สีหน้าของหลงย่าหนานเรียบเฉย เธอยืนมองฉีเติ่งเสียนที่อยู่ตรงหน้าอย่างดูถูก
“ถ้าฉันไม่โทรไปตอนนั้น ป่านนี้นายคงได้ไปนอนในหลุมแล้ว! นายคิดว่าบาร์แห่งนี้เป็นที่ที่นายจะมาสร้างปัญหาได้หรือไง?”
“อีกอย่างนายคิดว่าชายหนุ่มที่ชื่อหวังเป้า เป็นคนที่นายจะสามารถต่อกรได้งั้นเหรอ?”
“ถ้านายไม่มีความสามารถอะไร ก็รู้จักหัดเจียมตัวบ้างนะ ทำแบบนี้มันน่าอายสิ้นดี เพราะถือว่าเป็นการฆ่าตัวเองชัดๆ!”
“ฉันกลัวว่าถ้านายตาย จะไม่มีใครมาเก็บศพของนายนะสิ”
คําพูดของหลงย่าหนานนั้นใจดำมาก
หลี่อวิ๋นหว่านที่นั่งอยู่ด้านข้างถึงกับตะลึง ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ดูถูกฉีเติ่งเสียนขนาดนี้ แล้วเธอจะมาช่วยเขาทำไม?
เมื่อฉีเติ่งเสียนได้ฟังคําพูดของหลงย่าหนานก็หัวเราะเยาะและพูดขึ้นว่า : “ผมคิดว่าคุณน่าจะเข้าใจผิดแล้วล่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นหวังเป้าหรือพี่จิ้งอะไรนั้นก็ไม่ได้อยู่ในสายตาผมอยู่แล้ว”
“พวกเขายอมที่จะฟังคุณ นั่นถือเป็นความโชคดีของพวกเขา”
“ไม่อย่างนั้น ผมคงทำให้พวกเขาได้รับรู้แล้วว่าผมโกรธจะเป็นอย่างไง!”
แววตาของหลงย่าหนานเฉยชาเย็นชาแล้วเธอก็พูดขึ้นว่า: “ฉันว่านายจะยังไม่รู้สินะว่าใครอยู่เบื้องหลังพี่จิ้ง นายถึงได้กล้าพูดอวดดีขนาดนี้”
“คนที่อยู่เบื้องหลังเธอ ขนาดคุณหนูเห็นยังจะต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพเลย”
“ทางที่ดีนายอย่าได้เอาคำพูดแบบนี้ไปพูดต่อหน้าเขา ไม่อย่างนั้นนายอาจจะตายได้โดยไม่รู้ตัว”
สวีเอ้าเสวี่ยฟังด้วยความสนใจ ผู้ชายที่อวี้เสี่ยวหลงถอนหมั้นคนนี้ดูน่าสนใจขึ้นมาเล็กน้อย……
แต่มันก็เป็นแค่ความน่าสนใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเขาพูดไม่คิดอีกทั้งน้ำเสียงก็แข็งกระด้าง เหมือนเป็นพวกปากแข็งไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด
“คุณหนูให้โอกาสนายถึงสองครั้งในการขอความช่วยเหลือ ที่นี่ฉันก็ช่วยนายแทนคุณหนูไว้อีกครั้งหนึ่ง!” หลงย่าหนานกล่าว
“So-what ?” ฉีเติ่งเสียนทำสีหน้าไม่พอใจ ถึงกับสบถออกมาเป็นภาษาอังกฤษ
หลงย่าหนานหัวเราะเยาะและพูดว่า : “ดังนั้น ตอนนี้นายเหลือเพียงแค่โอกาสเดียว และนี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวที่นายจะรอดชีวิตได้!”
“ฉันหวังว่านายจะยับยั้งชั่งใจตัวเองได้บ้าง คิดอะไรให้รอบคอบหน่อยนะ และอย่าใช้โอกาสสุดท้ายนี้โดยไม่จำเป็นอีก”
“นายรู้อะไรไหม นายกับคุณหนูไม่ได้อยู่บนโลกใบเดียวกัน นายได้โอกาสไปถึงสองครั้งก็ถือว่าเป็นโชคจากพระเจ้าแล้ว!”
“สิ่งที่สําคัญที่สุดในการเป็นคนคือต้องรู้จักชั่งน้ำหนักความสำคัญของตัวเอง ไม่ใช่ดึงดูดให้คนสนใจจนไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง”
หลังจากหลงย่าหนานพูดจบก็เดินหันกลับ
หลี่อวิ๋นหว่านอยากรู้อยากเห็นมาก “คุณหนู” ที่หลงย่าหนานพูดถึงนั่นคือใครกัน และมีความสัมพันธ์กับฉีเติ่งเสียนอย่างไร?
สวีเอ้าเสวี่ยยิ้มและพูดว่า : “ไปกันเถอะ!”
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็นว่า : “เดี๋ยวก่อน”
“อะไรอีกล่ะ?” หลงย่าหนานหันศีรษะและพูดอย่างเฉยเมย
“แม้ว่าฉันจะไม่อยากยอมรับความช่วยเหลือจากเธอ แต่ยังวันนี้ก็ต้องขอบใจด้วยแล้วกัน แต่ฉันอยากจะเตือนไว้อย่างนะ เรื่องที่คุณสวีจะเข้ามาทำธุรกิจก็ช่วยทำธุรกิจที่ขาวสะอาดไม่ใช่มาเล่นงานเซี่ยงกรุ๊ป ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าผมไม่เตือน” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างไม่แยแส
เมื่อสวีเอ้าเสวี่ยได้ยินสิ่งนี้ เธอก็ตกใจ ผู้ชายคนนี้รู้จุดประสงค์ในการเดินทางมาจงไห่ได้อย่างไร?
หรืออวี้เสี่ยวหลงยังติดต่อกับเขาอยู่?
แต่ไม่น่าจะใช่แบบนั้น เพราะอวี้เสี่ยวหลงเป็นคนที่หยิ่งยโสขนาดนั้น ถอนหมั้นไปแล้วก็ไม่น่าจะติดต่อกับฉีเติ่งเสียนอีก
“ถ้าคําพูดนี้พูดมาจากนักธุรกิจที่ร่ำรวย ฉันก็อาจจะเก็บไปคิดนะ แต่นายนะเหรอ……ฮึฮึ?” สวีเอ้าเสวี่ยยิ้มและหันหลังกลับ
ฉีเติ่งเสียนยักไหล่และไม่ฟังคําแนะนํา มาคอยดูกันว่าเธอกับอวี้เสี่ยวหลงจะแข็งแกร่ง หรือฉันที่เป็นรองหัวหน้าใหญ่จะแข็งแกร่งกว่ากัน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...