“ในเมื่อได้มูลมาแล้ว ก็ไปช่วยเถอะ คนที่ถูกกักขังไว้มีโอกาสสูงที่จะเป็นสหายของเรา” ฉีเติ่งเสียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย
จิ่วเฮิงจับตัวไต้เฉียงไว้แน่น แล้วออกเดินทางไปพร้อมกับฉีเติ่งเสียนอย่างรวดเร็ว โดยบังคับให้ไต้เฉียงนำทาง
สำหรับตระกูลไต้ในครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ ผู้มีบทบาทสำคัญแทบจะถูกสังหารจนหมดสิ้น จากฝีมือของจิ่วเฮิงและฉีเติ่งเสียน ไม่นานนัก ศัตรูของตระกูลไต้ก็จะฉวยโอกาสลงมือเพื่อแย่งชิงอำนาจ
อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพการเมืองในก่าก่ง แม้ว่าตระกูลไต้จะถูกล้มล้างไป ก็จะมีตระกูลใหม่ที่ขึ้นมาแทนที่ และไม่แน่ว่าอำนาจใหม่ที่เข้ามาแทนตระกูลไต้ อาจยิ่งโหดเหี้ยมและไร้มนุษยธรรมมากกว่าเดิม
แต่เรื่องทั้งหมดนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ฉีเติ่งเสียนจะสามารถตัดสินใจได้ เพราะเขาไม่ได้เป็นคนของประเทศอวี้สือกั๋ว และไม่ได้มีสิทธิ์จัดการอะไรในก่าก่งเลย
การเดินทางมายังประเทศอวี้สือกั๋วในครั้งนี้ของเขา มีเป้าหมายสองอย่าง หนึ่งคือการสังหารเพื่อสะสมพลัง และสองคือการ “ทำเพื่อความยุติธรรม” โดยช่วยเหลือเหล่าสหายผู้ยากไร้ให้ได้มากที่สุด
จิ่วเฮิงและฉีเติ่งเสียนเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว และด้วยความที่เมืองก่าก่งไม่ได้ใหญ่โตนัก ทั้งสองจึงเดินทางไปยังสถานที่ที่ไต้เฉียงชี้นำจนถึงห้องขังลับในเวลาไม่นาน
“อย่าฆ่าผมเลยนะ…” ไต้เฉียงร้องขอชีวิตอย่างน่าสมเพช น้ำตาไหลพรากแทบจะทรุดลงกราบเท้าด้วยความกลัว
จิ่วเฮิงพูดอย่างเย็นชา “ได้สิ งั้นนายก็ไปบอกคนที่ถืออาวุธเฝ้าห้องขังลับนี้ให้วางปืนลง แล้วฉันจะปล่อยนายไป”
พูดจบ เขาก็ปล่อยตัวไต้เฉียงให้เดินไปข้างหน้า แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อไต้เฉียงพุ่งเข้าไปในประตูใหญ่แล้วตะโกนเสียงดังลั่น
“ใครก็ได้! ยิงมัน! ยิงไอสองคนนั้นให้ตาย!” ไต้เฉียงร้องสั่งเสียงดังลั่น พลางชี้ไปทางจิ่วเฮิงและฉีเติ่งเสียนด้านนอก
จิ่วเฮิงเผยรอยยิ้มเย็นชา พลางพุ่งตัวเข้าไปทันที ท่ามกลางกระสุนที่สาดมาราวกับสายฝน มีปืนไรเฟิลอย่างน้อยสี่กระบอกที่ลั่นไกพร้อมกัน
แต่ความเร็วของจิ่วเฮิงนั้นสูงเกินไป จนสายตาของพวกนั้นแทบจะตามไม่ทัน
เขาพุ่งผ่านตัวไต้เฉียงที่อยู่ใกล้ ๆ มือขวายกขึ้นและตวัดไปที่ลำคอของไต้เฉียง ราวกับในมือของเขาติดตั้งเลื่อยไฟฟ้าไว้ คอของไต้เฉียงเกิดบาดแผลลึกขนาดใหญ่ทันที เลือดพุ่งออกมาราวกับน้ำพุ!
‘พลังฝ่ามือแปดทิศของจิ่วเฮิงมาถึงขั้นนี้แล้วเหรอนี่ ? เพียงแค่ปาดไปครั้งเดียวก็สร้างผลลัพธ์ได้ขนาดนี้!’ ฉีเติ่งเสียนเห็นเข้าก็อดที่จะตกใจเล็กน้อยไม่ได้ แต่ไม่นานเขาก็พุ่งตามจิ่วเฮิงเข้าไป
ภายในนี้มีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธเพียงเจ็ดถึงแปดคนเท่านั้น การรับมือจิ่วเฮิงคนเดียวก็เป็นเรื่องลำบากอยู่แล้ว ยิ่งพอมีฉีเติ่งเสียนเพิ่มเข้ามาอีก ยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ทันทีที่ฉีเติ่งเสียนพุ่งเข้าไป เขาก็เคลื่อนไหวอย่างว่องไวและพลิ้วไหวในลักษณะการเดินที่ทั้งยืดหยุ่นและแปลกตา จนไปถึงตัวเจ้าหน้าที่ติดอาวุธคนหนึ่ง จากนั้นเขาก็ซัดหมัดตรงเข้าไปยังตำแหน่งหัวใจของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ!
หมัดนั้นกระแทกเข้าไปอย่างรุนแรงจนเครื่องในทั้งหมดของชายคนนั้นแตกละเอียด ร่างของเขากระเด็นลอยไปกระแทกกับกำแพงห่างออกไปถึงห้าเมตร ก่อนจะร่วงลงมานอนกองกับพื้นอย่างไร้ชีวิต กระดูกทั้งร่างแตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
จากนั้น ฉีเติ่งเสียนขยับไหล่พุ่งเข้าชนอีกคนทางซ้าย ส่งอีกฝ่ายกระเด็นกระแทกจนเสียชีวิตเช่นกัน
ทั้งสองคนทำงานอย่างประสานกันอย่างชำนาญ ไม่นานนัก พวกเขาก็จัดการเจ้าหน้าที่ติดอาวุธบริเวณห้องขังลับจนหมดสิ้น ก่อนจะเปิดประตูห้องขังออก
ภายในนั้นเต็มไปด้วยชายที่สภาพมอมแมม ผมยุ่งเหยิงและเนื้อตัวสกปรก พวกเขามองออกไปที่ประตูด้วยสายตาเหม่อลอย และเมื่อเห็นจิ่วเฮิงกับฉีเติ่งเสียน กลับพากันตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว คิดว่าทั้งสองเป็นศัตรู
ฉีเติ่งเสียนพูดขึ้นว่า “พวกคุณปลอดภัยแล้ว เราจัดการคนเฝ้าหมดแล้ว หาทางหนีออกไปเองเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...