สี่ร้อยล้านถูกโอนไปยังบัญชีของเฉียวกั๋วเทาอย่างง่ายดายเช่นนี้ ต้องรู้ว่าที่เฉียวกรุ๊ปประกอบกิจการมาตลอดหลายปีนี้ ตอนนี้สินทรัพย์หมุนเวียนมีเพียงแค่เจ็ดถึงแปดร้อยล้านเท่านั้น
ฉีเติ่งเสียนจัดการคนคนหนึ่งตามอำเภอใจ ทั้งยังตบบ้องหูอีกฝ่ายไปหลายครั้งจนทำให้อีกฝ่ายยอมมอบเงินสี่ร้อยล้านให้อย่างเชื่อฟัง
“นี่มันปลอมมาก...” เฉียวกั๋วเทาแอบยิ้มเจื่อนๆ อย่างอดไม่ได้ ภายในใจเกิดความคิดสับสนปนเป ทำให้เขารู้สึกยุ่งเหยิงภายในหัว
หยางหลิงกวงกระแอมเบาๆ หนึ่งทีและเอ่ยกับฉีเติ่งเสียนว่า “ประธานฉี ในเมื่อประธานหลงชดใช้แล้วสี่ร้อยล้าน เรื่องนี้ก็เป็นอันตามนี้แล้วใช่ไหม”
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าอย่างเย็นชาและเอ่ยเรียบๆ ว่า “หวังว่าคราวหน้าประธานหลงจะมองอะไรๆ ให้ดีกว่านี้ อย่ามาปะทะกับผมหรือคนของผมอีก ไม่อย่างนั้นมันจะไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ไขได้ด้วยเงินอีก”
หลงจงฉวนที่ตกใจขวัญหนีดีฝ่อเพราะวิธีที่เด็ดขาดของฉีเติ่งเสียนพยักหน้าอย่างหวาดกลัว กล่าวว่า “ครับๆๆ ประธานฉีไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ทำพลาดแบบนี้อีกแล้ว”
“ไสหัวไป!” ฉีเติ่งเสียนปรายตามองและเอ่ยเรียบๆ
หลงจงฉวนไม่พูดพร่ำทำเพลงและพาคนของตัวเองจากไปอย่างหมดสภาพ
หยางหลิงกวงยิ้มและโค้งให้น้อยๆ จากนั้นจึงพาคนของเขากลับไป
“ทำไม ยังดูกันไม่พอ? จะให้ฉันทำให้เห็นอีกรอบงั้นหรือ” ฉีเติ่งเสียนกวาดตามองทุกคนที่เฝ้าดูและถามเสียงเรียบ
“ฮือ!"
พอได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็ตกใจและกระจัดกระจายกันไปเหมือนนกที่แตกฮือ
คนโหดๆ อย่างฉีเติ่งเสียนน่ะ พวกเขาไม่คิดจะไปแหย็มด้วยหรอก แม้แต่หลงจงฉวนก็ยังโดนเขาจัดการเหมือนหมูเหมือนหมา
“ปลัดหยาง วันนี้คุณเองก็ได้เรื่องเลย!” หลงจงฉวนรอหยางหลิงกวงอยู่ที่ประตูโรงพยาบาล สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่พอใจเล็กน้อย
“ประธานหลง อันที่จริงเรื่องนี้ก็ตำหนิผมไม่ได้ ต้องโทษคุณเองต่างหากที่ไปหาเรื่องคนที่ไม่ควรหาเรื่อง” หยางหลิงกวงเอ่ยเสียงขรึม
หลงจงฉวนขมวดคิ้ว “เขามีอะไรดีงั้นเรอะ?!"
มุมปากของหยางหลิงกวงโค้งขึ้น จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ลูกชายนายใหญ่ตระกูลฉีแห่งเมืองหลวง ผู้อาวุโสแห่งกรมการสงครามฟู่เฟิงหยุนต้องขยันไปมาหาสู่ คุณอยากจะลองดูไหมล่ะ”
“นายใหญ่ตระกูลฉีแห่งเมืองหลวง? เขายังไม่ตายหรือ ตอนนั้นเขาคลั่งขนาดหนัก...” พอได้ยินแบบนั้น หลงจงฉวนก็รู้สึกสยองและขนลุกขนพองขึ้นมาทันที
แววตาของหยางหลิงกวงเปลี่ยนเป็นอึมครึมขึ้นอย่างอดไม่อยู่ เขายิ้มและเอ่ยว่า “ใช่นะสิ ถ้าคุณจะไปหาเรื่องลูกชายเขาอีก อย่าได้คิดว่าจะเอาผมไปด้วยอีกเลย”
หลงจงฉวนไม่กล้าพูดอะไรอีก
เมื่อสิบกว่าปีก่อนที่เมืองหลวง ในคืนนั้นเลือดไหลรินเป็นสาย
จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นสิ่งต้องห้ามที่เหล่าตระกูลใหญ่ไม่อยากจะพูดถึง
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะชายที่ชื่อฉีปู้อวี่แห่งตระกูลฉีผู้นั้น
“ในเมื่อเป็นลูกชายของไอ้บ้าฉี งั้นฉันก็จะ... เฮอะๆๆ ยอมแพ้ก็ได้!” หลงจงฉวนกระตุกมุมปากและพูดออกไปแบบนั้น
เขาเพิ่งยอมรับว่ากลัว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่คิดจะแก้แค้น ทว่าเมื่อได้ฟังหยางหลิงกวงพูดถึงภูมิหลังของฉีเติ่งเสียนมากขึ้น เขาก็ทำหมันความคิดที่ค่อนข้างรนหาที่ตายนี้อย่างสมบูรณ์
ถ้าเขากระตุ้นความบ้าคลั่งของฉีปู้อวี่คนบ้าแห่งเมืองหลวงอย่างเมื่อหลายสิบปีก่อนอีก ทั่วทั้งสวรรค์และปฐพีคงไม่มีใครช่วยเขาได้แล้ว
ในตอนนั้นพวกที่ฉีปู้อวี่จ้องมองวิ่งหนีไปจนถึงประตูรัฐสภา แต่ผลสุดท้ายก็ยังถูกฉีปู้อวี่สังหารด้วยคมมีดอยู่ดี...
หยางหลิงกวงอดยิ้มอย่างเหยียดหยามไม่ได้ ขณะเดียวกันภายในใจก็นึกปลงอนิจจัง สมแล้วที่ฉีเติ่งเสียนเป็นลูกของไอ้บ้าฉี บุคลิกเหมือนกัน ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย
ฉีเติ่งเสียนที่กลับไปถึงห้องผู้ป่วยและให้เฉียวชิวเมิ่งมาอยู่ติดกันอีกครั้ง
สิ่งนี้ทำให้ฉีเติ่งเสียนปวดหัวเล็กน้อย แต่ซุนชิงเสวียนก็บอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าห้ามทำเรื่องที่สะเทือนใจเธอเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลต่อการฟื้นตัวในอนาคต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...