ในเมื่อจ้าวซือชิงยอมโทรมาเอยปากขอฉีเติ่งเสียนเรื่องนี้ แน่นอนว่าเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไว้หน้าเธอ
แต่ก็เสียดายที่ทำให้สวีเอ้าเสวี่ยยอมก้มหัวให้เขาไม่ได้
ฉีเติ่งเสียนวางโทรศัพท์ลง และพูดอย่างยิ้มๆ : “เคล็บลับคุณเยอะดีหนิ ถึงกับไปหาแม่ฉันเลยหรอ ?”
สวีเอ้าหลงแค่ยิ้มและไม่กล้าตอบอะไร ยังไงซะตระกูลสวีจะเดิมหมากแต้มนี้ได้หรือไม่ก็ต้องดูว่าฉีเติ่งเสียนจะยอมรึเปล่า
หากฉีเติ่งเสียนจงเกลียดจงชังตระกูลสวีมันก็คงไม่มีประโยชน์แม้ว่าพวกเขาจะติดต่อกับจั่วเฉินผ่านวิธีอื่นๆก็ตาม ยังไงซะเขาก็มีอำนาจเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษ
อีกอย่างรัฐบาลกลางก็ได้วางแผนไว้แล้ว หากฉีเติ่งเสียนไม่ยินยอมก็ไม่มีที่ว่างให้ตระกูลสวีเข้ามาแทรกแซงได้
“ตกลง ฉันจะถามจั่วเฉินให้ว่าวันพรุ่งนี้มีเวลามาเจอพวกคุณรึเปล่า” ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจและพูดอย่างไม่มีทางเลือก
“ได้เลย ขอบคุณมากนะ !” สวีเอ้าหลงร้สึกโล่งใจและรีบพยักหน้าขอบคุณอย่างรวดเร็ว
ตระกูลสวีตกต่ำลงก็เพราะสงครามทางธุรกิจจึงทำได้เพียงพึ่งพาตระกูลจ้าว แต่ตอนนี้สวีเอ้าเสวี่ยกับตระกูลจ้าวไม่ได้สนิทกันมากเหมือนที่คนอื่นคิดแล้ว อีกอย่างตระกูลจ้าวในเมืองหลวงก็เสียเปรียบซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้ตระกูลสวีต้องหาทางออกใหม่ด้วยวิธีอื่น
ฉีเติ่งเสียน : “คุณไปได้แล้ว”
สวีเอ้าหลงลุกขึ้นและจากไป ตอนนี้เขาไม่เหลือคราบความระห่ำและหยิ่งยโสของเมื่อก่อนอยู่แล้ว
หลังจากออกจากร้านกาแฟ สวีเอ้าหลงก็โทรหาสวีเอ้าเสวี่ยและพูดด้วยรอยยิ้ม : “เอ้าเสวี่ย ของคุณเธอมากนะถ้าไม่มีเธอเรื่องนี้คงสำเร็จไม่ได้”
สวีเอ้าเสวี่ยพูดตอบด้วยเสียงเย็นชา : “นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะช่วยตระกูลสวี ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรอีกก็ไม่ต้องมาหาฉันแล้วนะ”
สวีเอ้าหลงรีบพูดตอบ : “จะเป็นยังนั้นได้ไงล่ะ? ยังไงพวกเราก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกันอย่ามาทำเย็นชากันอย่างนี้สิ ! คุณอยู่ที่หนานหยางถ้ามีปัญหาอะไรก็มาให้พวกเราช่วยเหลือได้เหมือนกัน”
สวีเอ้าเสวี่ยทำเสียง “เชอะ !” และวางสายไป เห็นได้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับตระกูลสวีไม่ได้ปรองดองอย่างที่คิด
ฉีเติ่งเสียนกลับไปที่คุณนายกลุ่มธุรกิจสำหรับเขาแล้วเรื่องที่เผิงไหลอีกไม่นานก็จะได้รู้ผลแล้ว
อีกเรื่องเดียวก็คือต้องรอคลากร์ก
ในอีกไม่กี่วันต่อมา เขาก็ปรับตัวเองให้ดีพร้อมรอดูการสร้างกระแสของคลาร์ก เพื่อดูผลว่าสุดท้ายแล้วใครจะเป็นฝ่ายชนะ !
วันรุ่งขึ้นซ่งผูก็สร้างความเคลื่อนไหวมาบ้างแล้ว
เกิดความโกลาหลในเผิงไหล คลาร์กชายผิวขาวที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศมี่ต้องการเปิดสังเวียนที่เผิงไหลเพื่อปะทะกับผู้มีฝีมือสูงด้านยุทธภพในประเทศหัวกั๋ว? ข่าวนี้ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนมาก !
“งานชุมนุมการต่อสู้ในครั้งนี้พวกเราตระกูลซ่งจะใช้เงินห้าร้อยล้านดอลล่าร์ในการจัดขึ้น !” เมื่อข่าวนี้ถูกแพร่ออกไปก็ยิ่งเพิ่มความสั่นสะเทือนมากกว่าเดิม
สำหรับฉีเติ่งเสียนผู้มีนิสัยใช้เงินในทางผิดๆเงินห้าร้อยล้านดอลลาร์อาจฟังดูไม่มาก แต่ในความเป็นจริงเป็นจำนวนที่เกินจริงไปมาก !
ต้องรู้ว่าเมื่อมองไปรอบโลกการแข่งขันชิงเงินห้าร้อยล้านดอลล่าร์เป็นอะไรที่หาได้ยากมาก….
หลังจากที่จิ่วเฮิงเห็นข่าวนี้ก็อดไม่ได้ที่จะพูดกับฉีเติ่งเสียนด้วยความตื่นเต้น : “โอโห้ ในที่สุดแกกับคลาร์กก็จะได้เผชิญหน้ากันอย่างเป็นทางการสักที !”
“จิตใจก็เหมือนคมมีด ชีวิตผู้คนก็เหมือนต้นหญ้า !” ตอนนี้จิตใจของฉันมีช่องโหว่อยู่เล็กน้อยก็จริง แต่นี่คือศึกที่แบกรับโชคชะตาของสองประเทศมหาอำนาจ ต่อให้เป็นจ้าวซวนหมิงมาอยู่ในตำแหน่งเดียวกับฉันก็คงจะมีความเครียดอยู่บ้างเช่นกัน” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างปลงๆ
“จิตใจของแกในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสภาวะของจิตใจดั่งคมมีด มองผู้คนเหมือนต้นหญ้ายิ่งคุณยังให้ความสำคัญกับข่าวพวกนี้มากเท่าไรคลาร์กก็สามารถบรรลุเป้าหมายของเขาได้มากเท่านั้น คนผู้นี้อันตรายมากจริงๆเขาไม่ได้พูดเพียงแค่โอ้อวดว่าจะยึดประเทศหัวกั๋ว” จิ่วเฮิงพูดอย่างอดไม่ได้
ฉีเติ่งเสียน : “ฉันขอไปเตรียมเรื่องอะไรนิดหน่อย”
จิ่วเฮิงอึ้งไปสักครู่ก่อนพูดว่า : “แกจะไปทำอะไร?”
ดวงตาของฉีเติ่งเสียนเป็นประกาย เขาเปิดข่าวไปหน้าอื่นและพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น : “ฆ่าคน ! ใช้ชีวิตไอ้สารเลวพวกนั้นมาเป็นแรงเติมเต็มจิตใจให้ฉัน !”
จิ่วเฮิงมองอย่างตั้งใจและเห็นว่าข่าวนี้เป็นข่าวเกี่ยวกับคดีปล้นและลักพาตัวในอวี้สือกั๋ว กลุ่มคนติดอาวุธลักพาตัวสองแม่ลูกและส่งเข้าไปยังแดนของกลุ่มอาชญากร
ผู้บริหารของกลุ่มอาชญากรนี้ยังถ่ายทอดสดบนอินเทอร์เน็ตท้าทายว่าถ้าแน่จริงก็ลองมาจัดเขาที่ก่าก่งสิ อย่าเป็นแค่นักเลงคีย์บอร์ด
“คนพวกนี้เป็นสัตว์นรกอย่างแท้จริง เมื่อเราฝึกฝการต่อสู้จิตใจเราก็เหมือนคมมีด ชีวิตผู้คนก็เหมือนต้นหญ้าแต่ไม่ว่าอย่างไรอันนี้ก็ใช้เฉพาะกับศัตรู….ท้ายที่สุดแล้วเราต้องรู้จักที่จะเคารพชีวิต”
“อย่างนั้นก็ดีฉันจะไปกับแกเอง”
“ฉันกำลังคันไม้คันมืออยากฆ่าไอ้พวกสารเลวอยู่พอดี !”
จิ่วเฮิงยิ้มพลางถูมือซ้ำๆใบหน้ของเขาเเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนได้ยินอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างยิ้มๆ : “ได้สิ อย่างนั้นพวกเราก็ไปฆ่ากันให้ซะใจ ให้ทุกคนบนโลกรู้กันไปเลยว่าใครกันที่ทรงพลังจนสู้กับคนทั้งประเทศได้ !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...