“บัตรเอทีเอ็มทำอะไรได้ ก็ถอนเงินได้ไงล่ะ!”
ฉีเติ่งเสียนมองหยางกวนกวนด้วยความประหลาดใจและพูดแปลกๆ “ไอคิวอย่างคุณไม่น่ามีคุณสมบัติพอที่จะไปเรียนต่างประเทศรึเปล่า”
ฉีเติ่งเสียนเกือบจะกระอักเลือด ภาพตรงหน้ากลายเป็นสีดำ ขาอ่อนแรงและเกือบทรุดลงกับพื้นเพราะหยางกวนกวน
หลี่อวิ๋นหว่านปิดปากและแอบหัวเราะเบาๆ ฉีเติ่งเสียนก็เป็นแบบนี้ บางครั้งก็ชอบย้อนถามด้วยคำถามทดสอบอีคิวที่ทำให้คนฟังโมโหจนแทบเป็นบ้า!
“คุณมีเงินในบัตรเท่าไร” ฉีเติ่งเสียนถามขณะมองหยางกวนกวน
“ก็หลายล้านอยู่” หยางกวนกวนตอบด้วยสีหน้าบึ้งตึง
ในตอนที่เธอศึกษาหาความรู้ในสหรัฐอเมริกา เธอก็สตรีมเกมให้ผู้ชมในประเทศดูไปด้วยและเนื่องจากเธอหน้าตาดีจึงมีผู้ใหญ่ใจดีให้รางวัลอยู่ไม่ขาด
แม้ว่าจะไม่ได้โด่งดังมากนัก แต่เธอก็สามารถสร้างรายได้มากกว่าแสนหยวนต่อเดือนได้ง่ายๆ
ฉีเติ่งเสียนพูดว่า “เอาบัตรเอทีเอ็มของคุณมาให้ผม ผมจะถอนออกมาใช้ก่อนสักสองสามแสน”
หยางกวนกวนกระตุกมุมปากก่อนจะพูดด้วยความโมโห “เงินแค่นี้จะทำอะไรได้ ที่นี่มีคนเป็นสิบๆ คน!”
ฉีเติ่งเสียนตอบว่า “ประเด็นอยู่ที่ว่าจะใช้มันยังไง!”
หยางกวนกวนยื่นบัตรเอทีเอ็มใส่มือฉีเติ่งเสียนอย่างไม่พอใจและพูดว่า “รหัสคือวันเกิดของฉัน!”
“ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าคุณเกิดวันไหน คุณไม่ใช่ภรรยาผมนะ!” ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความตกใจ “บอกเลขมาเถอะเจ๊!”
มุมปากของหยางกวนกวนกระตุก เธอโมโหจนอยากจะถอดรองเท้าส้นสูงออกแล้วใช้ส้นรองเท้าทุบหัวหมาหัวทู่ของอีกฝ่ายให้แตกไปเลย
หลี่อวิ๋นหว่านยิ้มและพูดว่า “ฉันรู้ ฉันบอกนายแล้ว...”
ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจอย่างจนปัญญา จากนั้นก็พูดกับหยางกวนกวนว่า “ในอนาคตช่วยทำตัวให้ฉลาดกว่านี้หน่อยเถอะ ผมไม่อยากให้พวกผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมองว่าผมตาไม่มีแววและใช้เส้นสายให้คุณเข้ามาเป็นเลขา! เข้าใจไหม”
หน้าอกของหยางกวนกวนกระเพื่อมด้วยความโมโห ทุกการสูดและผ่อนลมหายใจทำให้คนอื่นกังวลว่ากระดุมเสื้อของเธอจะระเบิดออก
ฉีเติ่งเสียนส่ายหน้าและเดินออกไป
หยางกวนกวนหันไปพูดกับหลี่อวิ๋นหว่าน “คุณไม่โมโหตานั่นเหรอ!”
“เขาทำให้ฉันโมโหจนแทบบ้าอยู่บ่อยๆ เลยล่ะ แต่หลังๆ ก็ชินไปเอง” หลี่อวิ๋นหว่านพูดด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจและดึงหยางกวนกวนให้หลบไปอยู่ข้างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนจำเธอได้
“หึ...ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าตานั่นเป็นคนแบบไหน! ฉันจะรอดูว่าเขาจะใช้เงินสองสามแสนช่วยเมิ่งเมิ่งยังไง!” หยางกวนกวนกัดฟันพูด
“ถ้าเขากล้าเอาเงินฉันไปใช้มั่วซั่วละก็ ฉันไม่ปล่อยเขาไว้แน่!”
“ตาบ้าเอ๊ย...”
หลี่อวิ๋นหว่านหัวเราะอย่างอดไม่ได้ “วางใจเถอะ เขาบอกว่ามีวิธีก็แปลว่าเขามีวิธี!”
หยางกวนกวนกลอกตาใส่หลี่อวิ๋นหว่าน
“ยังไงเขาก็เป็นเจ้านายของเรา ต่อไปคุณก็ระวังคำพูดหน่อย” หลี่อวิ๋นหว่านกล่าว
“เขาไม่ใช่เจ้านายเทวดาสักหน่อย คิดว่ากลัวเหรอ” หยางกวนกวนพูดอย่างเหยียดหยาม
ขณะพูดถึงเรื่องนี้ เธอก็นึกถึงเรื่องที่เธอถูกเขาบีบหน้าอกอย่างแรงในวันนี้และเธอก็ยิ่งโมโหมากขึ้น
ใช้ชีวิตมาจนโตขนาดนี้ นอกจากตัวเธอเองกับเพื่อนสาวอีกสองสามคนก็ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนเอารัดเอาเปรียบเธอแบบนี้มาก่อน!
หลี่อวิ๋นหว่านส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ บางทีเมื่อเซี่ยงกรุ๊ปเปิดศึกกับพวกสวีเอ้าเสวี่ยกับหวังหู่เมื่อไร คนพวกนั้นคงได้ตะลึงเพราะฉีเติ่งเสียน!
ฉีเติ่งเสียนไปที่ธนาคารและถอนเงินออกมาสามแสนหยวน ในบัตรยังมีเงินเหลืออีกมาก เขาจึงจัดอยู่ในลูกค้าวีไอพี ผู้จัดการธนาคารจึงรองรับเขาด้วยตนเองและถอนเงินให้อย่างรวดเร็ว
หลังจากกลับมาพร้อมเงินก้อนโตสองกอง ฉีเติ่งเสียนก็เรียกหลี่อวิ๋นหว่านและหยางกวนกวนให้ขึ้นไปบนบ้านเดี่ยวห้าชั้นกับเขา
“นี่นายคิดจะทำอะไร” หยางกวนกวนขมวดคิ้วถามด้วยความประหลาดใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...