ในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยผู้มีอำนาจแทบจะไม่มีใครไม่กลัวฉีปู้อวี่
ไม่มีทางเลือก เพราะชื่อเสียงของหัวหน้าใหญ่เกิดจากการที่เขาสังหารผู้คนมาแล้วมากมาย ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่ได้รับคำขานว่า “โหดร้าย”
นายท่านหวังสำนึกในใจว่าการฆ่าคนก็แค่ตัดหัวลงดินนั้นก็เพียงพอแล้ว ทำไมต้องเรียกฉีปู้อวี่มาที่นี่ด้วย?!
เมื่อหวังเจี้ยนเฉิงเห็นฉีปู้อวี่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะตอนเด็กเขาเคยถูกข่มขวัญอยู่บ่อยๆ พี่เลี้ยงที่เคยบอกว่า “ถ้าคุณซนอีก ฉีปู้อวี่จะมาหาคุณนะ!”
ถึงแม้เขาจะไม่เคยเห็นด้วยตาตนเองว่าฉีปู้อวี่ระเบิดหัวคนได้อย่างไร แต่ข่าวลือเหล่านั้นก็มักจะถูกพูดต่อกันไปเรื่อยๆจนกลายเป็นเรื่องมหากาพย์ เขาถึงกับคิดว่าฉีปู้อวี่อาจจะมีตาที่สามตามที่ข่าวลือบอกจริงๆ
“เกิดอะไรขึ้น?” ฉีปู้อวี่พูดโดยไม่อ้อมค้อม ดูเหมือนจะไม่พอใจ
“นี่ดูสิ เขาชนรถของผม แล้วยังสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าหน้าที่เพื่อใส่ร้ายผมว่าเป็นฝ่ายผิดทั้งหมด แต่ผมก็ไหวตัวทัน” ฉีเติ่งเสียนยื่นใบรับรองความรับผิดชอบในอุบัติเหตุให้ฉีปู้อวี่ดู
เมื่อฉีปู้อวี่ดูเอกสารแล้วขมวดคิ้ว แล้วกล่าวว่า “แล้วการชดใช้จะว่าอย่างไร?”
ฉีเติ่งเสียนตอบเรียบๆว่า “รวมทั้งค่าซ่อมรถและค่าทดแทนทางจิตใจ ผมขอแค่หนึ่งร้อยล้านเท่านั้น”
ฉีปู้อวี่ฟังแล้วตกใจ มองว่าไอ้หนุ่มนี่โลภเกินไป รถยนต์ที่มีราคาเพียงสามแสนกว่า กล้าหาญที่จะเรียกร้องหนึ่งร้อยล้าน?!
นายท่านหวังกล่าวกับฉีปู้อวี่ว่า “ถ้าเป็นความรับผิดชอบของเถียนชิ่งโหย่วเราก็จะชดใช้ แต่คุณไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยเหรอ? ทำคนเป็นแบบนี้ แล้วยังกล้าขอหนึ่งร้อยล้าน”
ฉีปู้อวี่พยักหน้าเห็นด้วย เพราะไม่ควรทำให้เกินไปนัก! เขาจึงยื่นมือขวาออกไป ชยับนิ้วทั้งห้าแล้วหมุนข้อมือ
ความหมายของเขาคือต้องการให้ลดราคาลงครึ่งหนึ่งจ่ายเพียงห้าสิบล้านก็พอ เพราะเถียนชิ่งโหย่วเรียกร้องเพียงสี่สิบล้าน
“พ่อผมบอกแล้วว่านี่ไม่เกินไป ถ้าไม่มีห้าร้อยล้านเราจะไม่จบกัน!” ฉีเติ่งเสียนตะโกนด้วยเสียงที่มีน้ำเสียงเด็ดขาด
ฉีปู้อวี่อึ้งไป “ไอ้เด็กนี่ ไม่เข้าใจสัญญาณพ่อเลยเหรอ?”
เขาจึงรีบแสดงท่าทางให้ฉีเติ่งเสียนดู โดยการหงายฝ่ามือเข้าหากันแล้วกำหมัดจากนั้นส่ายหัว
ฉีเติ่งเสียนกล่าว “พ่อบอกให้ผมเตือนคุณว่า ถ้าไม่มีห้าร้อยล้าน พ่อของผมจะทำให้เกิดความรุนแรงถึงห้าครั้ง คุณพิจารณากันเอง!”
สีหน้าของฉีปู้อวี่เย็นยะเยือกทันที เขามองฉีเติ่งเสียนด้วยความสงสัย เพราะเริ่มสงสัยว่าชื่อเสียงที่โหดร้ายของเขานั้นอาจจะเกิดจากเด็กนี่เป็นคนสร้างขึ้นมา
ฉีปู้อวี่ถอนหายใจด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง ส่งสัญญาณให้ฉีเติ่งเสียนว่า “นายทำแบบนี้ไม่ได้ การค่อยๆเป็นค่อยๆไปมันคือทางเดินที่ยั่งยืน ถ้าเรียกร้องมากเกินไป ครั้งหน้าจะไม่สามารถเรียกคืนได้”
ฉีเติ่งเสียนหันไปตะโกนใส่นายท่านหวังว่า “พ่อบอกว่ารถคันนั้นเป็นของขวัญในวันครบรอบจากเขาให้แม่ของผม มีความหมายมาก ดังนั้นนอกจากการชดใช้ห้าร้อยล้าน คุณยังต้องให้รถแลมโบร์กินี่ด้วย!”
เส้นเลือดที่ขมับของฉีปู้อวี่ปูดขึ้น เขามือกำแน่น สีหน้าของเขากลายการเป็นยิ้มที่แฝงความน่ากลัว
เขาโกรธมากที่ฉีเติ่งเสียนแปลความหมายของเขาผิด แต่คนที่ถูกข่มขวัญกลับกลายเป็นนายท่านหวังและหวังเจี้ยนเฉิง
สีหน้าของนายท่านหวังกลายเป็นสีคล้ำและหัวใจเต้นแรง เขามองไปที่หวังเจี้ยนเฉิงอีกครั้ง
การยอมแพ้เป็นสิ่งที่เขาในฐานะหัวหน้าครอบครัวไม่สามารถทำได้ ดังนั้นจึงต้องให้หลานชายทำแทน
หวังเจี้ยนเฉิงจึงยืนขึ้นมา สภาพจิตใจเริ่มรู้สึกไม่แน่ไม่นอนและกล่าวว่า “ถ้าผิด ก็อยู่ที่เถียนชิ่งโหย่วและเขาก็ยังขาดความรู้มารยาท ดังนั้นเราก็ควรจะชดใช้”
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าพอใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...