การปราศรัยครั้งนี้ของคาปูซานครั้งนี้ ได้กวาดล้างไปทั่วทั้งหนานหยางทันที การปราศรัยของเขาถูกถ่ายทอดผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ทำให้ผู้คนทั่วทั้งหนานหยางได้รับชม
ประชาชนหนานหยางเองก็ตื่นเต้นอย่างมากหลังจากฟังคำปราศรัยนี้ ถูกปลุกเร้าด้วยกระแสชาตินิยมสุดโต่ง
สถานการณ์ในหนานหยางในขณะนี้ไม่มั่นคงอย่างรุนแรง ชาวพื้นเมืองต่างมีความคับแค้นใจอยู่แล้ว หลังจากได้ฟังคำพูดของคาปูซาน พวกเขากลับรู้สึกเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา “อ๋อ ที่แท้ไม่ใช่เราไม่มีความสามารถ แต่เพราะพวกคนจีนแย่งงานเราไป”
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้สถานีโทรทัศน์หนานหยางก็ได้มีการปลุกปั่นและกล่าวหาตระกูลเฉินอย่างลับๆ อยู่แล้ว
คำปราศรัยของคาปูซาน จึงกลายเป็นเชื้อไฟ จุดระเบิดอารมณ์ผู้คนในหนานหยางจนพวกเขาตกอยู่ในสภาวะสุดโต่ง
แน่นอนว่ายังมีคนส่วนน้อยที่ยังคงมีสติ คนกลุ่มนี้คือผู้ที่มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่หลงเชื่อการปลุกปั่นง่าย ๆ และไม่เกลียดชังคนที่พวกเขาไม่เคยพบเจอ
แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น คนส่วนใหญ่ในหนานหยางตกอยู่ในภาวะคลุ้มคลั่งแทบจะควบคุมไม่ได้
ฉีเติ่งเสียนได้ดูการถ่ายทอดสดครั้งนี้จนจบ เขานั่งดูอยู่กับเฉินหยู สีหน้าของเขาเคร่งเครียดพลางพูดว่า “เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ คาปูซานอดทนไม่ไหวแล้ว ลงมือแล้ว!”
เฉินหยูก็สีหน้าไม่ดีเช่นกัน ตอบกลับว่า “สถานการณ์กำลังจะวุ่นวายแล้ว! ฉันจะสั่งการทันที ให้เตรียมพร้อมรับมือ”
เมืองซูลาเป็นเมืองแรกที่เกิดความวุ่นวาย เพราะคาปูซานปราศรัยที่นั่นโดยตรง
ชาวเมืองซูลาตอบรับการปลุกระดม พวกเขาหยิบอาวุธขึ้นมาและเริ่มโจมตีชาวจีน
แม้คาปูซานจะพูดว่าเป็นการขับไล่ แต่เมื่อฝูงชนที่ถูกล้างสมองด้วยความคิดสุดโต่งมารวมตัวกัน ไม่มีใครสนใจอีกแล้วว่ามันคือการขับไล่หรือการสังหาร
ฉีเติ่งเสียนได้วางแผนไว้ล่วงหน้า โดยส่งคนจากกลุ่มโครงกระดูกเลือดไปกระจายตามเมืองใหญ่ต่าง ๆ ของหนานหยางและติดต่อกับผู้นำชาวจีนท้องถิ่นเพื่อเตรียมการล่วงหน้า
แต่ เมื่อคลื่นความบ้าคลั่งถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง ก็ยังทำให้ทุกคนรู้สึกหมดหวังเหมือนอาคารขนาดใหญ่กำลังจะพังถล่มลงมาทั้งหลังโดยไม่ทันตั้งตัว
เมืองซูลาเกิดการจลาจลครั้งใหญ่ในทันที ไม่รู้ว่ามีชาวจีนถูกลากออกมาจากบ้าน ร้านค้ามากี่คน ก็ถูกกลุ่มคนคลั่งทำร้าย ทุบทำลาย ปล้นสะดม และเผาทุกสิ่งทุกอย่าง
แม้แต่ทหารและตำรวจท้องถิ่นยังถอดเครื่องแบบออก และเข้าร่วมกับฝูงชนบ้าคลั่ง ตามพวกเขากลืนกินหนานหยางไปจนแทบไม่เหลือชิ้นดี
“ขับไล่คนจีน คืนความรุ่งเรืองสู่หนานหยาง!”
เหล่าผู้ก่อจลาจลตะโกนคำขวัญอย่างภาคภูมิใจ แต่พวกเขากลับลงมือสังหารชาวจีนผู้บริสุทธิ์ที่ไร้ทางสู้
ในเวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียว เมืองซูลาก็กลายเป็นทะเลเพลิง ถนนหนทางเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ร้านค้าของชาวจีนถูกทุบทำลาย ถูกปล้นสะดม ผู้คนผู้บริสุทธิ์ถูกลากออกมาจากบ้านถูกซ้อมจนเสียชีวิต แม้แต่ผู้หญิงก็ยังถูกล่วงละเมิดอย่างโหดเหี้ยม
ผู้นำชาวจีนในเมืองซูลาได้รวมกลุ่มผู้ที่มีความสามารถในการต่อสู้ไว้ พวกเขามีทั้งปืนและมีด โดยมีสมาชิกกลุ่มโครงกีฝระดูกเลือดเป็นผู้นำ พวกเขาใช้โรงงานขนาดใหญ่เป็นฐานที่มั่นเพื่อต่อสู้กลับ และพยายามช่วยเหลือพี่น้องร่วมชาติที่ติดอยู่ในความวุ่นวาย
ความโกลาหลในเมืองซูลาถูกถ่ายทอดสดออกไปทั่วหนานหยาง ทำให้เมืองอื่น ๆ เห็นแล้วก็ลุกขึ้นทำตาม โทษความลำบากที่ตัวเองตกงานไปที่ชาวจีน
การจลาจลอันน่าสะพรึงกลัวได้ลุกลามไปทั่วหนานหยางในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ที่เหมืองหินดำของสวีเอ้าเสวี่ยก็กลายเป็นเป้าหมายของผู้ก่อจลาจลเช่นกัน แต่เธอมีหน่วยรักษาความปลอดภัยส่วนตัวที่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยทหารจากกลุ่มกองกำลังท้องถิ่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...