มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 649

หลงย่าหนานได้เห็นถึงมีฝือที่โหดเหี้ยมขนาดนี้ของฉีเติ่งเสียน แน่นอนว่าร้องเชียร์จากก้นบึ้งของหัวใจ

เหมือนไป๋หลิ่วผู้มีฝีมือสูงอย่างงี้ แต่ว่าตายไปแล้วหนึ่งก็หายไปอีกหนึ่ง เขาถูกฉีเติ่งเสียนควักตาออกมา ชีวิตต่อจากนี้เป็นได้แค่ขยะแล้ว ไม่สามารถเป็นประโยชน์กับตระกูลจ้าวได้แล้ว

ไป๋หลิ่วอยากเล่นจังหว่ะก็ฉีเติ่งสียนเพื่อเพิ่มภาระที่หนักอึ้ง ผลาญพละกำลังของเขา แต่สุดท้ายแล้วยังคงประเมินความน่ากลัวของฉีเติ่งเสียนต่ำไป

รูปร่างเสือนั้นเอง เขาใช้พลังทั้งหมดของร่างกาย ยังไม่ทันได้เปิดออก แขนถูกคว้าเข้าอย่างแรง และท่านั้น “พลังมังกรคู่คว้าไข่มุก”ที่ออกมามันรวดเร็วและรุนแรงเหมือนฟ้าผ่า

หลงย่าหนานรู้สึกในใจปลอดโปร่ง ตระกูลจ้าวจะโกงในการทดสอบ เปลี่ยนผู้คุมสอบทันใด แต่แล้วยังไงล่ะ?ที่เสียบเปรียบ สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นตัวของพวกเขาเอง!

“ผู้ชนะคือราชาผู้แพ้คือโจร อะไรก็ตามที่คุณพูดแล้ว แต่ทว่า เขาก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถชนะตลอดไป!“ไป๋หลิ่วอดทนความเจ็บปวด นั่งไปที่พื้น พูดอย่างเย็นชา

“ถ้าหากจะมีคนที่ชนะ ถ้าอย่างนั้นทำไมคนนั้นจะไม่เป็นฉันล่ะ?”ฉีเติ่งเสียนกลับพูดสุภาษิตคลาสสิคออกมา

ไป๋หลิ่วยิ้มยิ้ม :“ฉันแพ้แล้ว แต่ทว่า การระเบิดพลังไม่กี่ครั้งเมื่อกี๊ของคุณ กำลังของร่ายกายถูกผลาญไปไม่น้อย? การทดสอบด่านนี้ คุณผ่านแล้ว ไปต่อด่านต่อไปเถอะ!”

เมื่อเข้าสู่เวทีประลองศิลปะการต่อสู้ที่สองจากประตู สีหน้าหลงย่าหนานเปลี่ยนจนร้ายแรงมาก

คนที่ยืนอยู่ตรงกลางเวทีประลอง โผล่ออกมากอย่างกะทันหันนั่นก็คือเย่เฉิง!

ทั้งชุดของเขาเป็นสีดำ ในมือถือดาบโบราณ ยืนตั้งตัวร่างสูง แค่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสบายๆ แต่ลมปราณที่เฉียบแหลม ราวกลับว่าจะระเบิดออกมาจากร่างกายของเขาอย่างงั้น

“พวกคุณหน้าไม่อายเลย ชัดเจนว่าทั้งหมดคือปรมาจารย์ที่มีฝีมือสูง ยังจงใจจัดให้มีการต่อสู้แบบนี้ ก็เพราะจะกำจัดนายพลจัตวาฉีออกไปล่ะสิ?หลงย่าหนานอดไม่ได้ที่จะด่าขึ้นมา

เย่เฉิงกลับไม่ฟังคำพูดของเขาเลย และยังดูถูกฉีเติ่งเสียนอีก พูดอย่างสงบ:ดาบจิ่วกง เย่เฉิง โปรดชี้แนะด้วย!”

ระหว่างสนทนา เขายกดาบขึ้นและกำหมัด คำนับเป็นพิธี

ฉีเติ่งเสียนเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ก็คือเล่ยควงที่เคยทำงานเป็นบอดี้การ์ดของเซี่ยงตงชิงมาก่อน

“นั่นคือลูกศิษย์คุณ?”ฉีเติ่งเสียนหันกลับไปพูด

“เป็นลูกศิษย์เลว ”เย่เฉิงตอบแบบนิ่งๆ

ฉีเติ่งเสียนเบะเบะปาก พูด :“ฝึกดาบกี่ปีแล้ว?”

เย่เฉิงพูด:“สิบกว่าปี”

ฉีเติ่งเสียนพูด:“ยังเทียบไม่ได้กับลูกศษย์ของฉัน ยังห่างไกล”

มุมปากเล่ยควงกระตุก ในใจไม่ยอม พวกคุณพูดกันไป เกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?

หยางกวนกวแสดงสีหน้าภูมิใจเล็กน้อยออกมา ใครก็บอกพูดว่าเขาคือหนึ่งในอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ แม้แต่ฉีปู้อวู่ก็ยังชื่นชมเขาไม่หยุด

“รบกวนชี้แนะ ”เย่เฉิงไม่อยากได้ยินคำพูดไร้สาระของฉีเติ่งเสียน เดินเข้ามาหนึ่งก้าว คำนับทักทาย

“ชี้แนะเถอะ ”ฉีเติ่งเสียนก็ไม่อยากพิธีรีตองกับเขา

หลงย่าหนานโมโหและพูด:“ปรมาจารย์ใหญ่พวกนี้ของคุณ ผลัดกันลงสนามก็ไม่เป็นไร นึกไม่ถึว่าจะเอาอาวุธสงครามมา หน้าไม่อาย?

เย่เฉิงกล่าวแบบสงบ:“ฉันฝึกวิชาดาบจิ่วกง ใช้ดาบมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ หากพัลจัตวาฉีรู้สึกไม่เหมาะสม ก็สามารถเลือกอาวุธสงครามได้ ถ้าไม่ได้อีก ไม่ต้องสอบก็ได้!”

หลงย่าหนานโกรธจนทนไม่ไหว รู้สึกว่าพวกนี้ไร้ยางอายเกินไปแล้ว แต่ละคนชื่อเสียงเรียงนามไม่ธรรมดา พอเรื่องนี้กลับขีดเส้นตายไว้ขนาดนี้

“ฉันกลัวว่าถ้าฉันใช้อาวุธสงครามแล้ว โอกาสที่คุณจะได้ชักดาบก็ยังไม่มีเลย ดังนั้น ไม่ต้องดีกว่า ”ฉีเติ่งเสียนหัวเราะเบาๆ

คำพูดนี้ ทำให้คนดูทั้งสนามเกิดอุทานด้วยความตกใจออกมา!

“เทพดาบเย่เฉิง เมื่อปีนั้น ข้ามไปตะวันออกสู่ประเทศเจี๋ยเผิง หนึ่งคนและหนึ่งดาบเอาชนะปรมาจารย์นักดาบมากกว่า 20 คนของอาณาจักรเจี๋ยเผิง นึกไม่ถึงว่าจะกล้าดูถูกเขาแบบนั้น?”

“ในมือมีอาวุธหรือไม่มีอาวุธสงครามมีสองความหมาย ต่อให้ฝึกวิชาผูษาเหล็กและวิชาระฆังทองคุ้มกายถึงระดับสวรรค์ มาเจอผู้มีระดับสูงแบบนี้ มันก็เหมือนกับหนึ่งท่าหนึ่งโพรงเล็กๆ!”

“การทดสอบครั้งนี้คือกระบวนทัพของเทพเซียน ไทเก๊กไป๋หลิ่ว เทพดาบเย่เฉิง ยิ่งไปกว่านั้นผู้นำกระบวนทัพคือมังกรกล้าหาญเย่เฟยหลิว......ไม่รู้เลยว่าผู้คุมคนที่สามเป็นใคร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง