สรุปตอน บทที่ 271 เทพเจ้าหรือปีศาจกลัวคนที่โหดร้าย – จากเรื่อง มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู
ตอน บทที่ 271 เทพเจ้าหรือปีศาจกลัวคนที่โหดร้าย ของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองเรื่องดัง มังกรผู้ทรงพลัง โดยนักเขียน จาง หลงหู เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อสวี่เชาพูดจบฉีเติ่งเสียนก็หยุดทำให้เขาอับอายและขอให้คนของเขาลากเขาออกไป
พื้นที่ดินแดนแห่งความตาย นี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้วิศวกรรมโยธา หิน ดินทราย และอื่นๆ มาก นอกจากนี้เฉียวกรุ๊ปและมู่จือกรุ๊ปยังใช้วัสดุจากบริษัทวัสดุก่อสร้างของหม่าหงจุนอีกด้วย
หากสวี่อานต้องการกำจัดหม่าหวงจุนรองผู้ถือหางเสือเรือ เป็นเรื่องปกติที่เขาจะต้องโจมตีธุรกิจของเขาก่อน
ดังที่เราทุกคนทราบกันดีว่าเทียนไล่แคปปิตอลเป็นผู้กุมอำนาจงานก่อสร้างใน ดินแดนแห่งความตาย เมื่อได้รับการดูแลจัดสรรในส่วนที่ใหญ่ที่สุดอย่างเทียนไล่แคปปิตอลแล้ว มันก็จะเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าครอบครองกุ้งตัวเล็กสองตัวอย่างเฉียวกรุ๊ปและมู่จือกรุ๊ป
“ดูเหมือนว่าการต่อสู้ระหว่างผู้ถือหางเสือเรือและรองผู้ถือหางเสือเรือของตงไห่ หลงเหมินจะถึงจุดเดือดแล้ว ก่อนหน้านี้พวกเขามุ่งเป้าไปที่น้องสะใภ้ของเย่เฟิงเท่านั้น” ฉีเติ่งเสียนคิดกับตัวเอง
ฉีเติ่งเสียนไม่สนใจว่าพวกเขาต่อสู้กันอย่างไร แต่หากธุรกิจของเขาล่าช้า เขาคงไม่อยู่เฉยแน่
“ฉันจะไปที่ออนเซ็นซากุระสักพัก ฉันหวังว่าคนงี่เง่านั้นจะฉลาดขึ้นมาบ้าง” ฉีเติ่งเสียนยิ้มเยาะ
หลังจากที่ผู้ก่อปัญหาทั้งหมดจากไปแล้ว ฉีเติ่งเสียนโบกมือให้ทุกคนเริ่มทำงานอย่างปกติได้ และสัญญาว่าจะจ่ายเงินปลอบขวัญให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ได้รับบาดเจ็บในวันนี้ด้วย
เรื่องตลกจบลงแล้ว
ฉีเติ่งเสียนยิ้มให้หยางกวนกวนและพูดว่า “เธอเห็นแล้วยัง? ไม่ว่าจะหลงเหมินหรือตระกูลหยางในเมืองโมตู”
“ตราบใดที่เธอแข็งแกร่งพอ ทุกคนก็จะกลัวเธอเอง!”
“เทพเจ้าหรือปีศาจกลัวคนที่โหดร้ายทั้งนั้น หากเธอโหดร้ายเหมือนฉัน หยางเฟยเฟยคงจะไม่กล้ารังแกเธอแบบนี้?”
หยางกวนกวนตกตะลึง แต่การกระทำของฉีเติ่งเสียนนั้นรุนแรงและดุร้ายเกินไปสักหน่อย การโจมตีที่เขาเพิ่งทำ มันทำให้เธอรู้สึกด้านชาไปแล้ว
สมาชิกหลงเหมินหวาดกลัวเขาที่มีมาเพียงคนเดียว หากพวกเขาปล่อยให้เหล็กเส้นแทงพวกเขาตรงๆ มันไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาทุกคนจะหวาดกลัว
แน่นอนว่าความดุร้ายของฉีเติ่งเสียนได้รับการปลูกฝังและฝึกฝนในเรือนจำโยวตู ไม่มีคนร้ายยิ่งใหญ่ที่ไหนที่อยู่ที่นั่นฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา ถ้าเขาไม่ดุร้ายกว่า เขาคงจะถูกประกาศเลิกไปนานแล้ว?
“คุณฉี ร่างกายฉันเจ็บมาก ขอลากลับบ้านเพื่อพักผ่อนสักครึ่งวันได้ไหมคะ.....” หยางกวนกวนพูดอย่างขมขื่น
เธอพูดเสียงอ่อนเพราะกลัวว่าเจ้านายเจ้าเล่ห์นี่จะบังคับเธอให้กลับไปที่บริษัทและทนต่ออาการบาดเจ็บต่อไป
ฉีเติ่งเสียนยิ้มและพูดว่า “เอาล่ะ สถานการณ์วันนี้ถือเป็นการบาดเจ็บจากการทำงาน ฉันจะส่งเธอกลับไปพักผ่อน”
เขาได้ตรวจสอบอาการบาดเจ็บบนร่างกายของหยางกวนกวนแล้ว มันเป็นรอยขีดข่วนทั่วไป ส่วนหลังส่วนล่างที่โดนถีบที่ดูท่าจะมีอาการหนักสุด โชคดีที่ไม่มีกระดูกใดได้รับบาดเจ็บ และสามารถรักษาให้หายได้โดยการใช้ยารักษาได้
“เฮ้ อย่ากลัวฉันเลย ฉันจะปฏิบัติต่อศัตรูอย่างโหดร้ายเหมือนกับฤดูหนาวที่หนาวเย็น แต่ฉันปฏิบัติต่อครอบครัวของฉันเองอย่างอ่อนโยนราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลินะ” ฉีเติ่งเสียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ ใช่ ใช่!” หยางกวนกวน เห็นด้วยอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อนึกถึงฉากที่ทุกคนกำลังเก็บกวาด เธอรู้สึกตัวสั่นภาพนั้นมันน่ากลัวเกินไป
ฉีเติ่งเสียนขับรถไปส่งหยางกวนกวนตที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ จากนั้นจึงรับหน้าที่รับผิดชอบในการช่วยเธอดูแลกับอาการบาดเจ็บ
หยางกวนกวนเหนื่อยล้าเกินไปที่จะต่อต้านเขา แต่ฉีเติ่งเสียนก็ไม่ใช่คนใจร้อนขนาดนั้น เขาเช็ดแอลกอฮอล์กับยาทาลงไปเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด ความเจ็บปวดมากจนหยางกวนกวนรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย
“ถอดเสื้อของเธอออก” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็น
“หือ?!” หยางกวนกวนสะดุ้งและไม่เคลื่อนไหว
“หือ อะไร เธอทายามันที่หลังเองได้ไหม?” ฉีเติ่งเสียนถามอย่างไม่เหลืออด “ถ้าเธอไม่ถอดมันออก ฉันจะช่วยเธอเอง!”
หยางกวนกวนหยิบชายเสื้อขึ้นมาแล้วพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องถอดออกก็ได้... แค่ยกชายเสื้อขึ้น ก็ไม่เป็นไรแล้วมั้ง?”
เมื่อเธอพูด ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความระมัดระวัง แต่ดวงตาของเธอมองไปที่ฉีเติ่งเสียนเหมือนกำลังระแวงหมาป่าเสียมากกว่า
“........” หยางกวนกวนหวังว่าเธอจะพบรอยแตกบนพื้นแล้วคลานมุดลงไปจริง ๆ แล้วเขาพูดถึงแบบนั้นทำไม?
หยางกวนกวนถามอย่างลังเล: “วันนี้พวกเขาถูกคุณจัดการอย่างนั้นแล้ว พวกเขาจะหาวิธีตอบโต้คืนไหม?”
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างสบายๆ: “ฉันจะไปที่ออนเซ็นซากุระทีหลัง จะหาตัวแขกรับเชิญที่ชื่อลู่ตงไห่ มันจะง่ายกว่านี้ถ้าเขาบอกรูปพรรณสัณฐานได้.....”
หยางกวนกวนรู้ว่าฉีเติ่งเสียนอาจจะก่อให้เกิดพายุนองเลือดอีกครั้ง
“เลขาหยาง เธอทำท่าสควอชได้หนักสุดกี่กิโลกรัม?” ฉีเติ่งเสียนมองดูหยางกวนกวน ที่นอนอยู่บนโซฟาจึงเอ่ยถามขึ้นมา
“หนักประมาณสามสิบกิโลกรัม... มีอะไรเหรอ?” หยางกวนกวน ถามอย่างสงสัย เพราะเธอมีนิสัยชอบออกกำลังกายเป็นทุนเดิม
“ฉันไปก่อนนะ” ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าอย่างครุ่นคิด เหลือบมองเธออีกครั้ง จากนั้นหันหลังและเดินจากไป
หยางกวนกวนตกตะลึง ผู้ชายคนนี้บ้าหรือเปล่า? แต่เมื่อกลับมามีสติได้ในวินาทีนั้น เธอก็คำรามด้วยความอับอายและความโกรธ: “ไอ้เฒ่าหัวงู ฉันจะทุบตีคุณให้ตายไม่ช้าก็เร็วแน่!”
เธอเข้าใจผ่านทีวีที่ปิดสะท้อนให้เห็นว่าเป็นเพราะอะไรฉีเติ่งเสียนถึงถามคำถามแบบนั้น เพราะแม้ว่าเธอจะนอนคว่ำหน้า แต่บั้นท้ายของเธอก็ยังโก่งโค้งงอจนน่าทึ่ง
สำหรับคนที่ไม่ออกกำลังกาย บั้นท้ายจะนุ่มหลังจะแบนราบ แต่หยางกวงกวนบั้นท้ายนั้นตั้งตรงราวกับภูเขา
เฉพาะผู้ที่สควอชบ่อยๆ ไม่เพียงจะทำให้กล้ามเนื้อ gluteus maximus* แข็งแรงมากเท่านั้น แต่ยังสามารถเผยให้เห็นส่วนเว้า ส่วนโค้งที่น่าประทับใจได้เมื่อนอนคว่ำ
หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนออกมาจากบ้านของหยางกวนกวนเขาก็ตรงไปที่ ออนเซ็นซากุระ เมื่อเขามาถึงเขาก็ชนเข้ากับหวงฉีปินที่กำลังเดินออกจากร้านด้วยใบหน้าที่เหนื่อยล้า
*กล้ามเนื้อ gluteus maximus เป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่สุดในร่างกาย มีจุดเกาะที่กระดูกปีกสะโพกหรือกระดูกไอเลียม (Ilium) และกระดูกใต้กระเบนเหน็บหรือกระดูกซาคัม (sacrum) ซึ่งทั้งสองนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกระดูกเชิงกราน แล้วไปเกาะยังกระดูกต้นขา ทำหน้าที่เหยียดสะโพก กางต้นขา และหมุนต้นขาออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...