ฉีเติ่งเสียนคิดไม่ถึงว่าคำพูดที่เขาพูดไป คนในตระกูลเฉียวไม่มีใครเชื่อเลย แต่หลี่อวิ๋นหว่านกลับเชื่อแล้วไปสืบค้นหาข้อมูลเอาเอง
เขาพยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดว่า : “ในเมื่อคุณตรวจสอบแล้วก็เอาข้อมูลไปบอกเฉียวชิวเมิ่ง ให้พวกเขาถอนหุ้นออกสิ”
ตระกูลเฉียวที่อยู่ภายใต้กลโกงของจังเซ่าเจี๋ย พวกเขาทุบหม้อข้าวตัวเองไม่ต่ำกว่า 30 ล้าน เพราะแค่เฉียวชิวเมิ่งคนเดียวก็ลงทุนไปแล้ว 20 ล้าน
ตอนนี้ตำแหน่งประธานของเฉียวชิวเมิ่งก็กำลังสั่นคลอน ถ้าจังกรุ๊ปหอบเงินที่ตระกูลเฉียวร่วมลงทุนหนีไปอีก เกรงว่าเธอจะถูกประณามอย่างแน่นอน
“สิ่งที่ฉันตรวจสอบได้มันเป็นเพียงแค่เบาะแสบางอย่าง ถึงพูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อ” หลี่อวิ๋นหว่านส่ายหัว
ที่จริงแล้วเธอไม่ได้ไปตรวจสอบหาข้อมูลอะไรหรอก เธอเพียงแค่เห็นนายกหวงเดินออกมาส่งฉีเติ่งเสียน เธอก็เชื่อในคำพูดของเขาแล้ว
ฉีเติ่งเสียนก็พูด และแม้แต่หวงเหวินหลั่งก็ยังพูดเรื่องออกมาเอง
นายกหวงเป็นผู้ดูแลพื้นที่จงไห่ทั้งหมด คงไม่พูดอะไรที่มันไม่มีมูลเหตุแน่นอน……
ตอนนี้ฉีเติ่งเสียนก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากจะกลับไปพูดโน้มน้าวเฉียวกั๋วเทาด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นถ้าเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆก็คงจะสูญเสียกันไปไม่น้อยเลยทีเดียว
หลี่อวิ๋นหว่านพาฉีเติ่งเสียนเดินเข้ามาในร้านอาหารซึ่งอยู่ภายในโรงแรมที่จองไว้ก่อนหน้านี้ ที่นี่คือร้านอาหารส่วนตัวที่รับแขกเพียงสิบโต๊ะต่อวันเท่านั้น
ว่ากันว่าร้านอาหารนี้ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน
“นี่มันอะไรกันเนี่ย?”
หางตาของฉีเติ่งเสียนสังเกตเห็นคนหนึ่ง นั่นคือหลงย่าหนาน
หลงย่าหนานคือผู้ช่วยของอวี้เสี่ยวหลง ในเมื่อเธออยู่ที่นี่ก็แสดงว่าอวี้เสี่ยวหลงก็ต้องอยู่ที่นี่ด้วย
อวี้เสี่ยวหลงได้รับบาดเจ็บจากการจับกุมราชาผู้โหดร้าย ดังนั้นเธอจึงมาพักฟื้นตัวอยู่ที่จงไห่ และทุกครั้งที่เจอกันต้องมีเรื่องที่ทำให้เขาปวดหัวอยู่เสมอ
ฉีเติ่งเสียนไม่ชอบอวี้เสี่ยวหลงเพราะผู้หญิงคนนี้เป็นพวกหยิ่งจองหอง ถ้าเธอยอมมานั่งคุยเรื่องการยกเลิกการแต่งงานกับเขาดีๆ เขาก็คงเห็นด้วยและยังคงเป็นเพื่อนกับเธอได้อยู่
แต่อวี้เสี่ยวหลงกลับทำเหมือนว่าเขาไปติดหนี้ตระกูลเธอและยังวางตัวเย่อหยิ่ง จนทำให้ฉีเติ่งเสียนอยากจะจับเธอเข้าคุกและแขวนคอไว้สักสามวันสามคืน
หลังจากนั่งลงได้สักพัก หูของฉีเติ่งเสียนก็ได้ยินเสียงของอวี้เสี่ยวหลงกำลังคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่
“เอ้าเสวี่ย ทำไมจู่ๆเธอถึงมาจงไห่ได้? อยู่เมืองหลวงก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?” อวี้เสี่ยวหลงถามขึ้น
“แน่นอน ฉันตื่นเช้าขึ้นมาโดยไม่มีกําไรไม่ได้ ฉันเห็นโอกาสทางธุรกิจที่นี่นะสิ!” สวีเอ้าเสวี่ยพูดด้วยยิ้ม
ฉีเติ่งเสียนเมื่อได้ยินเสียงก็รู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้นั้นหยิ่งจองหองพอๆกับอวี้เสี่ยวหลงเลย ตัวกลิ่นเหม็นเหมือนกับผายลม
ขณะที่เขากําลังจะไม่สนใจบทสนทนาระหว่างทั้งสองคน จู่ๆเขาก็ได้ยินคําว่า “เซี่ยงกรุ๊ป” ขึ้นมา จึงทําให้เขาถึงกับขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“เซี่ยงกรุ๊ป เธอกำลังสนใจอยู่เหรอ? ฉันได้ยินมาว่าบริษัทนี้ไม่ง่ายที่จะไปต่อกรด้วยนะ เจ้าของที่ชื่อเซี่ยงตงฉิงนั้นมีจิตใจที่โหดเหี้ยมมาก……” อวี้เสี่ยวหลงลากเสียงเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
“ตอนนี้เซี่ยงกรุ๊ปถูกกดอยู่ภายใต้หู่เหมินกรุ๊ป ลักษณะของเซี่ยงตงฉิงเป็นคนค่อนข้างจะยอมหักไม่ยอมงอ ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะกลืนกินพวกมัน” สวีเอ้าเสวี่ยยิ้มอย่างมั่นใจ
“หู่เหมินกรุ๊ป? ดูเหมือนว่าบริษัทนี้จะมีทรัพย์สินไม่เทียบเท่ากับเซี่ยงกรุ๊ปเลยนะ แล้วจะไปปราบปรามกับเซี่ยงกรุ๊ปได้อย่างไร? อวี้เสี่ยวหลงพูดอย่างสงสัย
สวีเอ้าเสวี่ยพูดต่อว่า : “หู่เหมินกรุ๊ป มีองค์กรหลงเหมินคอยเป็นผู้สนับสนุนอยู่ เธอคิดว่าพวกเขาจะสามารถปราบเซี่ยงกรุ๊ปได้ไหมละ?”
อวี้เสี่ยวหลงพูดอย่างใจเย็น: “อย่างนั้นก็ไม่น่าแปลกใจเลย มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เธอจะใช้ประโยชน์จากคนอื่น”
ฉีเติ่งเสียนฟังแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างเงียบๆ เซี่ยงกรุ๊ปเป็นอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลเหล่าเซี่ยง
ชายคนนี้เป็นลูกชายของครอบครัวที่ร่ำรวยอาชีพสุจริตดีๆมีแต่ไม่ทำกลับไปค้าอาวุธสงคราม แถมยังมีความกล้าหาญท้าทายกับความยากลำบากได้ทุกอย่าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...