มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 340

สรุปบท บทที่ 340 เสเเสร้งเเต่ก็อยากหนีไป: มังกรผู้ทรงพลัง

ตอน บทที่ 340 เสเเสร้งเเต่ก็อยากหนีไป จาก มังกรผู้ทรงพลัง – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 340 เสเเสร้งเเต่ก็อยากหนีไป คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง มังกรผู้ทรงพลัง ที่เขียนโดย จาง หลงหู เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

อารมณ์ของพวกสาว ๆ เริ่มตื่นเต้นและรู้สึกราวกับว่าฉีเติ่งเสียนนั้นเหมือนเทพพระเจ้าแห่งสวรรค์ที่ลงมาโปรดโลก เพื่อช่วยพวกเธอรอดพ้นจากน้ำและไฟ

หยางเหวินไคและหลี่เทียนลั่วอดไม่ได้ที่จะกังวลมากขึ้น ผู้คนมากมายขนาดนี้กลับไม่สามารถทำร้ายฉีเติ่งเสียนคนเดียวได้เลยเหรอ? !

ฉีเติ่งเสียนนั้น เปรียบเสมือนเสือท่ามกลางฝูงแกะ ในสายตาของเขาพวกอันธพาลเหล่านี้ยังไม่แข็งแกร่งเลยด้วยซ้ำเหมือนกับไก่อ่อน

เสียงกรีดร้องระงมยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าฉีเติ่งเสียนก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุดหย่อนเลย แม้ว่าบางคนจะวางอาวุธในมือลงแล้ว เพื่อร้องขอความเมตตาจากเขา แต่เขาก็ทำร้ายโดยตรง

"ยังยืนมึนตะลึงทําอะไรอยู่ วิ่งเร็วเข้า!" หยางเหวินไครู้สึกตัวแล้วพูดกับหลี่เทียนลั่วด้วยน้ำเสียงทุ่มต้ำ

ทั้งสองคนรีบหันหลังกลับและวิ่งไปที่ประตูทันที เมื่อดูจากสถานการณ์แล้ว นี่ก็เป็นเพียงเรื่องราวของปัญหาที่ยังไม่ถึงเวลา ถ้าหากพวกเขาไม่รีบวิ่งตอนนี้ พวกเขาคงไม่สามารถหนีได้อีก!

หลี่เทียนลั่วนั้นรู้สึกว่ามีเหงื่อเย็นๆที่ไหลลงมาที่หน้าผากของเขา เขารู้ดีว่าฉีเติ่งเสียนนั้นมีพลังมากแค่ไหน แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะมีพลังมากมายขนาดนี้

เขายังตั้งใจทําประกันให้เพียงพอ และนำพวกอันธพาลฝีมือดีพวกนี้ที่มีจำนวนไม่ต่ำกว่าร้อยคน แต่ถึงอย่างนั้นความสามรถของเขายังเทียบไม่ได้กับฉีเติ่งเสียน ช่างน่ากลัวจริงๆ

ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังรีบวิ่งไปที่ประตู ฉีเติ่งเสียนก็ขยับฝีเท้าเข้ามาดักหน้า ทันใดนั้นกระดูกสันหลังของเขาก็เด้งเหมือนมังกรตัวใหญ่ และมีการส่งเสียงออกมาก แล้วค่อยๆก้าวเท้าออกไปและค่อยๆห่างออกไปเจ็ดถึงแปดเมตร หลังจากนั้นก็มองไม่เห็นแล้ว

เพียงแค่ขยับขาไปสองสามก้าว เขาก็มาถึงด้านหลังของทั้งสองคนแล้ว

จู่ๆพวกเขาทั้งสองคนก็รู้สึกหนาวที่คอและมีมือใหญ่จับที่หลังคอพร้อม ๆ กัน ก่อนที่จะมีเวลาตอบสนองพวกเขารู้สึกว่าโลก กำลังหมุนร่างกายของพวกเขาไร้น้ำหนักและพวกเขาก็ล้มลงออก

"ปัง!" ปัง!"

ทั้งสองคนถูกกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรงจนทำให้เกิดเสียงดังที่อัดเข้ากำแพง ทั้งกระดูกหักเปรอะและเป็นอัมพาต ขยับตัวไม่ได้

ใบหน้าของฉีเติ่งเสียนนั้นเต็มไปด้วยความเฉยเมยและพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ "เสแสร้งว่าคุณมีที่ไหนในโลกนี้ จะมีเรื่องง่าย ๆ แบบนี้ได้!"

ในเวลานี้อันธพาลสิบกว่าคนที่ยังไม่ล้มลงก็มีสติกลับขึ้นมาทันที และเลือดบนศรีษะนั้นบนค่อย ๆ หยุด

เมื่อหันกลับไปดูก็เห็นแต่พี่น้องตัวเองนอนอยู่บนพื้น มีบางคนก็ส่งเสียงครวญคราง มีบางคนก็กระดูกหัก บางคนก็หมดสติ และบางคน สมองก็ถูกทำร้ายจนสมองได้รับกระทบกระเทือน

ทันใดนั้นร่างกายของพวกเขาก็รู้สึกหนาวและสั่นเทาไปทั้งตัว พวกเขาไม่มีความกล้าที่จะมองไปยังฉีเติ่งเสียนอีกต่อไป ไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้เพื่อเงินห้าล้านอีกต่อไป

ในเวลานี้พวกสาวๆต่างก็โล่งใจ หลังจากนั้นความกดดันที่สะสมพลุกพล่านมาสุดขีดก็คลายลง จนทำให้พวกเขาอดใจไม่ไหวที่จะส่งเสียงเชียร์ตรงๆ บ้างก็ยิ่งกอดกันทั้งกระโดดโลดเต้น

เฉียวชิวเมิ่งถอนหายใจยาวๆด้วยความโล่งงอกและมองไปที่ร่างกายของฉีเติ่งเสียน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและความชื่นชม

เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับตัวฉันเองก่อนที่ความจําจะเสื่อม ทำไมจากคนที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ถึงอยากจะหย่ากับเขาล่ะ?

โชคดีที่ยังไม่สายเกินไป ที่ แต่การเยียวยาที่ดีที่ตอนนี้น่าจะไม่ทัน

จางฮวนวานที่กลัวขดตัวแล้วขดตัวอยู่ที่มุมห้อง จนทำให้เป้าใต้กางเกงของเขากลัวมีฉี่ออกมาราดแล้ว และ เขาไม่เคยเห็นใครที่เหี้ยมโหดดุร้ายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต

อันธพาลพวกนี้มีมากกว่าร้อยคนที่ต่อสู้กับเขาเพียงลำพัง แต่อันธพาลพวกนี้นั้นกลับไม่สามารถจะล้มหรือทำร้ายเขาได้ ในทางกลับกันพวกเขาเกือบทั้งหมดถูกทำร้ายให้ราบนอนลงกับพื้น

“แซ่ของผมคือฉี ผมเป็นลูกชายของผู้นำจังหวัด ถ้าหากคุณกล้าแตะต้องผมรับรองว่าจะไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน! ” ในขณะนี้หยางเหวินไคตกใจมากและรู้สึกกลัวเล้กน้อย

เมื่อมองดูพวกอันธพาลเหล่านี้ที่นอนอยู่บนพื้น ร่างกายของเขาก็รู้สึกหนาวๆขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีบางคนที่ดูน่าเกลียดมากเมื่อพวกเขาตาย จนทำให้ผู้คนที่มองดูเหตุการณ์นั้นรู้สึกชาหนังศีรษะ

ฉีเตื่งเสียนนั้นเอียงศีรษะและค่อยๆเดินขึ้นไปอย่างช้าๆ

หยางเหวินไคนั้นเริ่มส่งเสียงคร่ำครวญ "คุณไม่สามรถแตะต้องผมได้ ถึงแม้ว่าผมจะทำอะไรผิดก็ตาม ถ้าคุณแตะผมก็จะ กลายเป็นศัตรูของพ่อฉัน!"

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเหยียดหยาม "พ่อของคุณยังเป็นคนดี ทำไมเขาถึงให้กำเนิดเด็กที่ดื้อเช่นคุณ บางทีเขาน่าจะติดคุณไว้บนผนังตั้งแต่แรก"

หลังจากพูดจบ เขาก็ก้มลงและยกหยางเหวินไคขึ้นมาจากพื้น

หลี่เทียนลั่วไม่กล้าที่จะพูด และร่างกายของเขาก็สั่นเทา

เมื่อหยางเหวินไคได้ยินฉีเติ่งเสียนคุยโทรศัพท์กับพ่อของเขา ในหัวของเขาก็รู้สึกเริ่มบ่นพึมพำว่าทุกอย่างจบลงแล้ว

ฉีเติ่งเสียนแตะเข้าที่คางของเขา ยิ้มแล้วพูดว่า "เร็วเข้า ไม่อย่างนั้นผมคงจะช่วยไม่ได้ ผมแค่กลัวว่าจะไม่สามารถอดทนที่จะทำร้ายทุบตีให้ตาย!"

หยางหลิงกวงไม่ลังเลและรีบแจ้งให้เลขาอู๋มาไปที่รีสอร์ทตงซานทันที

ฉีเติ่งเสียนจ้องมองไปที่หลี่เทียนลั่ว และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ทำไม ตอนนี้ไม่ใช่คุณบ้าไปแล้ว ทำไมคุณถึงขี้ขลาดขนาดนี้ นี่ไม่ใช่สไตล์ของคุณเลยนะ!"

หลี่เทียนลั่วตัวสั่นและพูดว่า "เอาล่ะ เอาล่ะ...คุณฉี คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ถ้าหากคุณมีอะไรจะพูดกับผม ผมยังเป็นผู้สืบทอดจากตระกูลหลี่อย่างแท้จริง ถ้าหากคุณ …”

ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้วและเหยียบเข้าไปที่เข่าของเขา!

"กรอบ!"

หลังจากที่มีเสียงปรากฏขึ้น หลี่เทียนลั่วก็ส่งเสียงคร่ำครวญร้องออกมาราวกับหมูฆ่า และเกือบจะเป็นหมดสติด้วยความเจ็บปวด

“ไม่ใช่ว่าผมเพิ่งจะบอกไปว่าจะทำลายคุณเหรอ?”

“คุณทำอะไรผิด นี่เป็นครั้งแรกที่คุณไม่ยอมรับความผิด แต่คุณก็ยังกล้าที่จะต่อรองกับผมอยู่เหรอ?”

“ดูเหมือนว่าคุณเจ้าจะไม่รู้ว่าจะกลับตัวกลับใจนั้นเป็นอย่างไร”

“ดังนั้นคุณจะกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต”

ฉีเติ่งเสียนเหยียบเข้าไปเข่าของหลี่เที่ยนลั่วในขณะที่เขาพูด เขาก็ยกเท้าอีกข้างหนึ่งขึ้นมาและกระทืบให้ล้มลงไปถึงสองสามครั้ง แขนขาของหลี่เทียนเทียนลั่วพิการโดยสิ้นเชิง!

หยางเหวินไคที่อยู่ด้านข้างถมึงตามอง เมื่อเขาเห็นวิธีการอันโหดเหี้ยมของของฉีเติ่งเสียนก็หมดสติไปด้วยความกลัว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง