หยางกวนกวนรู้สึกว่าเธออยู่ใกล้ฉีเติ่งเสียนมากเกินไป แต่ก็ไม่สามารถทําอะไรได้ เพราะแผงขายหนังสือพิมพ์นั้นไม่ได้ใหญ่มาก ด้วยแรงลมพายุฝนแบบนี้ถ้าขยับออกไปก็คงเปียกมากกว่านี้
เธอพยายามรักษาระยะห่างเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสทางกายกับฉีเติ่งเสียนให้มากที่สุด
“ฝนตกหนักมากเลย ไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่ ฉันนี่เป็นคนโชคร้ายตลอด!” หยางกวนกวนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและพูดออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า.….” ฉีเติ่งเสียนทำได้เพียงแค่ยิ้มจางๆ และรู้สึกว่าการติดอยู่ที่นี่แต่มันไม่ใช่เรื่องแย่อะไร
จู่ๆหยางกวนกวนอันก็รู้สึกเศร้าและพูดขึ้นว่า : “ไม่คิดว่าชีวิตมันต้องมาลำบากอะไรแบบนี้ แม้แต่พระเจ้าก็จะรังแกฉัน!”
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็นว่า: “อย่าเศร้าไปตามฤดูกาลที่เปลี่ยนไปเลย ชีวิตเป็นของเรา ทุกอย่างอยู่ที่เราจะเขียนให้ตัวเองเป็นแบบไหน”
หยางกวนกวนเม้มริมฝีปากและพูดว่า: “คุณไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่อยู่ใต้ล่างหรอก ไม่ว่าจะเงยหรือก้มหน้าก็จะถูกรังแกและดูถูกเหยียดอยู่เสมอ”
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างสบายๆว่า: “ฉันก็ไม่เข้าใจอะไรมาก เพราะคนส่วนใหญ่มองมาที่ฉันเพื่อมีชีวิตที่ดีขึ้น”
หยางกวนกวนอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฉีเติ่งเสียนและพูดว่า: “คุณพูดถูก ฉันพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่น่าเสียดายระยะความแตกต่างนั้นมากเกินไป!”
เธอกอดตัวเองด้วยแขนของเธอ พายุลมแรงทําให้ร่างที่เปียกของเธอหนาวสั่น
ฉีเติ่งเสียนจึงถอดเสื้อคลุมและวางไปที่ไหล่ของหยางกวนกวน
หยางกวนกวนถูกคลุมด้วยเสื้อคลุมของฉีเติ่งเสียน และด้วยอุณหภูมิจากร่างกายของเขาที่ยังคงอยู่ภายในเสื้อมันทําให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในหัวใจ
“ฉันถูกคนในตระกูลหยางรังแกมาตลอดตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะหยางเฟยเฟย ฉันถูกเธอทุบตีไม่รู้กี่ครั้งแล้ว”
“แม้ทุกครั้งที่ฉันต้องแสร้งเยินยอเธอเพื่อไม่ให้ถูกทุบตี.…..”
“ฉันถูกทำร้ายตอนที่อยู่ข้างนอก ก็มีคนเห็นแต่พวกเขากลับไม่เข้ามาห้ามปรามเธอเลย”
“เพราะรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังหยางเฟยเฟยคือใคร พวกเขาก็เดินจากไปราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลย”
“ยิ่งไปกว่านั้น ฉันมักจะถูกรังแกรุนแรงมากกว่าที่พวกเขาเห็นกันอีก”
หยางกวนกวนมองออกไปนอกหน้าต่างที่ฝนตกหนัก ม่านฝนทําให้เมืองทั่วทั้งเมืองมืดไปหมด
สภาพแวดล้อมที่เดียวดายเช่นนี้ ทําให้เธอรู้สึกเปิดใจและกล้าเล่าประสบการณ์ความคับข้องใจที่เก็บมาตลอดหลายปีให้ฉีเติ่งเสียนฟัง
“แม่ทนไม่ได้กับความอัปยศอดสูแบบนี้ และในที่สุดแม่ก็ทิ้งฉันไว้ที่ตระกูลหยางตามลําพังจนถึงตอนนี้”หยางกวนกวนถอนหายใจ
“ชีวิตฉันในตระกูลหยางแย่ยิ่งกว่า มันแย่จนฉันทนไม่ไหวเลยต้องมาเรียนที่จงไห่ ……”
“และเพื่อที่จะหนีให้พ้นจากตระกูลหยาง ฉันจึงต้องไปเรียนหนังสือที่สหรัฐอเมริกา”
“ภายนอกที่ฉันดูแข็งแกร่งและก้าวร้าวมันเป็นแค่ผิวภายนอก เพราะจริงๆ แล้วฉันนั้นขี้ขลาดมาก…...”
“ที่ทำแบบนี้ก็เพียงเพราะต้องการซ่อนจุดอ่อนของตัวเองเอาไว้”
หยางกวนกวนพูดมาถึงตอนนี้ น้ําตาก็เริ่มไหลริน สภาพความเป็นอยู่ที่น่าสังเวชตลอดเวลา 20 ปีเหล่านี้ทําให้เธอรู้สึกน่าสังเวชและทรมานหัวใจของเธอมาก
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าและพูดว่า: “ในตอนที่เธอกลับมาที่จีนครั้งแรก เธอดูเหมือนสาวงามที่เย็นชาและหยิ่งผยอง แต่จริงๆ แล้วเธอกลับเป็นคนขี้ขลาดไม่ใช่น้อย!”
เมื่อหยางกวนกวนอันได้อย่างนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะโกรธและพูดว่า : “คุณพูดอะไรที่ที่คนทั่วไปพูดกันได้ไหม? ประชดประชันเก่งเหลือเกิน? แย่มาก!”
ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดว่า: “อันที่จริงแล้วมันก็แค่นั่นแหละ เธอกล้าตอบโต้ฉันหนักๆได้ตลอด แต่กับคนในตระกูลหยางล่ะ? กลับยอมเชื่อฟังทุกอย่างเป็นเหมือนกับทาส!”
น้ําตาของหยางกวนกวนก็ไหลรินลงมา
ฉีเติ่งเสียนเห็นว่าเลขาหยางโกรธจนร้องไห้ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “ฉันล้อเล่น อย่าคิดจริงจังสิ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...