มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1702

“เฮ้อ เสี่ยวเฉิน เธอช่างไม่รอบคอบเลยนะ ปล่อยให้คนอื่นฉวยโอกาสไล่เธอออกนอกประเทศแบบนี้ ฉันยังอยากใช้เวลาดีๆกับเธอสักสองสามวันอยู่เลย” ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจขณะขับรถด้วยท่าทีเสียดาย

เฉินหยูหัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่า “คุณไปสนใจใช้เวลากับจ้าวหงหนีและจ้าวหงซิ่วสองคนนั้นดีกว่าเถอะ”

ฉีเติ่งเสียนอดกลุ้มใจไม่ได้ มือขวาเลื่อนลงจากพวงมาลัยวางไว้บนแผงควบคุมทางขวา ขณะเดียวกันเฉินหยูก็ขยับตัวเล็กน้อย และเอียงขาเข้ามาใกล้เขา

“จริงด้วยสิ ขับรถหรูแบบนี้ มีสาวสวยเอนขามาใกล้ เหมือนที่เขาพูดกันเลย” ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา

เฉินหยูหัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่า “ฝันไปเถอะ ฉันไม่ได้สนใจว่านายรวยแค่ไหน ฉันแค่อยากดูว่านายขับลัมโบร์กีนีมือเดียวมันเท่แค่ไหนก็เท่านั้น”

มือของฉีเติ่งเสียนเลื่อนวางลงบนเข่าของเฉินหยู เข่าที่สวมถุงน่องสีดำให้สัมผัสที่นุ่มสบาย

ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเป็นไปอย่างคลุมเครือ คำพูดที่แลกเปลี่ยนระหว่างกันนั้นก็เต็มไปด้วยความสนุกสนานเสมอ

ที่พิเศษไปกว่านั้นคือฉีเติ่งเสียนดูจะฉลาดขึ้นจริงๆ ไม่ได้พูดอะไรที่ดูไร้เสน่ห์เหมือนตอนที่อยู่ที่เมืองกวงหยางอีกแล้ว

แม้จะรู้สึกดีแต่เขาก็รู้จักควบคุมตัวเอง มือที่เลื่อนขึ้นไปถึงแค่ขอบกระโปรง และเลื่อนลงแค่ถึงเข่า ถือว่ารักษาระยะได้เป็นอย่างดี

เฉินหยูพูดเบาๆ ว่า “เรื่องจัดการกับมิฮาอิด ทำได้ก็ดี แต่ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าฝืน ตระกูลจ้าวในเมืองหลวงน่ะ ยังมีอิทธิพลอยู่มาก”

“เข้าใจแล้วครับ เพื่อนนักเรียนเสี่ยวเฉิน” ฉีเติ่งเสียนตอบ “แต่เธอช่วยปล่อยให้ฉันขับรถหน่อยได้ไหม หยุดดึงมือฉันไปที่ขาของเธอได้แล้ว”

เฉินหยูกรอกตามองแล้วพยายามขยับขาออก แต่ก็พบว่ามือของเขามีแรงมาก เธอไม่สามารถดึงออกได้ง่ายๆ

พอถึงไฟแดง ฉีเติ่งเสียนก็ปล่อยมือลงเพื่อรักษามารยาทไว้ เขารู้จักควบคุมตนเอง ไม่แสดงออกว่าโลภมากเกินไป ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายอาจใช้โอกาสนี้กลับมาเล่นงานเขาได้

ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือระหว่างเขากับเธอเป็นแบบนี้ ต่างคนต่างรุกและรับสลับกันไปอย่างมีชั้นเชิง ถ้าเผลอตกหลุมพรางของตัวเองอาจยากที่จะถอยออกมาได้

ยิ่งไปกว่านั้น เฉินหยูน่ะ ถือว่าเป็นยอดฝีมือในการจัดการกับผู้ชายเลยทีเดียว

ที่ลานจอดรถใต้ดินของสนามบิน เฉินหยูได้รับข้อความจากบอดี้การ์ด แจ้งว่าพวกเขาใกล้จะมาถึงแล้ว และตั๋วเครื่องบินก็จัดเตรียมเรียบร้อย

“ฝีมือขับรถของนายยังไม่ดีพอ ดูสิ พวกนั้นตามเรามาแล้ว” เฉินหยูพูดพร้อมใช้นิ้วโป้งชี้ไปด้านหลัง ก็เห็นมีรถตู้วีไอพีสีดำขับตามมา

ฉีเติ่งเสียนยิ้มแล้วพูดว่า “พวกนั้นต้องเห็นว่าเธอขึ้นเครื่องบินจริงๆ ถึงจะไว้ใจ คุณกลัวมิฮาอิด แต่พวกเขาก็กลัวว่าคุณจะรวมกลุ่มอำนาจมากเกินไปในเมืองหลวง”

ฉีเติ่งเสียนลงจากรถและเปิดประตูรถให้เฉินหยูอย่างสุภาพ เขายื่นมือไปช่วยดึงเธอลง เฉินหยูเหมือนจะลื่น เธอจึงซบเข้าไปในอ้อมแขนของเขาโดยบังเอิญหรืออาจจะตั้งใจก็ไม่รู้

บรรยากาศที่แสนจะคลุมเครือ

ฉีเติ่งเสียนใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวเธอเบาๆ อีกมือหนึ่งช่วยจัดผมหน้าม้าที่หล่นมาของเธอ พร้อมถามว่า “แว่นตาของเธอเลอะ ให้ฉันเช็ดให้ไหม?”

เฉินหยูตอบ “ได้สิ!”

ฉีเติ่งเสียนถอดแว่นของเธอออก

คนสายตาสั้นเมื่อลดแว่นลงมักจะทำให้ดวงตาดูไม่มีชีวิตชีวา แต่ทว่าดวงตาของเฉินหยูยังคงสดใสและน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น ราวกับจะละลายทุกสิ่งได้

ฉีเติ่งเสียนวางแว่นตาไว้บนรถ จากนั้นยกมือขึ้นเชยคางของเฉินหยูให้เธอแหงนหน้าเอียงประมาณสี่สิบห้าองศา ก่อนจะกล่าวคำหวานตามแบบหมาป่าเจ้าเลห์ว่า “ดวงตาของเธอสวยนะ มองเห็นแค่ฉันคนเดียว”

เฉินหยูหัวเราะ แล้วใช้มือดึงคอฉีเติ่งเสียนลงมาจูบอย่างอ่อนโยน

ฉีเติ่งเสียนดันเฉินหยูให้พิงรถไว้แล้วสัมผัสริมฝีปากของเธออย่างเต็มที่ รสสัมผัสนุ่มนวลและหวานชื่นทำให้เขาแทบละลาย

“ไอ้บ้านั่นมันโชคดีชะมัด!”

“รู้สึกอย่างไรบ้าง?” เฉินหยูถามอีกครั้ง

“รู้สึกเสียดายเล็กน้อย” ฉีเติ่งเสียนตอบพร้อมยิ้ม ก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเฉินหยูดังขึ้น

“มีความเสียดายบ้างก็ดีนะ” เฉินหยูพูดพร้อมรอยยิ้ม ก่อนหยิบโทรศัพท์ออกมารับสาย

เป็นสายจากบอดี้การ์ดของเธอที่มาถึงแล้ว

ฉีเติ่งเสียนจึงจับมือเรียวบางของเฉินหยูด้วยความอาลัย พาเธอไปยังสนามบินและส่งเธอไปพบกับบอดี้การ์ด

“คุณหนูใหญ่!”

เมื่อบอดี้การ์ดเห็นเฉินหยู ก็รีบวิ่งเข้ามาหาในลักษณะที่เตรียมพร้อมป้องกันทันที เพื่อไม่ให้ใครฉวยโอกาสทำอันตรายเธอได้

บอดี้การ์ดเหล่านี้ล้วนมีความเป็นมืออาชีพสูง แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็พร้อมที่จะปกป้องเฉินหยู

เฉินหยูจึงพูดกับฉีเติ่งเสียนว่า “พอแค่นี้ก็พอ ถึงแล้วจะส่งข้อความไปให้นะ”

ฉีเติ่งเสียนที่ยังคงตกอยู่ในภวังค์ของความน่ารักและเสน่ห์ของเฉินหยู ก็ตอบรับช้า ๆ ว่า “อืม ติดต่อมาตลอดนะ”

เฉินหยูโบกมืออำลาอย่างสง่างาม แล้วเดินจากไปพร้อมบอดี้การ์ด

ฉีเติ่งเสียนได้แต่ถอนหายใจพลางพูดว่า “เสี่ยวเฉินคนนี้ โบกมืออำลาไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ แต่กลับพาใจของฉันไปเสียแล้ว”

ก็ใช่ใจดวงหนึ่ง

ถึงอย่างไรตอนนี้ก็เก็บสะสมมาเป็นสิบดวงแล้ว เก็บมากกว่านี้ก็เอาไปไม่ได้อยู่ดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง