“ติ่งเหลิ่ง นี่นายหมายความว่าอะไร? ! ”
หวงอิงถึงกับชะงัก จากนั้นจึงถามติงเหลิ่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา เห็นได้ชัดว่าท่าทีของติงเหลิ่งที่มีต่อจ้าวซือชิง นั้นเกินกว่าที่เธอคาดคิดไว้
ติงเหลิ่งไม่ได้เอ่ยอะไร เพียงยืนอยู่ข้างจ้าวซือชิงอย่างเงียบ ๆ
ในเวลานั้นเฉินหยูยกมือขึ้นดันแว่นตาขึ้นเบา ๆ พร้อมกับพึมพำว่า “เก่งนี่ๆ! ไม่ทันได้พูดอะไรก็สามารถทำให้มือขวาของฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยนมาเป็นพรรคพวกของตัวเองได้”
ฉีเติ่งเสียนพูดขำ ๆ ว่า “ก็ฉันบอกแล้วไง ไม่ต้องห่วงแม่ฉันหรอก!”
จ้าวหมิงลู่อดที่จะหัวเราะไม่ได้ เขาเอ่ยถามว่า “ติงเหลิ่ง นี่มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? นายควรบอกให้ฉันรู้บ้างนะ”
จ้าวซือชิงเอ่ยอย่างใจเย็น “บอกนายแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร? ตระกูลจ้าวมักจะปิดประตูที่เปิดให้คนเข้ามา แต่ทิ้งไว้เพียงช่องเล็ก ๆ สำหรับสุนัขปีนเข้าไป”
จ้าวหมิงลู่พยักหน้าอย่างครุ่นคิด จากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า“คำพูดของเธอฟังดูมีเหตุผลจริง ๆ นะ จ้าวซือชิง!”
เหล่าพนักงานรักษาความปลอดภัยที่มีอาวุธเหล่านี้ ล้วนฟังคำสั่งของติงเหลิ่ง
เมื่อติงเหลิ่งแปรพักตร์ไปอยู่กับจ้าวซือชิง พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องฟังคำสั่งของจ้าวหมิงลู่อีก
“ฉันกลับมาคุมคลับย่งจิ่วแล้ว นายมีความคิดเห็นอะไรไหม?” จ้าวซือชิงมองไปที่จ้าวซือชิงถามอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“ปืนและคนอยู่ในมือพี่ ผมจะไปมีความคิดเห็นอะไรได้?” จ้าวหมิงลู่ยิ้มอย่างหมดหนทาง ยักมือขึ้น เขารู้ว่าครั้งนี้ตนเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้แล้ว
“แต่ชื่อเสียงของพี่มันอยู่แค่ในอดีต ถึงพี่เข้าคุมในคลับ ก็ไม่ใครยินดีที่จะมาที่นี่หรอกคลับแล้ว”
“ใช่ไหมล่ะ?”
ในขณะที่จ้าวหมิงลู่กำลังพูด เขาหันไปยิ้มให้กับสมาชิกที่มาดูเหตุการณ์
เขาเพิ่งจะเสียหน้าไป แต่กลับไม่ใส่ใจแม่แต่นิด ยังคงทำตัวราวกับมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมและดูเหมือนมีแผนการอยู่ในใจ
เมื่อจ้าวหมิงลู่เอ่ยถามขึ้น ทันใดนั้นสมาชิกในกลุ่มก็โต้ตอบขึ้นมาทันที
“ใช่ครับ คุณชายจ้าวพูดถูก! เราเรามาคลับย่งจิ่วเพราะเรานับถือคุณจ้าว ถ้าคุณชายจ้าวไม่อยู่ เราจะจ่ายค่าบัตรสมาชิกไปทำไม!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันมาก็เพราะคุณหมิงลู่ ถ้าคุณหมิงลู่ไปเปิดคลับที่ไหน ฉันก็จะตามไปทำบัตรสมาชิกที่นั่น!”
“ฉันรู้จักแค่จ้าวหมิงลู่ จ้าวซือชิงเป็นใครกัน ทำไมไม่เห็นคุ้นเลย!”
เหล่าสมาชิกเหล่านี้ต่างก็สนับสนุนจ้าวหมิงลู่อย่างเต็มที่ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าพวกเขาแค่ต้องการไปร่วมงานที่จ้าวหมิงลู่จัดขึ้นในคลับของเขา
แต่จ้าวซือชิงกลับไม่แสดงท่าทีใด ๆ เพียงแต่พูดเบา ๆ ว่า “สิ่งที่มีอยู่ในชะตาชีวิตจะต้องมีอยู่แน่นอน ส่วนสิ่งที่ไม่มีในชะตาชีวิต ก็อย่าไปฝืนขอร้องฉอายุฉันก็ปูนนี้แล้ว คิดว่ามองไม่ออกอีกหรือไง?”
เมื่อทุกคนได้ยินเธอเรียกตัวเองว่า “อายุปูนนี้” ต่างก็รู้สึกแปลก ๆ เพราะเธอดูยังค่อนข้างเด็ก อายุเพียงค่สามสิบปีเท่านั้น
“ถ้าเรายังยึดมั่นในความคิดเก่า ๆ เราก็จะไม่ก้าวหน้าไปไหน เพราะยังไงฉันก็เป็นคนที่ชอบอดีต วันนี้น่าจะมีเพื่อนเก่ามาช่วยสนับสนุนบ้างสิ?” จ้าวซือชิงยิ้มและเอ่ยอย่างมีเลศนัย
จ้าวหมิงลู่ตอบว่า “หรือไม่ก็อาจจะมีคนลืมพี่ไปนานแล้ว พี่จะเอาเพื่อนเก่ามากที่ไหน?”
ทันทีที่เขาพูดจบ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งถือบัตรสมาชิกเดินเข้ามาในคลับ พวกเขาล้วนเป็นผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ มีทั้งชายและหญิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...