มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 237

สรุปบท บทที่237 เปิดห้อง: มังกรผู้ทรงพลัง

ตอน บทที่237 เปิดห้อง จาก มังกรผู้ทรงพลัง – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่237 เปิดห้อง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง มังกรผู้ทรงพลัง ที่เขียนโดย จาง หลงหู เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ฝนตกแรงกระหน่ำ

ฝนตกแรงจนทำให้ร้านขายหนังสือพิมพ์และทั้งสองที่ยืนหลบฝนในร้านขายหนังสือพิมพ์แยกออกจากโลกนี้โดยสิ้นเชิง

ในขณะที่หยางกวนกวนถูกฉีเติ่งเสียนกอดเพื่อหลบฝน นอกจากความเขินอายแล้ว ยังรู้สึกถึงความปลอดภัยที่ไม่เคยมีมาก่อน

แต่ทว่า ปืนที่จ่อบนตัวนั้นทำให้รู้สึกอึดอัดมาก ทําให้เธอหวาดกลัว เกิดความคิดที่อยากจะหลุดจากอ้อมกอดและวิ่งเข้าไปในสายฝน

"ฝนตกหนักมากเลย"

หยางกวนกวนได้แต่หันหน้ามองฝนที่ตกหนักข้างนอก พูดประโยคนี้ซ้ำๆเพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัดใจ

"ใช่ ตกหนักเกินไป อีกสักพักก็คงดีขึ้น"

ฉีเติ่งเสียนพูดเสียงเรียบ

หยางกวนกวนได้ยินคำพูดนี้ แทบจะเป็นลม ไอ้ชาติหมา คนลามก คิดจะเอาเปรียบฉันใช่ไหม?!

เธอรู้สึกว่าลมหายใจของฉีเติ่งเสียนที่อยู่ข้างหูของเธอยิ่งอยู่ยิ่งร้อน ทําให้ร่างกายของเธอร้อนวูบวาบ น้ําฝนทําให้ผิวของเธอชุ่มชื้น แต่เธอกลับรู้สึกว่าตอนนี้มีน้ำเริ่มแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของเธอ จากภายในสู่ภายนอก

ในที่สุดฝนก็เบาลง แต่หยางกวนกวนยังคงยืนเหม่อข้างๆฉีเติ่งเสียน และปล่อยให้เขากอด

พอแดดออก เธอเพิ่งได้สติขึ้นมา รีบถอยไปข้างหลังและพูดว่า "ฝนหยุดแล้ว!"

แสงแดดส่องผ่านเมฆที่หนา ในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นของไอน้ํา

"ไปกันเถอะ!" ฉีเติ่งเสียนยิ้มอย่างพอใจ แล้วเดินออกจากร้านขายหนังสือพิมพ์

หยางกวนกวนเดินตามหลังเขา เมื่อเดินออกไปไม่กี่เมตร ก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมอง ในใจของเธอยังเกิดความอาลัยอาวรณ์ที่จะจากไปอย่างบอกไม่ถูก

"นี่ฉันถูกวางยาพิษใช่ไหมเนี่ย?" หยางกวนกวนถอนหายใจ และตบแก้มที่แดงมากของตัวเองเบาๆสองที

ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "ร่างกายเปียกเกินไป เปิดห้องแล้วไปอาบน้ําอบแห้งหน่อยเถอะ"

หยางกวนกวนตกใจจึงพูดว่า "ห้ะ? เปิดห้อง?!"

ยังไม่รอให้เธอได้สติ ฉีเติ่งเสียนก็ดึงมือเธอเข้าไปในโรงแรมที่ใกล้ที่สุด จากนั้นก็เปิดห้อง

ในหัวของหยางกวนกวนเต็มไปด้วยความคิดที่บ้าๆ และถูกเขาพาเข้าไปในห้องพักของโรงแรม

แต่โชคดีที่ฉีเติ่งเสียนก็ไม่ใช่คนเลวถึงขั้นนั้นจริงๆ เพียงแค่เปิดห้องเพื่อมาอาบน้ําจริงๆ

หยางกวนกวนรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย หลังจากอาบน้ําเสร็จก็สวมเสื้อคลุมอาบน้ําอย่างมิดชิด กันฉีเติ่งเสียนเหมือนกันหมา

โชคดีที่ฉีเติ่งเสียนก็ไม่ได้ทําอะไรนอกกรอบ ไม่ออกนอกลู่นอกทาง แต่สายตานั้นเลิกไม่ได้หรอก แค่ดูเฉยๆก็ไม่เป็นไร

"ดื่มกาแฟร้อนสักแก้วอุ่นร่างกายหน่อยเถอะ อย่าเป็นหวัดล่ะ" ฉีเติ่งเสียนอุ่นกาแฟมาสองแก้ว ยื่นอีกแก้วหนึ่งให้หยางกวนกวน

หยางกวนกวนระมัดระวังมาก มือหนึ่งจับคอเสื้อคลุมอาบน้ําของตัวเอง ปกปิดส่วนที่น่าภาคภูมิใจที่สุดของเธออย่างแน่นหนา อีกมือหนึ่งยกกาแฟขึ้นมาจิบ

ฉีเติ่งเสียนเห็นเข้าก็หงุดหงิดเล็กน้อย จับแน่นขนาดนี้ทําไม ความไว้วางใจของคนเราไม่มีเลยเหรอ?

จากนั้นก็ยกมือดีดเข้าหน้าผากของเธอ แล้วพูดว่า "ลืมไปแล้วว่าวันนั้นถูกหลอกได้ยังไง? แค่นี้ก็ไม่ระวัง?"

หยางกวนกวนสะดุ้ง พูดอย่างตกใจว่า "นั่นเป็นเพราะฉันเชื่อใจนายนะ!"

"ก่อนหน้านี้คุณก็เชื่อใจซุนเสวี่ยเหวินมากเลยไม่ใช่เหรอ?" ฉีเติ่งเสียนหัวเราะเยาะ

"เอ่อ" หยางกวนกวนเจอประโยคนี้เข้าไปพูดไม่ออกเลย "แล้วฉันควรทํายังไงดีล่ะ"

ฉีเติ่งเสียนพูดว่า "ในเวลานี้คุณสามารถถามผมได้ว่าในกาแฟแก้วนี้ใส่น้ําตาลหรือยังทหรือใส่นมหรือเปล่า แล้วหาข้ออ้างเพื่อเปลี่ยนแก้วกับผม"

"ขอบคุณครับ" ฉีเติ่งเสียนเปิดประตูรับและขอบคุณอย่างสุภาพ จากนั้นให้หยางกวนกวนเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปสถานที่ถัดไป

หลังจากสวมเสื้อผ้าที่แห้งแล้ว หยางกวนกวนรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาเยอะ อย่างน้อยก็ยังไม่อึดอัดเท่าสวมเสื้อคลุมอาบน้ําต่อหน้าผู้ชายคนนี้

สายตาของฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะมองมาที่หน้าอกของเธอและพูดว่า "กระดุมของคุณจะไม่พังอีกใช่ไหม?"

เขารู้สึกว่าเสื้อผ้าของหยางกวนกวนหดตัวลงเล็กน้อยหลังจากซัก กระดุมนั้นดูเหมือนจะเด้งออก กลัวว่าจะเป็นเหมือนเดิม

หยางกวนกวนหัวเราะและไม่ได้ตอบอะไรเขาเลย

ทั้งสองคนเดินออกมาจากห้องพัก และลงไปที่ห้องโถงเพื่อเช็คเอาท์

"เหอะ นี่มันผู้คุมเรือนจำเติ่งเสียนไม่ใช่หรือ? วันนี้อะไรไหนเนี่ย พาเลขาสาวมาเปิดห้องเลยเหรอ?" เสียงเย็นชาดังมาจากข้างๆ สวีเอ้าเสวี่ยที่แต่งตัวหรูหราเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

"เกี่ยวอะไรกับคุณ?" ฉีเติ่งเสียนหันไปถามด้วยรอยยิ้มปลอมๆ

"แน่นอนว่าไม่ใช่เกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันแค่ดีใจที่เสี่ยวหลงเตะนายออก ขยะอย่างนาย ถ้าปะปนอยู่ในแวดวงของเรา ถือว่าเป็นความอัปยศจริงๆ" สวีเอ้าเสวี่ยหัวเราะเยาะ

เมื่อเผชิญหน้ากับสวีเอ้าเสวี่ย หยางกวนกวนไม่กล้าพูดอะไรเลย ตระกูลสวีเป็นตระกูลใหญ่ที่มีภูมิหลังมากกว่าตระกูลหยางแห่งโมตูอีก!

ในเวลานี้อวี้เสี่ยวหลงก็เดินออกมา หลังจากเห็นฉีเติ่งเสียน เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและเห็นหยางกวนกวนที่ยืนข้างๆฉีเติ่งเสียน ก็ยิ่งทำสีหน้าดูถูกและรังเกียจ

อวี้เสี่ยวหลงส่ายหัวให้ฉีเติ่งเสียนและพูดว่า "แม้ว่าระหว่างเราจะไม่มีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่ฉันก็ยังอยากเตือนนายนะ"

"แม้แต่เฉียวชิวเมิ่งก็ดูถูกนาย จะหย่ากับนาย ก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลหรอกนะ"

"คนอย่างนาย แม้แต่เพื่อนของเธอก็ยังจะเอา สกปรกซะจนเห็นแล้วรู้สึกรําคาญจริงๆ!"

หยางกวนกวนน้อยใจจนหน้าแดงไปหมด แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่มีอิทธิพลอย่างสวีเอ้าเสวี่ยและอวี้เสี่ยวหลงสองคนนี้ เธอไม่สามารถพูดแก้ตัวได้เลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง