คนอย่างฉีเติ่งเสียนและคลาร์กอยู่ในจุดสูงสุดของศิลปะการต่อสู้แล้ว
หลายคนไม่มีแนวคิดที่ชัดเจนว่าคนประเภทนี้มีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน มีเพียงแนวคิดง่ายๆว่าทำนองว่า โอ้ พวกเขาสามารถสู้กันอย่างนี้ได้
แต่ถ้าบุคคลเหล่านี้แฝงตัวเข้ามาในประเทศ และมีความเชี่ยวชาญในด้านลอบสังหารมันจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากแน่นอน !
ในคราวนี้ฉีเติงเสียนพร้อมที่จะแสดงให้พวกอาชญากรในอวี้สือกั๋วได้เห็นว่าพลังอำนาจที่น่าหวาดกลัวมนเป็นอย่างไร
ฉีเติ่งเสียนยังยินข่าวลืมมาว่ามีบุคคลท่านหนึ่งที่เป็นดั่งเซียนในเทือกเขาจงหนาน มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับรัฐบาลประเทศเสวี่ยเพราะว่าครั้งหนึ่งเคยแอบลักลอบเข้าไปในตำหนักแดงและตัดผมของประธานาธิบดี ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สั่นสะเทือนไปทั้งประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ยินว่าบุคคลนี้เป็นเซียนกระบี่ที่ลงมายังโลกสามารถสังหารผู้คนที่อยู่ห่างออกไปพันลี้ได้…
ตำนานในช่วงต้นฉีเติ่งเสียนยังเชื่ออยู่แต่ในส่วนหลังคงมีเรื่องเท็จอยู่บ้าง ยังไงซะเขาฆ่าคนไปสามสิบกว่าคนในจิงเต่า แต่ภายในพริบตาเดียวจำนวนคนในข่าวลือก็เพิ่มขึ้นเป็นสามถึงสี่ร้อยคน
เรื่องที่มีความเป็นมายาวนานจะยิ่งมีความอุกอาจมากขึ้นเรื่อยๆก็เป็นเรื่องปกติ
ฉีเติ่งเสียนเห็นข่าวนี้โดยบังเอิญและในเวลาเดียวกันก็รู้สึกว่ามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นในวิสัยทัศน์ของเขา เขาจึงต้องใช้วิธีที่โหดร้ายในการจัดการ
เขาบอกซุนอิ่งซูว่าจะไปจากเผิงไหลสักพักและจะรีบกลับมาก่อนการต่อสู้ตัดสินกับคลาร์ก
ซุนอิ่งซูก็ไม่ได้ถามอะไรและให้เขาได้ไปจัดการธุระของเขา
ฉีเติ่งเสียนและจิ่วเฮิงปลอมตัวแล้วอาศัยความสัมพันธ์ของตระกูลซุนเพื่อสร้างตัวตนของพวกเขา จากนั้นจึงขึ้นเครื่องบินไปที่อวี้สือกั๋ว
หลังจากที่ถึงเมืองหลวงของอวี้สือกั๋ว จิ่วเฮิงก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า : “ดูๆแล้วที่นี่ก็ไม่ได้วุ่นวายขนาดนั้นนะ ?”
ฉีเติ่งเสียนยิ้มๆและพูดว่า : “ยังไงซะที่นี่ก็เป็นเมืองหลวง การรักษาความปลอดภัยก็ต้องดีกว่าหน่อยสิ แกลองเอากระเป๋าเงินออกมากลางถนนใหญ่ดูมั้ยล่ะ ?
จิ่วเฮิง : “พวกเรามาเพื่อฆ่าไอ้สารเลวพวกนั้นไม่ได้มาเพื่อฆ่าอันธพาล ไร้สาระจริงๆไปกันได้แล้ว !”
ฉีเติ่งเสียนยกมือขึ้นเพื่อดูเวลาและพูดว่า : “ไม่ต้องรีบ พวกเรารอคนฆ่าสัตว์ให้มาถึงก่อนค่อยว่ากันอีกที”
ในเวลาไม่นานลูกน้องของคนฆ่าสัตว์ก็มาถึงช บุคคลนี้มีชื่อว่าเมี่ยวหว่าเขาเป็นชายรูปร่างผอมเพรียว ผิวคล้ำเล็กน้อยและเมื่อยิ้มก็จะเห็นฟันขาวซีกโต
“สวัสดีครับรองหัวหน้าใหญ่ ผมเป็นลูกน้องของนายพลหน่ายซิ่นท่านให้ผมมารอพวกคุณที่นี่ครับ” เมี่ยวหว่าพูดกับฉีเติ่งเสียนด้วยความเคารพนับถือ
“สวัสดีนะ พาพวกเราไปที่ก่าก่งเถอะ” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็น
เมี่ยวหว่า : “รองหัวหน้าใหญ่ครับผมว่าคุณอย่าให้นาฬิกาข้อมือออกมาข้างนอกเลยนะครับ มันจะสะดุดตาและอาจไปดึงดูดพวกนักเลงท้องถิ่นได้ คนพวกนี้เชี่ยวชาญเรื่องการปล้นชาวต่างชาติมากโดยเฉพาะกับคนประเทศหัวกั๋ว
ในระหว่างที่พวกเขาพูดกันก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งผ่านมาจากด้านข้าง และชายร่างผอมที่นั่งอยู่ด้างหลังมอไซต์ก็หยิบมีดออกมาฟันเข้าที่แขนท่อนล่างของฉีเติ่งเสียน !
ฉีเติ่งเสียนเก็บมือเข้ามา แต่มอเตอร์ไซค์คันนั้นก็เร่งความเร็ววิ่งออกไปทันที
จิ่วเฮิงอ้าปากค้างและเม้มริบฝีปากพูดว่า : “ถ้าไม่เห็นกับตาฉันคงไม่เชื่อว่าศีลธรรมจะหายไปจากโลกมากขนาดนี้จริงๆ !”
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาฉีเติ่งเสียนจึงต้องเอาแขนเสื้อลงเพื่อปิดนาฬิกาโรแล็กซ์ไว้ แม้ว่าเขาจะไม่กลัวแต่เป้าหมายของเขาก็ไม่ใช่เพื่อคนพวกนั้น
ด้วยเมี่ยวหว่าเป็นชาวพื้นเมืองที่คุ้นเคยกับสถานการณ์ที่นี่ดีมาคอยนำทางทำให้เรื่องทุกอย่างง่ายขึ้นเยอะ ในเวลานานทั้งสามคนก็มาขึ้นรถบัสและมุ่งหน้าไปยังก่าก่ง
โครงสร้างพื้นฐานของอวี้สือกั๋วนั้นแย่มาก เส้นทางในเมืองหลวงเหมือนกับถนนในชนบทที่ขาดการซ่อมมานานหลายปีในประเทศหัวกั๋ว อย่างไรก็ตามจิ่วเฮิงรู้สึกไม่สบายนักเขารู้สึกเหมือนกับว่านั่งเรือที่โคลงไปโคลงมาอยู่
แต่ฉีเติ่งเสียนกลับสงบนิ่ง ยังไงซะทางด้านนอกเรือนจำโยวตูก็ทรุดโทรมไม่ต่างกันเขาจึงคุ้นเคยกับถนนแย่ๆเช่นนี้มานานแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...