จู่ ๆ เสียงของหลัวเฮอก็ดังขึ้นจึงทำให้สวีเอ้าสะดุ้งโหยง
เธอตกใจหันไปมองและถามหลัวเฮอว่า "นี่นายหมายความว่าอย่างไร"
ใครจะไปรู้ลีคาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หลัวเฮอก็พูดขึ้นมาว่า " คุณหนูสวี พอเถอะนะ! "
สวีเอ้าจำเป็นต้องข่มตาลง หลัวเฮอและลีคาเป็นลูกน้องที่เธอไว้วางใจและเป็นคนสนิทหลังจากที่เธอมาถึงหนานหยาง ทว่าตอนนี้ทั้งสองดูเหมือนว่าทำตัวแปลกแยกออกจากเธองั้นเหรอ !
เฉินหยูเหลือบมองฉีเติ่งเสียน เห็นได้ชัดเจน ไม่ใช่ว่าจุดเปลี่ยนมาถึงแล้วหรือ
ฉีเติ่งเสียนก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง เขารู้จักลูกน้องทั้งสองคนของสวีเอ้าเสวี่ย ซึ่งพวกเขาทั้งสองภักดีต่อสวีเอ้าเสวี่ยมาก เหตุใดถึงได้ทำตัวแปลกแยกในเวลานี้กันล่ะ จะแปรพักตร์งั้นเหรอ ดูไม่สมจริงเลย!
"พวกนายหมายความว่าอย่างไร " สวีเอ้าเสวี่ยสีหน้านิ่งเฉยและถามด้วยเสียงนิ่งเรียบ
หลัวเฮอพูดตอบ "คุณหนูสวี กองกำลังทหารเหล่านั้นที่คุณหนูดึงเข้ามาเป็นพวก ใช่ว่าพวกเขาจะฟังคำสั่งของคุณหนูทั้งหมด บางทีพวกเขาอาจจะฟังผมและลีคามากกว่าคุณหนูนะครับ "
สวีเอ้าเสวี่ยวพูดตอบ " งั้นเหรอ!"
หลัวเฮอพูดกล่าว "หากว่าไม่มีคนหนุนหลังคุณหนู คุณหนูจะสร้างเนื้อสร้างตัวที่หนานหยางและมีอำนาจบารมีที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไรกันล่ะ "
ลีคากล่าว "คุณหนูสวี คุณสมควรได้ในสิ่งที่สมควรได้เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องจำกัดให้สิ้นซาก เพราะว่ามันไม่ได้ส่งผลดีอะไรกับคุณหนูเลย"
สีหน้าของสวีเอ้าเสี่ยซีดลงทันทีและกล่าว่า " ที่แท้พวกนายทั้งสองล้วนเป็นคนเนรคุณงั้นเหรอ ถ้างั้นพวกนายเป็นคนของใครกันล่ะ "
"พวกเราเป็นคนของนายหญิงจ้าวซือชิง " หลัวเฮอกล่าว
เมื่อเธอได้ยินประโยคนั้น สวีเอ้าเสวี่ยก็อดไม่ได้ที่จะยืนนิ่งด้วยความงุนงง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเหลือจะเชื่อ
ไม่ใช่มีเพียงเธอ แม้แต่ฉีเติ่งเสียนก็รู้สึกตกใจเช่นกันเมื่อได้ยินประโยคนี้ ชาวหนานหยางสองคนนี้เป็นคนของจ้าวซือชิงงั้นเหรอ พวกเขาถูกจัดแจงให้ไปอยู่ข้างตัวสวีเอ้าเสวี่ยเร็วขนาดนี้เลยหรือ
รู้หรือเปล่าว่าสองคนนี้เป็นคนที่สวีเอ้าเสวี่ยได้คัดเลือกเข้ามาเป็นพวกเธอตอนที่เธอเพิ่งมาถึงหนานหยาง เป็นบุคคลที่มีความสามารถให้เธอมาโดยตลอด แต่พวกเขากลับเป็นคนของจ้าวซือชิงซะงั้น!
มีเพียงแค่เฉินหยูที่ไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาเลย เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ว่า คิดไม่ออกเลยว่าจ้าวซือชิงจะใช้วิธีการใดมาจบเรื่องนี้
การเปลี่ยนแปลงและการพลิกผันที่เธอรอคอยทั้งหมดก็มาจากทางหนีทีไล่ของจ้าวซือชิง
"นี่เป็นไปไม่ได้" สวีเอ้าเสวี่ยส่ายหน้าไม่อยากเชื่อและรู้สึกตกใจ เธอไม่เคยพบจ้าวซือชิงมาก่อน แต่เคยได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของเธอ เธอคือเทพธิดาแห่งรุ่นของตระกูลจ้าว เป็นภรรยาของฉีปู้อวี่และเป็นมารดาของฉีเติ่งเสียน
ฉีเติ่งเสียนก็เข้าใจในทันที และไม่แปลกใจที่มารดาของตนจะรับรู้สถานการณ์ของสวีเอ้าเสวี่ยทั้งหมดตอนที่อยู่หนานหยางเลย หนึ่งคือมีฉีหยุนเฟิงคนเหลี่ยมจัด สองคือมีผู้ภักดีต่อสวีเอ้าเสวี่ยทั้งสองคน ที่คอยป็นหูเป็นตาให้กับมารดาเขา
เขาอดไม่ได้ที่จะแยกเขี้ยวยิงฟันและรู้สึกขนลุก ที่รู้ว่ามารดาของตนเป็นสุดยอดคนเจ้าเล่ห์ที่แท้จริง ถึงกับเอาชนะฉีหยุนเฟิงได้
การวางแผนระยะยาวแบบนี้ช่างชาญฉลาดมากและไม่ทิ้งร่องรอย...
ลีคากล่าวอย่างจริงใจว่า "คุณหนูสวี ถ้าหากว่าไม่มีเสียงของพวกเรา คุณหนูก็ยากที่จะระดมกองกำลังทหารเหล่านั้นได้ ความไม่สงบในหนานหยางควรจบลงได้แล้ว ประเทศนี้ก็ไม่ควรที่จะต้องประสบกับความวุ่นวายไปมากกว่านี้ เพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่นายหญิงจ้าวซือชิงต้องการ"
สวีเอ้าเสวี่ยกล่าวด้วยความโกรธว่า "ดังนั้นการเจอกันของพวกเราครั้งแรกเป็นแค่ฉากตบตาใช่ไหม "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...