มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 32

สรุปบท บทที่ 32 คนที่อยู่เบื้องหลังพี่จิ้ง: มังกรผู้ทรงพลัง

บทที่ 32 คนที่อยู่เบื้องหลังพี่จิ้ง – ตอนที่ต้องอ่านของ มังกรผู้ทรงพลัง

ตอนนี้ของ มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 32 คนที่อยู่เบื้องหลังพี่จิ้ง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

สีหน้าของหลงย่าหนานเรียบเฉย เธอยืนมองฉีเติ่งเสียนที่อยู่ตรงหน้าอย่างดูถูก

“ถ้าฉันไม่โทรไปตอนนั้น ป่านนี้นายคงได้ไปนอนในหลุมแล้ว! นายคิดว่าบาร์แห่งนี้เป็นที่ที่นายจะมาสร้างปัญหาได้หรือไง?”

“อีกอย่างนายคิดว่าชายหนุ่มที่ชื่อหวังเป้า เป็นคนที่นายจะสามารถต่อกรได้งั้นเหรอ?”

“ถ้านายไม่มีความสามารถอะไร ก็รู้จักหัดเจียมตัวบ้างนะ ทำแบบนี้มันน่าอายสิ้นดี เพราะถือว่าเป็นการฆ่าตัวเองชัดๆ!”

“ฉันกลัวว่าถ้านายตาย จะไม่มีใครมาเก็บศพของนายนะสิ”

คําพูดของหลงย่าหนานนั้นใจดำมาก

หลี่อวิ๋นหว่านที่นั่งอยู่ด้านข้างถึงกับตะลึง ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ดูถูกฉีเติ่งเสียนขนาดนี้ แล้วเธอจะมาช่วยเขาทำไม?

เมื่อฉีเติ่งเสียนได้ฟังคําพูดของหลงย่าหนานก็หัวเราะเยาะและพูดขึ้นว่า : “ผมคิดว่าคุณน่าจะเข้าใจผิดแล้วล่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นหวังเป้าหรือพี่จิ้งอะไรนั้นก็ไม่ได้อยู่ในสายตาผมอยู่แล้ว”

“พวกเขายอมที่จะฟังคุณ นั่นถือเป็นความโชคดีของพวกเขา”

“ไม่อย่างนั้น ผมคงทำให้พวกเขาได้รับรู้แล้วว่าผมโกรธจะเป็นอย่างไง!”

แววตาของหลงย่าหนานเฉยชาเย็นชาแล้วเธอก็พูดขึ้นว่า: “ฉันว่านายจะยังไม่รู้สินะว่าใครอยู่เบื้องหลังพี่จิ้ง นายถึงได้กล้าพูดอวดดีขนาดนี้”

“คนที่อยู่เบื้องหลังเธอ ขนาดคุณหนูเห็นยังจะต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพเลย”

“ทางที่ดีนายอย่าได้เอาคำพูดแบบนี้ไปพูดต่อหน้าเขา ไม่อย่างนั้นนายอาจจะตายได้โดยไม่รู้ตัว”

สวีเอ้าเสวี่ยฟังด้วยความสนใจ ผู้ชายที่อวี้เสี่ยวหลงถอนหมั้นคนนี้ดูน่าสนใจขึ้นมาเล็กน้อย……

แต่มันก็เป็นแค่ความน่าสนใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเขาพูดไม่คิดอีกทั้งน้ำเสียงก็แข็งกระด้าง เหมือนเป็นพวกปากแข็งไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด

“คุณหนูให้โอกาสนายถึงสองครั้งในการขอความช่วยเหลือ ที่นี่ฉันก็ช่วยนายแทนคุณหนูไว้อีกครั้งหนึ่ง!” หลงย่าหนานกล่าว

“So-what ?” ฉีเติ่งเสียนทำสีหน้าไม่พอใจ ถึงกับสบถออกมาเป็นภาษาอังกฤษ

หลงย่าหนานหัวเราะเยาะและพูดว่า : “ดังนั้น ตอนนี้นายเหลือเพียงแค่โอกาสเดียว และนี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวที่นายจะรอดชีวิตได้!”

“ฉันหวังว่านายจะยับยั้งชั่งใจตัวเองได้บ้าง คิดอะไรให้รอบคอบหน่อยนะ และอย่าใช้โอกาสสุดท้ายนี้โดยไม่จำเป็นอีก”

“นายรู้อะไรไหม นายกับคุณหนูไม่ได้อยู่บนโลกใบเดียวกัน นายได้โอกาสไปถึงสองครั้งก็ถือว่าเป็นโชคจากพระเจ้าแล้ว!”

“สิ่งที่สําคัญที่สุดในการเป็นคนคือต้องรู้จักชั่งน้ำหนักความสำคัญของตัวเอง ไม่ใช่ดึงดูดให้คนสนใจจนไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง”

หลังจากหลงย่าหนานพูดจบก็เดินหันกลับ

หลี่อวิ๋นหว่านอยากรู้อยากเห็นมาก “คุณหนู” ที่หลงย่าหนานพูดถึงนั่นคือใครกัน และมีความสัมพันธ์กับฉีเติ่งเสียนอย่างไร?

สวีเอ้าเสวี่ยยิ้มและพูดว่า : “ไปกันเถอะ!”

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็นว่า : “เดี๋ยวก่อน”

“อะไรอีกล่ะ?” หลงย่าหนานหันศีรษะและพูดอย่างเฉยเมย

“แม้ว่าฉันจะไม่อยากยอมรับความช่วยเหลือจากเธอ แต่ยังวันนี้ก็ต้องขอบใจด้วยแล้วกัน แต่ฉันอยากจะเตือนไว้อย่างนะ เรื่องที่คุณสวีจะเข้ามาทำธุรกิจก็ช่วยทำธุรกิจที่ขาวสะอาดไม่ใช่มาเล่นงานเซี่ยงกรุ๊ป ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าผมไม่เตือน” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างไม่แยแส

เมื่อสวีเอ้าเสวี่ยได้ยินสิ่งนี้ เธอก็ตกใจ ผู้ชายคนนี้รู้จุดประสงค์ในการเดินทางมาจงไห่ได้อย่างไร?

หรืออวี้เสี่ยวหลงยังติดต่อกับเขาอยู่?

แต่ไม่น่าจะใช่แบบนั้น เพราะอวี้เสี่ยวหลงเป็นคนที่หยิ่งยโสขนาดนั้น ถอนหมั้นไปแล้วก็ไม่น่าจะติดต่อกับฉีเติ่งเสียนอีก

“ถ้าคําพูดนี้พูดมาจากนักธุรกิจที่ร่ำรวย ฉันก็อาจจะเก็บไปคิดนะ แต่นายนะเหรอ……ฮึฮึ?” สวีเอ้าเสวี่ยยิ้มและหันหลังกลับ

ฉีเติ่งเสียนยักไหล่และไม่ฟังคําแนะนํา มาคอยดูกันว่าเธอกับอวี้เสี่ยวหลงจะแข็งแกร่ง หรือฉันที่เป็นรองหัวหน้าใหญ่จะแข็งแกร่งกว่ากัน!

พี่จิ้งเงยหน้าขึ้นและเห็นชายวัยกลางคนในชุดลําลอง ที่เอนตัวนอนอยู่บนโซฟา

พี่จิ้งยิ้มและโน้มตัวเข้าไปหา เธอนั่งลงข้างๆเขา พร้อมกับเอามือนุ่มๆนวดไปที่ต้นขาของชายคนนั้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “ท่าน มาที่นี่ได้อย่างไงคะ?!”

เยี่ยเฟิงยิ้มและวางมือใหญ่ของเขาลูบไล้ต้นขาใต้กระโปรงสีแดงของพี่จิ้ง

การกระทําของเขาไม่ได้ทำให้พี่จิ้งไม่ขัดขืน

“ที่บาร์มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” เยี่ยเฟิงถาม

“ก็คือว่า……” พี่จิ้งถอนหายใจ ก่อนที่จะนวดและเล่าไปด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น

หลังจากที่เยี่ยเฟิงฟังจบก็เลิกคิ้วแล้วพูดขึ้นว่า: “ไอ้สารเลวนั่นมันกล้าอวดดี ต้องทำให้มันได้รับรู้สักหน่อย!”

พี่จิ้งหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า : “ช่างมันเถอะค่ะ เห็นแก่หน้านายพลหญิงอวี้!”

“ก็ไว้หน้านายพลหญิงอวี้ แต่ฉันจะต้องตักเตือนให้บทเรียนเล็กๆกับไอ้หมอนี่หน่อย” เยี่ยเฟิงลุกขึ้นยืน

ร่องรอยของความสุขเกิดขึ้นในแววตาของพี่จิ้ง คิดไม่ถึงว่าเยี่ยเฟิงจะรู้สึกโกรธแทนเธอ!

“ชั่งมันเถอะค่ะ เพราะถึงยังไงหลงย่าหนานก็เป็นคนเอ่ยปากขอฉันไว้แล้ว” พี่จิ้งพูด

“จะช่างมันได้อย่างไง? ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าคนที่หนุนหลังเธอคือฉัน มันกล้าพูดอวดเก่งอย่างนั้นก็เหมือนกับมันตบหน้าฉันไปด้วย!”

“นอกจากในคุกนั่นที่ทุบตีอยู่สองปี ก็ไม่มีใครหน้าไหนกล้ามาดูถูกฉันแบบนี้!”

เยี่ยเฟิงพ่นลมหายใจออกมา จากนั้นก็คว้ามือของพี่จิ้งแล้วเดินออกไป

เรื่องไว้หน้าอวี้เสี่ยงหลงก็ต้องไว้ แต่บทลงโทษเล็กๆอย่างนี้มันเลี่ยงไม่ได้ เพื่อไม่ให้คนที่มันดีแต่ปากมาทำลายชื่อเสียงของเขาและพี่จิ้งได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง