มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 595

หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนกลับมาถึงเมืองจงไห่ เขาถึงได้รู้ว่าเซี่ยงตงฉิงขาดงานมาหลายวันแล้ว

หลังจากสอบถามดูจึงรู้ว่าอาฝูผู้เป็นพ่อบ้านของเซี่ยงตงฉิงล้มป่วย

อาจเรียกได้ว่าอาฝูคือญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ของเซี่ยงตงฉิงในโลกนี้ แม้ว่าเธอจะมีญาติสายเลือดเดียวกันอยู่อีกไม่น้อย แต่พวกนั้นล้วนเป็นแค่หมาป่าที่จ้องมองแต่ทรัพย์สมบัติพัสถานของเซี่ยงกรุ๊ป

มีอาฝูเพียงคนเดียวที่จริงใจกับเซี่ยงตงฉิงและปฏิบัติต่อเธอเหมือนเธอเป็นลูกสาว

ฉีเติ่งเสียนนำของบำรุงร่างกายไปเยี่ยมถึงที่ เมื่อเห็นฉีเติ่งเสียน เซี่ยงตงฉิงก็เอ่ยด้วยใบหน้าที่เย็นชาว่า “คุณมาทำไม”

ฉีเติ่งเสียนบอกว่า “หมดประโยชน์แล้วถีบหัวส่งงั้นเหรอ?! หลังๆ มานี้คุณทำให้สีหน้าของผมดูแย่ขึ้นเรื่อยๆ ผมไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรือเปล่า”

เซี่ยงตงฉิงส่งเสียงฮึอย่างเย็นชาและบอกว่า “ถึงยังไงฉันก็ไม่ชอบหน้าคุณ รีบออกไปได้แล้ว!"

ฉีเติ่งเสียนขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทองก่อนเวลาอันควรผู้นี้และถือวิสาสะเข้าไปหาอาฝู

สำหรับมหาเศรษฐีอย่างเซี่ยงตงฉิงย่อมมีแพทย์ส่วนตัวอยู่แล้วอย่างไม่ต้องสงสัย และในตอนนี้แพทย์ก็กำลังตรวจสภาพร่างกายให้อาฝู

“ผู้อาวุโสสุขภาพร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาวอยู่ได้เป็นร้อยปี ไม่มีอะไรต้องห่วง” แพทย์ผู้เป็นชายวัยห้าสิบเอ่ยอย่างอ่อนโยน

แต่ฉีเติ่งเสียนกลับมองเขาอย่างจริงจังและถามว่า “คุณพูดจริงเหรอ”

หมอพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร

เซี่ยงตงฉิงเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ฉีเติ่งเสียน คุณหมายความว่ายังไง คุณพูดอย่างกับอยากจะให้ลุงฝูไม่สบาย?!"

อาฝูรีบเอ่ยว่า “คุณหนู พูดอย่างนี้กับแขกได้ยังไงครับ ประธานฉีเองก็คงเป็นห่วงผมเหมือนกัน คุณหนูอย่าพูดจาเหลวไหลเลย”

นั่นเองเซี่ยงตงฉิงจึงยอมและไม่มองฉีเติ่งเสียนด้วยสีหน้าที่เย็นชาอีก

จนเมื่อเซี่ยงตงฉิงไปชงกาแฟให้ฉีเติ่งเสียน ฉีเติ่งเสียนจึงเอ่ยกับลุงฝูว่า “คุณขอให้หมอโกหก?”

สีหน้าของอาฝูชะงักค้าง เขาเอ่ยว่า “คุณมองออกด้วยหรือ”

“ฟังไงล่ะ! ประสาทหูของผมดีกว่าคนทั่วไปมาก สามารถฟังเสียงอวัยวะภายในที่ละเอียดอ่อนของคนที่สุขภาพดีและคนที่เจ็บป่วยได้อย่างชัดเจน อวัยวะของคุณมีปัญหาและไม่แข็งแรง” ฉีเติ่งเสียนเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“มะเร็ง” อาฝูถอนหายใจและกระซิบบอก

ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า ไม่แปลกใจเลยที่อาฝูขอให้แพทย์ปิดบังอาการป่วยจากเซี่ยงตงฉิง ที่แท้มันก็ร้ายแรงขนาดนี้นี่เอง

ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า “ถึงอยากช่วยก็ช่วยอะไรไม่ได้ มะเร็งเป็นปัญหาที่ทางการแพทย์แก้ยากมาโดยตลอด”

“แต่ถึงยังไงเรื่องแบบนี้ก็ไม่มีทางปกปิดไว้ได้ตลอด”

“คุณคิดจะบอกเซี่ยงตงฉิงเมื่อไร?”

อาฝูส่ายหน้าและบอกว่า “ตอนนี้คุณหนูมีผมเป็นญาติเพียงคนเดียว ผมกลัวว่าถ้าบอกไป คุณหนูจะทนรับเรื่องราวที่กระทบกระเทือนขนาดนี้ไม่ได้ อย่างน้อยก็ขอให้เธอมีที่พึ่งใหม่เสียก่อน!"

ฉีเติ่งเสียนคิดว่าเรื่องนี้เป็นอะไรที่เลือนรางมาก ผู้หญิงอย่างเซี่ยงตงฉิงเป็นคนที่เข้มแข็งกล้าได้กล้าเสีย แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ได้นึกถึงการเจริญเติบโตของเซี่ยงกรุ๊ปด้วยการยึดปณิธานอันแรงกล้าของพ่อแม่อย่างเมื่อก่อน แต่เธอก็ยึดมั่นในกิจการอย่างที่คนธรรมดาไม่อาจเทียบได้

นี่คือผู้หญิงแกร่งคนหนึ่งที่สามารถเทียบได้กับอวี้เสี่ยวหลง เรื่องประเภทรักๆ ใคร่ๆ ไม่เหมาะกับเธอเลยในตอนนี้

“ดังนั้นนะ ประธานฉี ผมหวังว่าต่อจากนี้ไปคุณจะดูแลช่วยเหลือคุณหนูได้” อาฝูมองเขาและเอ่ยด้วยแววตาที่อ่อนโยน

“ผมก็อยาก แต่ช่วงนี้เธอค่อนข้างขัดตากับผม” ฉีเติ่งเสียนเอ่ยด้วยรอยยิ้มที่จนปัญญา

อาฝูอดหัวเราะไม่ได้ เขาบอกว่า “คุณหนูเป็นคนเย็นชา ใครที่ทำให้คุณหนูรู้สึกขัดตาได้ย่อมมีสถานะพิเศษในใจเธอ ผมว่าพวกคุณสองคนเป็นคู่กันได้เลย”

ฉีเติ่งเสียนสะดุ้งและรู้สึกหวาดกลัวนิดหน่อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง