เมื่อเห็นแบบนี้ แม้แต่หยางกวงกวนที่ไม่เคยมาก่อนก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
เพราะในยุโรป เรื่องแบบนี้เปิดกว้างมากและมีช่องสำหรับผู้ใหญ่ที่เปิดฉายในตอนดึกด้วย
“คุณฉี คุณต้องใส่ใจกับผลกระทบที่ตาม เพราะนี่คือบริษัท” หยางกวนกวน พูดด้วยความไม่พอใจ
“ฮ่าฮ่า เลขาตัวน้อยสั่งสอนเจ้านายอีกแล้ว!” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างไม่พอใจ แต่ยอมวางขาลงจากโต๊ะ
เขาคิดว่าหยางกวนกวนก็แค่บ่นเกี่ยวกับท่านั่งที่น่าเกลียดของเขา จึงไม่ได้คิดอะไรมาก
หยางกวนกวน รอจนกระทั่งฉีเติ่งเสียนเซ็นต์เอกสารเสร็จ จึงพูดอย่างเย็นชา หยิบเอกสารแล้วจากไป โดยไม่ลืมที่จะสาปแช่ง: “โรคจิต!”
“โรคจิต” นี้ทำให้ ฉีเติ่งเสียนงุนงง เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยนิ? แววตาเขายังคงใสซื่อ
ทำไมเลขาตัวน้อยถึงได้หน้าแดงเขินอาย แถมเธอยังดุเจ้านายแบบนี้? ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาที่ต้องโจมตีเธออย่างหนักแล้ว!
“อวิ๋นหว่านค่อนข้างวุ่นวายตอนอยู่กับเขาในห้องทำงาน......แต่เธอไม่ใช่คนเปิดเผยขนาดนั้น!” หยางกวนกวนคิด “ต้องเป็นฉีเติ่งเสียน ไอ้โรคจิตที่บังคับให้เธอทำแบบนั้น คนเลว!”
หยางกวนกวนบ่นด้วยความกังวล และในขณะเดียวกันก็มีอารมณ์ขุนมัวและอธิบายไม่ถูก ซึ่งทำให้ไม่สดใส จึงไม่มีสมาธิทำงานตลอดทั้งวัน
ฉีเติ่งเสียนกำลังนั่งอยู่ในห้องทำงาน ทันใดนั้น เขารู้สึกชาที่หนังศีรษะ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้สำนักงานทันที ส่ายหัว ก่อนจะไปซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะ
“ตอนนี้ฉันตกเป็นเป้าของปืนไรเฟิลซุ่มยิงใช่ไหมเนี่ย?”
“ดูเหมือนว่ามีคนเริ่มกังวลจริงๆ ว่าเซี่ยงกรุ๊ปจะนำปัญหามาสู่สวีกรุ๊ป”
“จะฆ่าฉันซึ่งเป็นแหล่งที่มาของอำนาจของเซี่ยงกรุ๊ปก่อนเลยงั้นหรือ?”
ฉีเติ่งเสียนที่ซุกตัวอยู่ใต้โต๊ะ แต่ในใจไม่มีแววความความกังวล เพราะเขาคาดการณ์ไว้แล้วว่าวันนี้จะมาถึง
เมื่อผู้ที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ถึงระดับสูง พวกเขาจะรู้สึกถึงแรงกระตุ้นอย่างฉับพลันเป็นครั้งคราว สามารถคาดการณ์อันตรายได้ เหมือนที่จั๊กจั่นรับรู้ก่อนที่ลมฤดูใบไม้ร่วงจะพัดผ่าน
อาการชาที่หนังศีรษะและตัวสั่นไปทั่วทั้งตัว เป็นสัญญาณของภัยอันตรายที่กำลังมาเยือน เห็นได้ชัดว่าอาจเป็นเป้าหมายของปืนไรเฟิลซุ่มยิง
“ดูเหมือนว่าเซี่ยงตงฉิงจะประสบปัญหาเช่นกัน เธอต้องระวังให้มากขึ้นในช่วงนี้” ฉีเติ่งเสียนคิดกับตัวเอง
หลังจากรอประมาณครึ่งนาที ความรู้สึกอันตรายก็ค่อยๆหายไป และฉีเติ่งเสียนก็ลุกออกจากใต้โต๊ะ
จากนั้นเขาก็เดินไปที่ปิดหน้าต่าง และปิดม่านเพื่อไม่ให้ถูกจับและเอาเปรียบเขาอีก
สวีกรุ๊ปไม่ได้นำโดยสวีเอ้าเสวี่ยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเงินทุนจากหลงเหมินกรุ๊ป แม้แต่ตระกูลอี้ในเมืองหลวงและกองทุนที่ลงทุนกับกองกำลัง จุดประสงค์ของพวกเขาคือการแบ่งชิ้นเค้กส่วนของเซี่ยงกรุ๊ป
ตอนนี้ เมื่อเห็นว่าเค้กชิ้นใหญ่นี้มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นมีด จึงชัดเจนว่านักลงทุนบางรายได้รับสัญญาณเตือน และพวกเขากำลังเตรียมที่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ฉีเติ่งเสียนไปทำงานช่วงกลางวันเป็นเวลาสามวันติดต่อกันและไปโรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการเฉียวชิวเมิ่งในตอนกลางคืน
ทำอะไรไม่ได้ หากเขาอยากจะขี้เกียจบ้าง แต่ถ้าหากเขาไม่ตรงเวลา อารมณ์ของเฉียวชิวเมิ่งก็จะแปรปรวน
เฉียวกั๋วเทาจะโทรหาทันทีและขอร้อง ฉีเติ่งเสียนให้มาโรงพยาบาล ฉีเติ่งเสียนจึงทำได้แค่เพียงอดทนเท่านั้น
“คุณสามี หมอบอกว่าอีกสองวันฉันจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว!” เฉียวชิวเมิ่งพูดอย่างมีความสุข “จากนี้ไป ฉันจะรอคุณที่บ้านทุกวัน และทำอาหารอร่อยๆ ให้คุณหลังจากที่คุณกลับจากทำงาน”
ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าหัวของเขากำลังจะระเบิด เมื่อหลี่อวิ๋นหว่านตกลงกับแม่ของเธอเรียบร้อย เธอจะกลับมาอาศัยอยู่ที่นั่นอย่างแน่นอน
หากเฉียวชิวเมิ่งกับหลี่อวิ๋นหว่านปะทะกัน นั่นจะเป็นสนามชูร่าขั้นสุดยอดหรือเปล่า? ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะทำให้เกิดการกระตุ้นที่ไม่ดีต่อเฉียวชิวเมิ่ง
“ไม่ ไม่ ผมคิดว่าผู้หญิงยุคใหม่ไม่ควรเป็นแค่แม่บ้าน!”
“ทุกคนมีเสน่ห์ในตัวเอง มีอาชีพ อุดมคติ มีหลักเกณฑ์เป็นของตัวเอง มีภูเขา แม่น้ำและทะเลอยู่ในใจ แทนที่จะถูกจำกัดอยู่เพียงเรื่องครัวและความรักเท่านั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...