หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฉีเติ่งเสียนก็เดินตามหยางหลิงกวงและเลขขาอู่ทั้งสองไปพบฟู่เฟิงหยุน
รอฉีเติ่งเสียนพวกเขาเดินไปหยางกวงกวงก็พูดอย่างตกใจ: “ทำไมฉันดูแล้วปลัดหยางนี่มาเพื่อฉีเติ่งเสียน?”
หลี่อวิ๋นหว่านหัวเราะให้กับหยางกวงกวงแล้วพูดขึ้น: “พูดกับเธอตั้งนานแล้วว่าอย่าตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก อีกอีกอย่างคุณฉีก็ไม่ได้น่าเกลียด!”
หยางกวงกวงพูด: “เหมือนกับว่าเธอจะรู้จักเขาดีเลยนะ ลองพูดมาให้เลขาฟังหน่อย?”
หยางกวงกวงนั้นเห็นกับตาว่าหลี่อวิ๋นหว่านนั่งบนตักของฉีเติ่งเสียนแล้วจูบปากกัน ก็รู้ดีว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นไม่ธรรมดา ตั้งใจพูดล่อเขา
“ฮ่าๆๆ ฉันจะรู้จักเขาดีขนาดได้ยังไงฉันไม่ใช่ภรรยาเขานะ เธอน่าจะต้องไปถามเมิ่งเมิ่ง”หลี่อวิ๋นหว่านขำแล้วทำตัวปกติ
“เมื่อเทียบกับภรรยาของเขาแล้วเฮนั้นสนิทกว่าภรรยาเขาอีก!”หยางกวงกวงพูดอย่างเย็นชาแต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดเรื่อง
เมื่อกี้ตอนอยู่ที่ร้านอาหาร ถูกฉีเติ่งเสียนลอบโจมตีที่หน้าอกทำให้หยางกวงกวงนั้นอารมณ์ ไอ้หมอนี่มีความสามารถบางอย่าง แต่เป็นโรคจิต ทำให้คนเหยียดหยาม
หลี่อวิ๋นหว่านถาม: “ฉันดูแล้วเธอนั้นมีความเห็นเกี่ยวกับเขานั้นเยอะเลยนะ?”
หยางกวงกวงพูดขึ้น: “สายตาไอ้หมอนี่มองฉันไม่ดีไม่ร้าย จ้องแต่สิ่งที่ไม่ควรจ้อง”
หลี่อวิ๋นหว่านไม่ใส่ใจแล้วหัวเราะพุขึ้น: “ของเธอใหญ่ขนาดนี้ ผู้หญิงอย่างฉันก็จ้องแต่ตรงนี้ของเธออยู่บ่อยๆ อย่าว่าแต่ผู้ชายเลย!”
หยางกวงกวงถูกคำพูดนี้พูดจนไม่รู้จะขำหรือร้องไห้
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ฉีเติ่งเสียนนั้นตามหยางหลิงกวงไปถึงที่พักของฟู่เฟิงหยุนแล้ว
เป็นวิลล่าเล็กๆใกล้ชานเมือง ดูไม่น่าสงสัยแต่ล้วนเป็นทหารยามในความมืดมิด เมื่อมีคนบุกรุกจะถูกค้นพบทันที
ฟู่เฟิงหยุนบุคคลระดับสูงเช่นนี้ มีความสำคัญต่อบ้านเมืองมาก ไม่เช่นนั้น คงไม่ได้รับการบริการดีขนาดนี้
ภายในประเทศและนอกประเทศ ไม่รู้ว่าจะมีกี่คนที่เป็นศัตรูของฟู่เฟิงหยุนอยากให้เขาตายอย่างมาก
“ท่านนี้ก็ต้องเป็นฉู่อู๋เต้าที่เป็นเจ้านายคนที่สองที่ฉันถูกพูดถึง ฉีเติ่งเสียน คุณฉีใช่ไหม?”ฟู่เฟิงหยุนหัวเราะที่หน้าประตูแล้วต้อยรับ ทำท่าทางสุภาพ
ฉีเติ่งเสียนมองขึ้นไปบนล่างของคนแก่คนนี้ ตัวไม่สูง ผมขาวแต่ดูใจดี อีกทั้งยังมีกลิ่นอายที่แข็งแรงอยู่ในตัวของเขา เห็นได้ชัดว่าสู้ชีวิตมาทั้งชีวิต
ฉีเติ่งเสียนก็พยักหน้าอย่างเป้นมารยาทพูดขึ้น: “ฉันเป็นผู้คุมเรือนจำโยวตูรุ่นที่สองฉีเติ่งเสียน ไม่รู้ว่าท่านฟู่เหล่านั้นมีเรื่องอะไรหาฉันหรอครับ?”
ฟู่เฟิงหยุนรีบตอบกลับ: “เข้ามานั่งแล้วดื่มชาก่อน ค่อยๆคุยกัน”
หยางหลิงกวงหัวเราะให้กับฟู่เฟิงหยุนแล้วพูด: “ท่านฟู่เหล่า คนฉันก็พามาแล้ว ก็ขอตัวกลับก่อนนะ ฉันยังมีเอกสารทางราชการต้องจัดการ”
“รบกวนแล้วนะเสี่ยวหยาง”ฟู่เฟิงหยุนพยักหน้าแล้วให้หยางหลิงกวงจากไป
“ไม่รบกวนๆ!”หยางหลิงกวงเผชิญหน้ากับฟู่เฟิงหยุน เขาเหมือนไม่ใช่ปลัดเลยทำตัวน่าเคารพ
ฉีเติ่งเสียนไปนั่งข้างในห้องรับแขกกับฟู้เฟิงหยุน มีชาดีมาต้อนรับคุณ
ข้างหลังของฟู่เฟิงหยุนมีชายผอมแห้งยืนข้างๆเขา แม้ว่าจะผอมมากๆแต่ไม่ผอมเหมือนคนอ่อนแอ แต่ความผอมเพรียวแบบนี้กระดูกมือมีความแข็งแรงมาก โค้งตัวเล็กน้อยดุก็รู้ว่าเป็นคนมีฝีมือ
“มีอะไรก็พูดมาตามตรง ท่านฟู่เหล่าไม่ต้องเกรงใจ”ฉีเติ่งเสียนถูดอย่างนิ่งๆ
“ฮ่าๆๆ...เรื่องมันเป็นแบบนี้...”ฟู่เฟิงหยุนนำเรื่องที่ตัวเองนั้นรับตัวฉู่อู๋เต้าออกจากคุก จากนั้นก็พูดเรื่องที่ช่วยฉู่อู๋เต้านั้นไปหนึ่งรอบ
“คนที่รู้จักการในนามวลาดิลอฟราชาแห่งสงครามต้องเป็นคนไม่ธรรมดา ถ้าหากให้เขานั้นซุ่มซ่อนอยู่ภายในประเทศของฉัน จะนำปัญหาและความสูญเสียให้พวกเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“ความสามารถของคนคนนี้สูงมาก คู่กับพวกเราหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็คือพวกเราที่พ่ายแพ้อย่างหนัก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...