝงไปด้วยการเตือน
หยางโอวไม่กล้าพูดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง ในปากเธอทำได้แค่พึมพำเท่านั้น
แต่หยางยี่กลับยิ้มเยาะและพูดกับหูอวี้ว่า “หูอวี้ ก็บอกความจริงกับมันไปสิ จะได้ไม่ต้องให้มันนอนฝันหวานเกี่ยวกับทรัพย์สินของตระกูลหยางอีก!”
หยางหยวนซานเองก็เอ่ยขึ้นว่า “ใช่ค่ะ เด็กลูกนอกสมรสคนหนึ่ง จะคู่ควรกับการครอบครองทรัพย์สมบัติของตระกูลหยางได้อย่างไร?!’”
หยางกวนกวนก้มหน้าลงเล็กน้อย มองไปที่หูอวี้และเอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ ว่า “ไม่ว่าในอดีตคุณจะทอดทิ้งฉันและพ่อไปอย่างไร้ปราณีแค่ไหน แต่ฉันก็ยังจำได้ว่าคุณเป็นแม่ของฉัน แน่นอนว่าฉันหวังว่า ฉันจะจดจำแบบนี้ตลอดไปตลอดไป!”
เธอไม่ต้องการให้หูอวี้ตัดความสัมพันธ์กับเธออย่างไร้เยื่อใย อย่างน้อยเธอก็ต้องการเก็บความหวังนั้นเอาไว้ในใจ
แต่ถึงอย่างนั้น หูอวี้ก็ไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกนี้
หลังจากที่เธอออกจากตระกูลหยาง เธอก็ไปที่เผิงไหลและได้รับความโปรดปรานจากตระกูลซ่ง จนกระทั่งได้กลายเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ตามที่เธอใฝ่ฝัน เธอมีทั้งเงินและอำนาจ
เธอไม่ต้องการกลับไปใช้ชีวิตที่ยากจนข้นแค้นเหมือนในอดีต ไม่ต้องการใช้ชีวิตแบบที่ต้องเก็บเงินหนึ่งถึงสองเดือนเพื่อซื้อกระเป๋าชาแนลเพียงใบเดียว
ดังนั้น คำสั่งจากตระกูลซ่ง แน่นอนว่าเธอเชื่อฟังเป็นอย่างดี
แม้กระทั่งต้องตัดขาดกับลูกสาวของตัวเอง เธอก็ไม่เกรงกลัว ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่เคยมองหยางกวนกวนเป็นลูกสาวของเธอ เธอแค่รู้สึกว่านี่เป็นลูกสาวของคนปัญญาอ่อนที่ทำให้เธอรู้สึกขยะแขยง
เธอยังเกลียดชังคนปัญญาอ่อนคนนั้น ทำไมลูกที่เธอคลอดออกมาถึงไม่เป็นลูกชาย ทำไมต้องเป็นลูกสาวด้วย?
ถ้าในตอนนั้นเธอคลอดลูกชายออกมา นายท่านหยางจะไม่ให้ความเมตตาเลยหรือ? ถ้าเป็นแบบนั้น ชีวิตของพวกเขาจะลำบากขนาดนี้ได้อย่างไร?
ดังนั้น หูอวี้จึงยิ้มออกมา
“ฉันขาดเงิน ฉันเลยขายตัวให้กับผู้ชายหลายคน”
“ไม่เพียงแต่แกจะไม่ใช่ลูกของตระกูลหยาง แม้แต่พ่อจริง ๆ ของแกฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร”
เฮ่อตั่วเหลียนทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอเอ่ยด้วยความเกลียดชังว่า “ความรักของแม่เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ แต่คุณกลับดูถูกความรักอันบริสุทธิ์นี้ คนอย่างคุณนี่มันทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง!”
หยางยี่เอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ตอนนี้ แกยังคิดว่าตัวเองคู่ควรที่จะเข้ามาในบ้านบรรพบุรุษของตระกูลหยางของพวกฉันอีกไหม? คู่ควรที่จะเรียกบรรพบุรุษของตระกูลหยางว่าเหล่าบรรพชนหรือเปล่า?” คำพูดของเขาเหมือนมีดคมที่บาดลึกไปถึงใจคน
หยางหยวนซานก็เอ่ยเย้ยหยันตาม “ฉันพูดหลายครั้งแล้ว ว่าหยางกวนกวนเป็นลูกนอกสมรส ตอนนี้แม้แต่แม่ของมันยังออกมายอมรับ! ดูซิ ไม่ใช่ลูกนอกสมรสแล้วจะเป็นอะไรได้?”
หยางโอวรู้สึกว่าตัวเองมีแรงขึ้นมาอีกครั้ง จึงตะโกนสมมบ “ลูกนอกสมรสอย่างแกออกไปจากตระกูลหยางซะ อย่าคิดจะครอบครองทรัพย์สินของตระกูลหยางของพวกฉันอีก แกนี่เป็นคนโลภไม่รู้จักพอจริง ๆ !”
เฮ่อตั่วเหลียนอดไม่ได้ที่จะกังวลเกี่ยวกับสภาพจิตใจของหยางกวนกวน เมื่อหันไปมองกลับเห็นหยางกวนกวนนิ่งราวกับเป็นพระพุทธรูปหิน ใบหน้าไร้ความสุขหรือความเศร้า
ในที่สุดหยางกวนกวนก็เอ่ยขึ้นมา “ฉันสัมผัสได้ถึงความรักของพ่อที่มีต่อฉัน มนุษย์ควรมีชีวิตอยู่เพราะความรักที่มีต่อผู้ที่รักเขา ไม่ใช่เพราะความเกลียดชัง”
“ฉันขอพูดอะไรสักหน่อยนะ ในฐานะที่เกิดมาเป็นคน คุณช่างใจดำเหลือเกิน เกินกว่าที่ฉันคาดคิดและเกินกว่าขอบเขตที่ฉันรับได้”
หูอวี้กัดฟัน “ลูกนอกสมรสอย่างแก ทำไมตอนนั้นถึงไม่เป็นเด็กผู้ชาย? ถ้าแกเป็นเด็กผู้ชาย ฉันจะมีชีวิตลำบากแบบนี้เหรอ?”
แต่ที่น่าแปลก หยางกวนกวนไม่แสดงความโกรธออกมาเลยสักนิด ตรงกันข้าม หูอวี้กลับเป็นฝ่ายที่โกรธขึ้นมาแทน
เฮ่อตั่วเหลียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ดูแล้วก็ตกใจ นี่เป็นคนแบบไหนกัน? เต็มไปด้วยความคิดคับแคบของสังคมแบบเก่า ทำให้รู้สึกขยะแขยงสิ้นดี!
หูอวี้พูดอย่างเย็นชา “ทิ้งทรัพย์สินและเงินทองของตระกูลหยางในมือแกซะ ฉันยังพอทนรับแกเป็นลูกสาวได้ แต่ถ้าไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าฉันใจร้าย!” เธอออกคำขาดเป็นครั้งสุดท้าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...