ตอน บทที่ 309 ผู้ชายคนนั้น จาก มังกรผู้ทรงพลัง – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 309 ผู้ชายคนนั้น คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง มังกรผู้ทรงพลัง ที่เขียนโดย จาง หลงหู เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
สี่ร้อยล้านถูกโอนไปยังบัญชีของเฉียวกั๋วเทาอย่างง่ายดายเช่นนี้ ต้องรู้ว่าที่เฉียวกรุ๊ปประกอบกิจการมาตลอดหลายปีนี้ ตอนนี้สินทรัพย์หมุนเวียนมีเพียงแค่เจ็ดถึงแปดร้อยล้านเท่านั้น
ฉีเติ่งเสียนจัดการคนคนหนึ่งตามอำเภอใจ ทั้งยังตบบ้องหูอีกฝ่ายไปหลายครั้งจนทำให้อีกฝ่ายยอมมอบเงินสี่ร้อยล้านให้อย่างเชื่อฟัง
“นี่มันปลอมมาก...” เฉียวกั๋วเทาแอบยิ้มเจื่อนๆ อย่างอดไม่ได้ ภายในใจเกิดความคิดสับสนปนเป ทำให้เขารู้สึกยุ่งเหยิงภายในหัว
หยางหลิงกวงกระแอมเบาๆ หนึ่งทีและเอ่ยกับฉีเติ่งเสียนว่า “ประธานฉี ในเมื่อประธานหลงชดใช้แล้วสี่ร้อยล้าน เรื่องนี้ก็เป็นอันตามนี้แล้วใช่ไหม”
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าอย่างเย็นชาและเอ่ยเรียบๆ ว่า “หวังว่าคราวหน้าประธานหลงจะมองอะไรๆ ให้ดีกว่านี้ อย่ามาปะทะกับผมหรือคนของผมอีก ไม่อย่างนั้นมันจะไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ไขได้ด้วยเงินอีก”
หลงจงฉวนที่ตกใจขวัญหนีดีฝ่อเพราะวิธีที่เด็ดขาดของฉีเติ่งเสียนพยักหน้าอย่างหวาดกลัว กล่าวว่า “ครับๆๆ ประธานฉีไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ทำพลาดแบบนี้อีกแล้ว”
“ไสหัวไป!” ฉีเติ่งเสียนปรายตามองและเอ่ยเรียบๆ
หลงจงฉวนไม่พูดพร่ำทำเพลงและพาคนของตัวเองจากไปอย่างหมดสภาพ
หยางหลิงกวงยิ้มและโค้งให้น้อยๆ จากนั้นจึงพาคนของเขากลับไป
“ทำไม ยังดูกันไม่พอ? จะให้ฉันทำให้เห็นอีกรอบงั้นหรือ” ฉีเติ่งเสียนกวาดตามองทุกคนที่เฝ้าดูและถามเสียงเรียบ
“ฮือ!"
พอได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็ตกใจและกระจัดกระจายกันไปเหมือนนกที่แตกฮือ
คนโหดๆ อย่างฉีเติ่งเสียนน่ะ พวกเขาไม่คิดจะไปแหย็มด้วยหรอก แม้แต่หลงจงฉวนก็ยังโดนเขาจัดการเหมือนหมูเหมือนหมา
“ปลัดหยาง วันนี้คุณเองก็ได้เรื่องเลย!” หลงจงฉวนรอหยางหลิงกวงอยู่ที่ประตูโรงพยาบาล สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่พอใจเล็กน้อย
“ประธานหลง อันที่จริงเรื่องนี้ก็ตำหนิผมไม่ได้ ต้องโทษคุณเองต่างหากที่ไปหาเรื่องคนที่ไม่ควรหาเรื่อง” หยางหลิงกวงเอ่ยเสียงขรึม
หลงจงฉวนขมวดคิ้ว “เขามีอะไรดีงั้นเรอะ?!"
มุมปากของหยางหลิงกวงโค้งขึ้น จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ลูกชายนายใหญ่ตระกูลฉีแห่งเมืองหลวง ผู้อาวุโสแห่งกรมการสงครามฟู่เฟิงหยุนต้องขยันไปมาหาสู่ คุณอยากจะลองดูไหมล่ะ”
“นายใหญ่ตระกูลฉีแห่งเมืองหลวง? เขายังไม่ตายหรือ ตอนนั้นเขาคลั่งขนาดหนัก...” พอได้ยินแบบนั้น หลงจงฉวนก็รู้สึกสยองและขนลุกขนพองขึ้นมาทันที
แววตาของหยางหลิงกวงเปลี่ยนเป็นอึมครึมขึ้นอย่างอดไม่อยู่ เขายิ้มและเอ่ยว่า “ใช่นะสิ ถ้าคุณจะไปหาเรื่องลูกชายเขาอีก อย่าได้คิดว่าจะเอาผมไปด้วยอีกเลย”
หลงจงฉวนไม่กล้าพูดอะไรอีก
เมื่อสิบกว่าปีก่อนที่เมืองหลวง ในคืนนั้นเลือดไหลรินเป็นสาย
จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นสิ่งต้องห้ามที่เหล่าตระกูลใหญ่ไม่อยากจะพูดถึง
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะชายที่ชื่อฉีปู้อวี่แห่งตระกูลฉีผู้นั้น
“ในเมื่อเป็นลูกชายของไอ้บ้าฉี งั้นฉันก็จะ... เฮอะๆๆ ยอมแพ้ก็ได้!” หลงจงฉวนกระตุกมุมปากและพูดออกไปแบบนั้น
เขาเพิ่งยอมรับว่ากลัว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่คิดจะแก้แค้น ทว่าเมื่อได้ฟังหยางหลิงกวงพูดถึงภูมิหลังของฉีเติ่งเสียนมากขึ้น เขาก็ทำหมันความคิดที่ค่อนข้างรนหาที่ตายนี้อย่างสมบูรณ์
ถ้าเขากระตุ้นความบ้าคลั่งของฉีปู้อวี่คนบ้าแห่งเมืองหลวงอย่างเมื่อหลายสิบปีก่อนอีก ทั่วทั้งสวรรค์และปฐพีคงไม่มีใครช่วยเขาได้แล้ว
ในตอนนั้นพวกที่ฉีปู้อวี่จ้องมองวิ่งหนีไปจนถึงประตูรัฐสภา แต่ผลสุดท้ายก็ยังถูกฉีปู้อวี่สังหารด้วยคมมีดอยู่ดี...
