มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 21

สรุปบท บทที่ 21 อันตรายที่แฝงเร้น: มังกรผู้ทรงพลัง

บทที่ 21 อันตรายที่แฝงเร้น – ตอนที่ต้องอ่านของ มังกรผู้ทรงพลัง

ตอนนี้ของ มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 21 อันตรายที่แฝงเร้น จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ฉีเติ่งเสียนเมินเฉยกับคำพูดของหลี่อวิ๋นหว่าน เธอจึงทำได้เพียงแค่กลอกตามองบนด้วยความโกรธ แล้วย้ายเก้าอี้ออกไป

เป็นเพราะฉีเติ่งเสียนไปจดจ่อกับสิ่งอื่นตั้งแต่แรกแล้ว เลยไม่ได้สนใจกับการเคลื่อนไหวของหลี่อวิ๋นหว่านเลย

“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันถูกผู้ชายเมินแบบนี้!” หลี่อวิ๋นหว่านกลอกตามองบนและรีบหยิบจานบนโต๊ะเพื่อระบายความโกรธ

เมื่อบทสนทนาระหว่างอวี้เสี่ยวหลงกับสวีเอ้าเสวี่ยจบลง ก็ทำให้ฉีเติ่งเสียนได้สติกลับคืนมา

ในเมื่อสวีเอ้าเสวี่ยต้องการเป็นคู่ต่อสู้กับเซี่ยงตงฉิงและพยายามจะกลืนเซี่ยงกรุ๊ป โดยมีอวี้เสี่ยวหลงคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง ดังนั้นเขาก็จะทำให้อวี้เสี่ยวหลงผู้หญิงตัวเหม็นคนนี้ได้เรียนรู้ถึงความสูญเสียครั้งใหญ่เช่นกัน

และนี่ถือเป็นคำขอของเหล่าเซี่ยง เพราะตอนนี้เขามีสิทธิ์ที่จะตายได้ตลอดเวลา

ฉีเติ่งเสียนเมื่อมองเห็นหลี่อวิ๋นหว่านรีบกินคำใหญ่ ก็อดตกใจไม่ได้เพราะปกติเธอเป็นเหมือนผู้หญิงที่ดูเรียบร้อยมาตลอด แต่ตอนเวลาทานอาหารกลับมีท่าทางคล้ายหมาป่าที่หิวโหย?

“แค่กแค่กแค่ก……” เมื่อหลี่อวิ๋นหว่านรู้สึกว่ามีคนกำลังจ้องจับผิดอยู่ เธอจึงกระแอมออกมาก่อนจะกลืนอาหารลงไป

ฉีเติ่งเสียนพูด : “ขอโทษที เมื่อกี้ผมเหม่อลอยไปหน่อย คุณพูดว่าอะไรนะ?”

หลี่อวิ๋นหว่านไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะไม่สนใจเธอแล้วยังทำสีหน้าเคร่งขรึมใส่เธออีก เธอกัดฟันด้วยความโกรธ พร้อมชำเลืองตาแล้วแสยะยิ้ม “ไม่มีอะไร!”

ฉีเติ่งเสียนจึงหยิบตะเกียบขึ้นมาและเริ่มรับประทานอาหาร รสชาติอาหารของร้านนี้อร่อยมาก ไม่น่าแปลกใจที่ต้องจองคิวล่วงหน้ากันอย่างน้อย 1 เดือน

จริงๆแล้วหลี่อวิ๋นหว่านต้องการเชิญเขามาทานอาหารเพื่อขอบคุณเขาอย่างจริงใจ ไม่ได้คิดจะหลอกเขาเหมือนครั้งก่อนที่เจอกัน

“หลงเหมินเป็นองค์กรอะไร?” ฉีเติ่งเสียนมองไปยังหลี่อวิ๋นหว่าน พร้อมกับเอ่ยปากถาม

“หลงเหมิน? เป็นองค์กรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ นายไม่รู้จักเหรอ?” หลี่อวิ๋นหว่านตกใจ มองฉีเติ่งเสียนอย่างกับเห็นมนุษย์ต่างดาว

ฉีเติ่งเสียนส่ายหัว เขาใช้ชีวิตอยู่แค่ในเรือนจำโยวตูสถานที่เล็กๆมาโดยตลอด ความรู้และประสบการณ์ต่างๆมากมายก็ได้มาจากปากของเหล่านักโทษที่อยู่ที่นั่น

หลี่อวิ๋นหว่านกล่าวว่า : “หลงเหมิน เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกหลายร้อยล้านคนอยู่ทุกมุมโลก! ในทุกมณฑลของประเทศของเราต่างก็มีผู้นำที่อยู่ภายใต้องค์กรหลงเหมินอยู่ทุกที่ และผู้นำแต่ละที่ก็มีอำนาจและความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา”

เมื่อเธอพูดถึงตอนนี้ เธออดไม่ได้ที่จะถามว่า : “นายคงไม่ได้ไปทำให้สมาชิกของหลงเหมินโกรธเคืองหรอกใช่ไหม?!”

“ตอนนี้ไม่ใช่ แต่อนาคตก็ไม่แน่” ฉีเติ่งเสียนพูดพร้อมกับกินอาหารอย่างสบาย ๆ

หลังจากทานอาหารคำสุดท้ายเสร็จ เขาวางตะเกียบลงแล้วพูดว่า : “ผมอิ่มแล้ว กลับก่อนนะ ขอบคุณสําหรับอาหารมื้อนี้!”

พูดจบ ฉีเติ่งเสียนก็ลุกเดินออกไปทันที โดยไม่ปล่อยโอกาสให้หลี่อวิ๋นหว่านได้บอกลาเขาด้วยซ้ํา

หลี่อวิ๋นหว่านทั้งโกรธและตกใจในเวลาเดียวกัน ท่าทางของฉีเติ่งเสียนนี่คืออะไรกัน...…

ฟังจากน้ําเสียงของเขา ดูเหมือนว่าเขากําลังจะทำให้หลงเหมินขุ่นเคือง?!

“การจับผิดครั้งนี้เหมือนจะไม่ง่ายเลย!” หลี่อวิ๋นหว่านพูด

ฉีเติ่งเสียนเพิ่งออกไปได้ไม่นาน เฉียวกั๋วเทาก็เรียกเขาให้กลับไปที่บ้าน

เฉียวกั๋วเทาเอาหนังสือโอนหุ้นมูลค่า 3 ล้านยื่นให้กับมือของฉีเติ่งเสียน แล้วพูดว่า : “เงินนี้เป็นเงินที่ลุงซื้อหุ้นจังกรุ๊ปให้นาย ในอนาคตถ้าจังกรุ๊ปจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหุ้น นายก็จะได้เงินปันผลในทุกๆปี”

เมื่อเห็นว่าเจตจํานงของเฉียวกั๋วเทานั้นแน่วแน่ พั่งซิ่วอวิ๋นจึงทำได้เพียงกัดฟันอย่างอดกลั้น แต่สายตาเธอก็ยังจ้องไปที่ฉีเติ่งเสียน เห็นได้ชัดว่าเธอไม่พอใจเขามากที่ทำให้เฉียวชิวเมิ่งต้องมาเสียเวลากับคนอย่างเขา

ฉีเติ่งเสียนต้องการคุยกับเฉียวกั๋วเทาเกี่ยวกับสถานการณ์ของจังกรุ๊ป แต่หลังจากเห็นทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อจังเซ่าเจี๋ย เขารู้สึกว่าเป็นการดีกว่าที่จะไม่พูดมันออกไป

เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน เฉียวชิวเมิ่งก็แบกร่างกายที่เหนื่อยล้าของเธอกลับมาบ้าน

“พ่อแม่ ตอนนี้ทางธนาคารจงไห่ยังไม่ตอบตกลงเลยค่ะ” เฉียวชิวเมิ่งพูดพร้อมกับถอนหายใจ

“เกิดอะไรขึ้น? พวกเขาไปเจรจากับสมาคมมังกรดำมาแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมพวกเขาถึงไม่ให้เงินกู้ละ?” พั่งซิ่วอวิ๋นพูดอย่างโกรธเคือง

เฉียวชิวเมิ่งเม้มริมฝีปากและส่ายหัวเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างยากที่จะพูดมันออกมา

ฉีเติ่งเสียนเห็นอย่างนั้นก็เข้าใจทันทีเลยว่า ทางธนาคารคงจะหาเรื่องให้เธอรู้สึกลำบากใจ เหมือนกับที่อวี๋ไคเหอเรียกร้องในสิ่งที่ไม่สมควรจะเรียกร้อง!

“เดี๋ยวผมจัดการเอง ผมรู้จักผู้อำนวยการซุนของธนาคารจงไห่ ผมไปคุยกับเขา เขาคงไม่ปฏิเสธแน่นอน” ฉีเติ่งเสียนพูด

“หึ ปากดีจริงๆ โม้ได้ขนาดนี้คงทุ่มแรงไปไม่น้อยใช่ไหมล่ะ? มิน่าละช่วงนี้แกถึงดูว่างงานและไม่ยอมรับข้อเสนอที่เหล่าเฉียวยื่นให้แกเข้าทำงานในเฉียวกรุ๊ป แค่กล้าไปคุยกับผู้อำนวยการธนาคารจงไห่เป็นการส่วนตัว ก็เลยเอามาคุยโวใช่ไหมล่ะ?” พั่งซิ่วอวิ๋นพูดประชด

เฉียวกั๋วเทากระแอมออกมาพร้อมกับตบไหล่ฉีเติ่งเสียนและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ลูกผู้ชายควรต้องพูดความจริงนะ!”

แน่นอนว่าเขาก็ไม่เชื่อ ฉีเติ่งเสียนที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลเฉียวและไปเป็นเพียงผู้คุมเรือนจำในพื้นที่เล็กๆมานาน จะไปรู้จักมักคุ้นกับคนอื่นได้อย่างไร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง