มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 1739

คนอย่างฉีเติ่งเสียนและคลาร์กอยู่ในจุดสูงสุดของศิลปะการต่อสู้แล้ว

หลายคนไม่มีแนวคิดที่ชัดเจนว่าคนประเภทนี้มีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน มีเพียงแนวคิดง่ายๆว่าทำนองว่า โอ้ พวกเขาสามารถสู้กันอย่างนี้ได้

แต่ถ้าบุคคลเหล่านี้แฝงตัวเข้ามาในประเทศ และมีความเชี่ยวชาญในด้านลอบสังหารมันจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากแน่นอน !

ในคราวนี้ฉีเติงเสียนพร้อมที่จะแสดงให้พวกอาชญากรในอวี้สือกั๋วได้เห็นว่าพลังอำนาจที่น่าหวาดกลัวมนเป็นอย่างไร

ฉีเติ่งเสียนยังยินข่าวลืมมาว่ามีบุคคลท่านหนึ่งที่เป็นดั่งเซียนในเทือกเขาจงหนาน มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับรัฐบาลประเทศเสวี่ยเพราะว่าครั้งหนึ่งเคยแอบลักลอบเข้าไปในตำหนักแดงและตัดผมของประธานาธิบดี ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สั่นสะเทือนไปทั้งประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ยินว่าบุคคลนี้เป็นเซียนกระบี่ที่ลงมายังโลกสามารถสังหารผู้คนที่อยู่ห่างออกไปพันลี้ได้…

ตำนานในช่วงต้นฉีเติ่งเสียนยังเชื่ออยู่แต่ในส่วนหลังคงมีเรื่องเท็จอยู่บ้าง ยังไงซะเขาฆ่าคนไปสามสิบกว่าคนในจิงเต่า แต่ภายในพริบตาเดียวจำนวนคนในข่าวลือก็เพิ่มขึ้นเป็นสามถึงสี่ร้อยคน

เรื่องที่มีความเป็นมายาวนานจะยิ่งมีความอุกอาจมากขึ้นเรื่อยๆก็เป็นเรื่องปกติ

ฉีเติ่งเสียนเห็นข่าวนี้โดยบังเอิญและในเวลาเดียวกันก็รู้สึกว่ามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นในวิสัยทัศน์ของเขา เขาจึงต้องใช้วิธีที่โหดร้ายในการจัดการ

เขาบอกซุนอิ่งซูว่าจะไปจากเผิงไหลสักพักและจะรีบกลับมาก่อนการต่อสู้ตัดสินกับคลาร์ก

ซุนอิ่งซูก็ไม่ได้ถามอะไรและให้เขาได้ไปจัดการธุระของเขา

ฉีเติ่งเสียนและจิ่วเฮิงปลอมตัวแล้วอาศัยความสัมพันธ์ของตระกูลซุนเพื่อสร้างตัวตนของพวกเขา จากนั้นจึงขึ้นเครื่องบินไปที่อวี้สือกั๋ว

หลังจากที่ถึงเมืองหลวงของอวี้สือกั๋ว จิ่วเฮิงก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า : “ดูๆแล้วที่นี่ก็ไม่ได้วุ่นวายขนาดนั้นนะ ?”

ฉีเติ่งเสียนยิ้มๆและพูดว่า : “ยังไงซะที่นี่ก็เป็นเมืองหลวง การรักษาความปลอดภัยก็ต้องดีกว่าหน่อยสิ แกลองเอากระเป๋าเงินออกมากลางถนนใหญ่ดูมั้ยล่ะ ?

จิ่วเฮิง : “พวกเรามาเพื่อฆ่าไอ้สารเลวพวกนั้นไม่ได้มาเพื่อฆ่าอันธพาล ไร้สาระจริงๆไปกันได้แล้ว !”

ฉีเติ่งเสียนยกมือขึ้นเพื่อดูเวลาและพูดว่า : “ไม่ต้องรีบ พวกเรารอคนฆ่าสัตว์ให้มาถึงก่อนค่อยว่ากันอีกที”

ในเวลาไม่นานลูกน้องของคนฆ่าสัตว์ก็มาถึงช บุคคลนี้มีชื่อว่าเมี่ยวหว่าเขาเป็นชายรูปร่างผอมเพรียว ผิวคล้ำเล็กน้อยและเมื่อยิ้มก็จะเห็นฟันขาวซีกโต

“สวัสดีครับรองหัวหน้าใหญ่ ผมเป็นลูกน้องของนายพลหน่ายซิ่นท่านให้ผมมารอพวกคุณที่นี่ครับ” เมี่ยวหว่าพูดกับฉีเติ่งเสียนด้วยความเคารพนับถือ

“สวัสดีนะ พาพวกเราไปที่ก่าก่งเถอะ” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็น

เมี่ยวหว่า : “รองหัวหน้าใหญ่ครับผมว่าคุณอย่าให้นาฬิกาข้อมือออกมาข้างนอกเลยนะครับ มันจะสะดุดตาและอาจไปดึงดูดพวกนักเลงท้องถิ่นได้ คนพวกนี้เชี่ยวชาญเรื่องการปล้นชาวต่างชาติมากโดยเฉพาะกับคนประเทศหัวกั๋ว

ในระหว่างที่พวกเขาพูดกันก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งผ่านมาจากด้านข้าง และชายร่างผอมที่นั่งอยู่ด้างหลังมอไซต์ก็หยิบมีดออกมาฟันเข้าที่แขนท่อนล่างของฉีเติ่งเสียน !

ฉีเติ่งเสียนเก็บมือเข้ามา แต่มอเตอร์ไซค์คันนั้นก็เร่งความเร็ววิ่งออกไปทันที

จิ่วเฮิงอ้าปากค้างและเม้มริบฝีปากพูดว่า : “ถ้าไม่เห็นกับตาฉันคงไม่เชื่อว่าศีลธรรมจะหายไปจากโลกมากขนาดนี้จริงๆ !”

เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาฉีเติ่งเสียนจึงต้องเอาแขนเสื้อลงเพื่อปิดนาฬิกาโรแล็กซ์ไว้ แม้ว่าเขาจะไม่กลัวแต่เป้าหมายของเขาก็ไม่ใช่เพื่อคนพวกนั้น

ด้วยเมี่ยวหว่าเป็นชาวพื้นเมืองที่คุ้นเคยกับสถานการณ์ที่นี่ดีมาคอยนำทางทำให้เรื่องทุกอย่างง่ายขึ้นเยอะ ในเวลานานทั้งสามคนก็มาขึ้นรถบัสและมุ่งหน้าไปยังก่าก่ง

โครงสร้างพื้นฐานของอวี้สือกั๋วนั้นแย่มาก เส้นทางในเมืองหลวงเหมือนกับถนนในชนบทที่ขาดการซ่อมมานานหลายปีในประเทศหัวกั๋ว อย่างไรก็ตามจิ่วเฮิงรู้สึกไม่สบายนักเขารู้สึกเหมือนกับว่านั่งเรือที่โคลงไปโคลงมาอยู่

แต่ฉีเติ่งเสียนกลับสงบนิ่ง ยังไงซะทางด้านนอกเรือนจำโยวตูก็ทรุดโทรมไม่ต่างกันเขาจึงคุ้นเคยกับถนนแย่ๆเช่นนี้มานานแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง