ฉีเติ่งเสียนหัวเราะเยาะเบา ๆ พร้อมมองไปที่ทหารสามนายจากประเทศมี่ที่ล้มลงบนพื้น
จอห์นที่ยังคงไอติดขัดอยู่ แต่ก็ยังพูดด้วยท่าทางดื้อรั้นว่า"แกกล้าทำร้ายพวกเรา...ทหารเรือของประเทศมี่... ผู้บัญชาการของเรานั้นถึงจะใจดีแค่ไหน แต่ก็ไม่มีทางปล่อยพวกคนชั่วอย่างแกไปแน่!"
ฉีเติ่งเสียนย่อตัวลงแล้วตบที่หน้าของจอห์นเบา ๆ แล้วพูดว่า "รีบหนีไปขึ้นเรือรบของพวกแกที่กลางทะเลซะ อย่าเที่ยวโอ้อวดในแถบหนานหยางนี้อีก อย่าคิดว่าฉันจะไม่กล้าแตะต้องแกเพียงเพราะแกเป็นคนของประเทศมี่"
ฉีเติ่งเสียนกล้าหาญถึงขนาดที่ว่าใครก็ฆ่าได้ แต่ตอนนี้สถานะของคนประเทศมี่นั้นก็เสี่ยงเกินไป รัฐบาลประเทศมี่เองก็คอยหาช่องทางเข้ามาแทรกแซงกิจการของหนานหยางอยู่ ถ้าทำให้คนเหล่านั้นตายขึ้นมา เรื่องราวอาจบานปลายจนยากที่จะจบลงได้
ถ้าทำเช่นนั้น ก็จะทำให้เสียเงินดอลลาร์ไปเปล่า ๆ ซึ่งฉีเติ่งเสียนไม่อยากให้เงินเหล่านั้นตกไปอยู่ในมือของคนอื่น
เฉินหยูถึงกับอดไม่ได้ที่จะชื่นชมการที่ฉีเติ่งเสียนกล้าลุยและเหยียบย่ำศัตรู มันสะใจสุดๆ แม้เธอจะไม่ได้เห็นฉากการฆ่าคนข้ามพันลี้ด้วยตาตัวเอง แต่แค่จินตนาการภาพในหัวก็ทำให้เธอรู้สึกเลือดเดือดพล่านแล้ว
ผู้ชายที่มีจิตใจห้าวหาญเช่นนี้ ใครจะไม่รู้สึกหลงใหลได้ล่ะ?
“พันตรีจอห์น คุณกลับไปได้แล้ว บริษัทเหมืองแร่หย่วนหางที่ติดหนี้เงินกู้ของเฉินกรุ๊ปไว้มากมาย ตอนนี้ฉันจะรับช่วงดูแลทั้งหมด ใช้ทรัพย์สินมาชดใช้หนี้ซะ" เฉินหยูพูดอย่างเรียบเฉย
จอห์นกัดฟันพูดว่า "นี่คุณกำลังท้าทายรัฐบาลประเทศมี่ พวกเราไม่มีวันปล่อยเฉินกรุ๊ปในหนานหยางไปแน่!"
ฉีเติ่งเสียนซัดหมัดเดียวใส่จนหน้าของจอห์นบวมเป่งเหมือนหัวหมู และสลบไปในทันที
"พวกนายสองคน พาหัวหน้าของพวกนายออกไปซะ อย่าพูดอะไรที่ทำให้ฉันโมโห มิฉะนั้น ฉันอาจเปลี่ยนใจไม่ปล่อยพวกนายไปก็ได้" ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเยือกเย็น
ทหารสองคนที่เหลือจากประเทศมี่ก็เริ่มมีแรงบ้างแล้ว พวกเขาค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก พวกเขาก็เอื้อมมือดึงจอห์นขึ้นมาจากพื้น
ช่วยกันลากจอห์นที่หมดสติไปออกจากสำนักงาน
ข้างนอก เหล่ากองกำลังติดอาวุธที่ได้ยินเสียงปืนจากในอาคารเริ่มเกิดความตื่นตัว แต่เมื่อเห็นชาวประเทศมี่ออกมา พวกเขาก็ไม่ได้บุกเข้าไป
ครู่ต่อมา ทุกคนที่อยู่ข้างนอกต่างตกตะลึง เมื่อเห็นพันตรีจอห์นผู้ซึ่งปกติแล้วถืออำนาจดุจจักรพรรดิในเหมืองหยวนหาง ถูกแบกออกมาเหมือนหมาขี้เรื้อน
เฉินหยูและฉีเติ่งเสียนเดินออกมาจากอาคาร โดยฉีเติ่งเสียนหิ้วร่างไร้วิญญาณของซั่วเอ่อร์เกอไปด้วย
ขาโยนศพลงบันได และร่างนั้นก็กลิ้งลงไปเหมือนน้ำเต้า จนไปหยุดตรงหน้าของเหล่ากองกำลังติดอาวุธ
"เจ้านายของพวกแกถูกฉันฆ่าไปแล้ว ตั้งแต่นี้ไป บริษัทเหมืองแร่หย่วนหางจะเปลี่ยนมาเป็นของเฉินกรุ๊ป ฉันคือเจ้านายคนใหม่ของพวกแก" เฉินหยูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เฉินกรุ๊ปมีอิทธิพลมากในหนานหยางมานาน ประกอบกับเฉินหยูที่ถูกขนานนามว่าเป็นเผด็จการหญิงชื่อดัง ที่โด่งดังไปทั่ว ใครได้ยินคำพูดเธอต่างก็ไม่กล้าแม้แต่จะขัดขืน
แม้ว่าจะสูญเสียเจ้านายไป แต่ไม่มีใครคิดจะล้างแค้นให้
ทุกคนมีครอบครัว และรู้ดีว่าการเป็นศัตรูกับตระกูลเฉินในหนานหยางจะนำมาซึ่งผลลัพธ์อะไร นั่นคือการสูญสิ้นทั้งครอบครัว!
พวกเขาเพียงถือปืนเพื่อหาเลี้ยงชีพ ไม่จำเป็นต้องแลกชีวิตกับความจงรักภักดี เพราะพวกเขาไม่ใช่ทหารมืออาชีพที่มีความเชื่อมั่นแน่วแน่แบบนั้น
เฉินหยูกล่าวอย่างสงบ "ฉันจะยังคงจ่ายเงินเดือนพวกแกเหมือนเดิม และถ้าใครทำตัวดี จะได้โบนัสสองเท่า! จากนี้ไป พวกแกทำงานให้ฉัน ฉันจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าที่ซั่วเอ่อร์เกอให้แน่นอน"
"ที่ฉันพูด พวกแกเข้าใจไหม?"
"หรือว่า พวกแกเป็นใบ้กันหมด?"
เฉินหยูชูนิ้วโป้งให้ พร้อมมองเขาด้วยสายตาแฝงความชื่นชมแล้วพูด “เก่งมาก!”
“แน่นอนอยู่แล้ว!” ฉีเติ่งเสียนทำตัวเหมือนที่เฉินหยูคาดไว้ไม่มีผิด เขาเริ่มอวดตัวจนจมูกแทบจะเชิดไปถึงท้องฟ้า
เฉินหยูมองเขาพร้อมรอยยิ้มที่แฝงความขี้เล่นในมุมปาก นิสัยแบบนี้ของเขาเธอจะเดาไม่ออกได้ยังไง? การแก้เกมให้ตรงจุดนั้นเป็นความถนัดของคุณหนูใหญ่ตระกูลเฉินอย่างเธออยู่แล้ว
จากนั้น เฉินหยูสั่งให้กลุ่มติดอาวุธที่มารวมตัวกันแยกย้ายกลับไป และโทรหาเฉินเลี่ยให้เขาพาคนมารับช่วงดูแลธุรกิจของบริษัทเหมืองแร่หย่วนหาง และดึงเงินก้อนนั้นออกมาเพื่อเติมกลับเข้าบัญชีตระกูลเฉิน
“พี่เขยของผมนี่สุดยอดจริงๆ!” เฉินเลี่ยพูดพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้
“เหอะๆ...” เฉินหยูหัวเราะเย็นๆ เธอรู้สึกอยากจะจับน้องชายสองคนนี้มาตีหัวให้แตกเสียจริงๆ เพราะทั้งคู่ดูเหมือนจะอยากขายเธอเสียเหลือเกิน
“แต่ถึงยังไง ไอ้คนแซ่ฉีถึงจะเก่งยังไง ก็ยังไม่เหมาะสมกับพี่สาวสุดสวยที่ฉลาดเฉลียวและเก่งกาจของผมหรอก!” เฉินเลี่ยรีบพูดเสริมทันที น้ำเสียงเต็มการเอาตัวรอด
ฉีเติ่งเสียนที่หูไวได้ยินคำพูดของเฉินเลี่ย สีหน้าก็พลันหน้าตึงทันที ไอ้หมาน้อยสองมาตรฐานนี่ เวลามีเรื่องก็เรียก “พี่เขย” แต่พอไม่มีอะไรก็เรียก “คนแซ่ฉี” ช่างน่ากระทืบจริงๆ! ไว้เจอกันต้องจับมันแขวนแล้วฟาดให้เข็ด
เฉินหยูพูดขึ้น“ไปเถอะ เรากลับเมืองกาดากัน เดี่ยวเฉินเลี่ยจะพาคนมาที่นี่เอง”
“ไปว่ายน้ำที่ทะเลไหม?” ฉีเติ่งเสียนถามอย่างตื่นเต้น
“ว่ายน้ำเหรอ? ฉันเหนื่อยมากนะ แค่อยากกลับบ้านไปพักผ่อน” เฉินหยูกล่าวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...