เป็นเพราะเรื่องความรักและความเกลียดแค้นระหว่างฉีเติ่งเสียนเหล่านี้ แม้แต่สวีเอ้าเสวี่ยตัวเธอเองต่างก็พูดไม่ชัดเจน ตัดไม่ขาด ใจว้าวุ้น
เดิมทีเธอคิดว่าหลังจากที่เธอเองล้มเหลวจะยิ่งโกรธแค้นยิ่งขึ้น แต่ว่ากลับไม่ใช่ ตรงกันข้ามเธอได้สงบลง และเริ่มมองย้อนกลับไปประสบการณ์ของตนเองหลายปีผ่านมามานี้
อันที่จริงในใจของเธอก็ได้ยอมรับฉีเติ่งเสียนแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือบางทีอาจจะเริ่มขึ้นตอนที่เธอกำลังหมดหวัง เขาได้ปกป้องชีวิตนี้ของเธอไว้
หรือบางทีอาจจะเป็นการที่ได้ทำตามสัญญาตอนที่อยู่จิงเต่าครั้งนั้น รู้สึกผ่อนคลายที่ได้ปล่อยวางอารมรณ์เหล่านั้น
เอาเป็นว่าซับซ้อนมาก
แต่ว่าความรักเดิมทีก็เป็นสิ่งที่ซับซ้อนอยู่แล้ว มักจะไม่ได้มีคำตอบมากมายมากขนาดนั้น
ชีวิตคนเราต้องการคำตอบมากมายขนาดนั้นมีประโบยชน์อะไรกันล่ะ
ซึ่งความจริงแล้วชีวิตคนที่มีคำตอบมากมาย กลับเหมือนเฟิงกวนเซี่ยเป่ยซีดจาง มักจะให้คนรู้สึกเสียใจมากเกินไป
ทิ้งความเศร้าโศกที่แก้ไขไม่ได้ ความสับสนที่ยังคงหลงเหลืออยู่ นอนท่ามกลางสายฝนยามค่ำคืน จิบไวน์อ่อน ๆ สองสามแก้ว แต่กลับมัวเมาคามรุ่งโรจน์ในชีวิตนั้นได้
ฉีเติ่งเสียนไม่ค่อยคุ้นชินกับสภาพที่สวีเอ้าเสวี่ยเป็นอยู่ตอนนี้จึงไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร หลังจากนั้นเขาได้นึกถึงคำสอนที่ว่า “การเงียบดีกว่ามีเสียง”ของท่านอาจารย์หลี่อวิ๋นหว่านที่เคยสั่งสอนโดยไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ
ดังนั้นเขาจึงเอนกายไปด้านหน้า ก้นกลม ๆ ที่กลิ้งไปกลิ้งมาหลบอยู่ใต้ผ้าห่มที่อยู่ข้างหน้าแสดงให้ถึงการกระเด้งและเสน่ห์ที่น่าทึ่ง
สวีเอ้าเสวี่ยก้มโค้งไปข้างหลังอย่างเงียบ ๆ ทำให้ตำแหน่งที่นูนขึ้นมาเห็นได้โดดเด่นยิ่งขึ้น
สิ่งที่ท่านอาจารย์หลี่สอนไม่มีผิดจริง ๆ ด้วย เพียงแต่ถ้าหากท่านอาจารย์หลี่รู้ว่าลูกศิษย์ของตนเองนำสิ่งที่เธอสอนไปใช่กับผู้หญิงคนอื่น ที่แน่นอนมากกว่าครึ่งเธอจะรู้สึกหึงหวงและโกรธมาก
ครั้งที่สองสุกงอมอย่างเห็นได้ชัดเพราะว่าทั้งสองต่างคุ้นเคยกับร่างกายของซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี พวกเขาเข้ากันได้เป็นอย่างดีจนไม่ต้องพูดมากอะไร
ฉีเติ่งเสียนยืนยันความคิดตัวเองอีกครั้ง สวีเอ้าเสวี่ยผิวสวยและขายาวมากจริง ๆ
“พอแล้ว ฉันเหนื่อยแล้ว อยากพักผ่อนแล้ว !” ความเงียบของคืนนี้ช่างยาวนาน แต่สุดท้ายสวีเอ้าเสวี่ยก็ทำลายความเงียบนี้ลง
ทั้งสองคนคิดเหมือนกันโดยมิได้นัดหมายว่าคืนนี้ทั้งสนุกสนานและมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมาก ซึ่งถือเป็นมติมหาชนที่หายาก
เช้าวันที่สองฉีเติ่งเสียนได้ลืมตาขึ้นเห็นสวีเอ้าเสวี่ยยืนอยู่ที่ระเบียง สายลมยามเช้าพัดชุดนอนของเธอปลิวไสว ชุดกระโปรงทีเดิมทีทั้งหลวมทั้งนุ่มนวลนั้นพอดีกับรูปร่างที่โค้งเว้าและสง่างามของเธอ ทำให้ใจคนนั้นเต้นแรงตั้งแต่แรกเห็น
นอกระเบียงโรงแรมมีทะเลที่ไม่สิ้นสุด เธอจ้องมองไปที่ไกล ๆ และดูเหมือนว่าเธอพบว่ามันยากที่จะหลุดพ้นจากความสับสนที่ไม่ค่อยได้เห็น
“นี่สวีเอ้าเสวี่ยผมว่าคุณไม่ต้องเป็นสาวฮิปสเตอร์มากขนาดนั้นก็ได้ ตื่นเช้าขึ้นมาก็ยืนดูทะเลอยู่ที่ระเบียงงั้นเหรอ ดูผมมันไม่ดีเหรอครับ หน้าตาผมนี่เป็นที่หนึ่งในเรือนจำโยวตูเลยนะ” ฉีเติ่งเสียนถาม เขาได้แสดงความไร้ยางอายของตนเองอย่างเต็มที่
สวีเอ้าเสวี่ยหันหน้ามายิ้มให้ รอยยิ้มเช่นนี้ หลังจากที่อยู่จงไห่แทบจะไม่ค่อยได้ปรากฏบนใบหน้าของเธอเลย
“ล่ามของอาฉีเขาเคยบอกว่า เขาเป็นหนุ่มที่หล่อที่สุดในเรือนจำโยวตู” สวีเอ้าเสวี่ยกล่าว “ คำพูดของคุณมันดูไร้ยางอายนิดหน่อย”
ฉีเติ่งเสียนหยักไหล่กล่าวว่า เอาเถอะ ตอนนี้กำปั้นไอ้บ้าฉีหนักกว่าเขาเมื่อก่อนมาก เขาทำได้แค่อดทน ถึงตอนนี้จะพูดได้ไม่เต็มปาก แต่ว่าเขาก็ไม่ได้สนใจที่จะไปต่อสู้กับตำแหน่งหัวหน้าใหญ่ของทุกคนหรอก
ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า “คุณคิดดีแล้วหรือยังครับ” จะทำเรื่องที่หนานหยางต่อไปหรือว่ากลับไปที่เมืองหลวงงั้นเหรอ
สวีเอ้าเสวี่ยพยักหน้าเล็กน้อยแล้วตอบว่า “ตอนนี้ฉันไม่ได้คิดอะไรเลย ฉันเหนื่อยมาก อยากพักผ่อนสักหน่อย รอให้ผ่านช่วงนี้ไปได้ก่อน ค่อยว่ากันเถอะนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...