หยางหลิงกวงอดยิ้มอย่างเหยียดหยามไม่ได้ ขณะเดียวกันภายในใจก็นึกปลงอนิจจัง สมแล้วที่ฉีเติ่งเสียนเป็นลูกของไอ้บ้าฉี บุคลิกเหมือนกัน ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย
ฉีเติ่งเสียนที่กลับไปถึงห้องผู้ป่วยและให้เฉียวชิวเมิ่งมาอยู่ติดกันอีกครั้ง
สิ่งนี้ทำให้ฉีเติ่งเสียนปวดหัวเล็กน้อย แต่ซุนชิงเสวียนก็บอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าห้ามทำเรื่องที่สะเทือนใจเธอเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลต่อการฟื้นตัวในอนาคต
“คุณ...” หลี่อวิ๋นหว่านหน้าแดง ตระหนักได้ทันทีว่าคนบ้าคนนี้คิดจะทำอะไร
“อย่าปฏิเสธ” ฉีเติ่งเสียนเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ ไม่พร้อมแม้แต่จะให้เธอแย่งโอกาสครึ่งๆ กลางๆ นี้ไป
หลี่อวิ๋นหว่านคิดว่าเป็นเพราะช่วงนี้ตัวเองอยู่ห่างจากเขาและทำให้เขารู้สึกกดดันภายในใจมากเกินไปหรือไม่ เขาจึงเป็นแบบนี้ ดังนั้นจึงกล่าวว่า “อย่าก่อเรื่องน่า คืนนี้ฉันจะกลับไปที่หมู่บ้านคฤหาสน์อวิ๋นติ่งกับคุณ!”
ฉีเติ่งเสียนตกใจกับคำพูดของเธอจนสะดุ้ง คืนนี้เขาอาจจะไปที่โรงพยาบาล ความจะไม่แตกหรือ ถ้าหลี่อวิ๋นหว่านไปบ้านกับเขา
“ไม่ได้หรอก ผมรอไม่ไหวแล้ว!” ฉีเติ่งเสียนไม่ยอมให้เกิดการประนีประนอม
หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลี่อวิ๋นหว่านก็เดินออกมาจากห้องทำงานด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ เสื้อผ้าบนร่างกายยังคงเรียบร้อย แต่ถุงน่องที่มีตัวอักษรคำว่าแม่บนขากลับหายไป
“โคถึก!” เธออดสบถออกมาไม่ได้ รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้จะยิ่งใจกล้าขึ้นเรื่อยๆ
เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็เห็นหยางกวนกวนเดินเข้ามา เมื่อเข้าเธอจึงถามว่า “อวิ๋นหว่าน ประธานฉีล่ะ โทรไปก็ไม่รับสาย ที่นี่มีเอกสารกองหนึ่งรอให้เขาเซ็น”
“เขาอยู่ในห้องทำงาน เธอไปหาเขาได้เลย” หลี่อวิ๋นหว่านเอ่ยด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง ถึงอย่างไรเธอก็เป็นปีศาจสาวที่ปลอมตัวเป็นสาวคาสโนวี่ได้
หยางกวนกวนเอ่ยว่า “ช่วงนี้หนาวมาก เธอน่าจะสวมชุดเยอะๆ หน่อย ถ้าปล่อยขาให้เปลือยแบบนี้จะเป็นหวัดง่ายๆ”
หลี่อวิ๋นหว่านใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างฉับพลัน เธอกระแอมและเอ่ยว่า “อือๆ ขอบใจที่เตือน ฉันไปทำงานล่ะ”
หยางกวนกวนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อเข้าไปในห้องทำงานจึงเห็นฉีเติ่งเสียนเอนหลังอยู่บนเก้าอี้สำนักงาน สองขาวางพาดอยู่บนโต๊ะทำงาน สีหน้าเต็มไปด้วยความพอใจ
“ประธานฉีคะ รบกวนเซ็นเอกสารหน่อยค่ะ” หยางกวนกวนวางเอกสารลงตรงหน้าฉีเติ่งเสียน รู้สึกว่าในห้องทำงานอากาศหนาวมา แม้แต่หน้าต่างก็ยังเปิดไว้
เธอรู้สึกแปลกอยู่ลึกๆ อากาศเย็นขนาดนี้ เปิดหน้าต่างไว้ตั้งกว้าง ไม่หนาวหรือไง?
จากนั้นดวงตาของเธอก็เหลือบไปเห็นภายในถังขยะที่อยู่ข้างโซฟา ที่ดูเหมือนจะมีเศษผ้าสีดำขาดรุ่งริ่งถูกทิ้งอยู่ในนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...