หยางกวนกวนพูดถึงการต่อสู้ในเมื่อวานนี้ เธอก็หน้าบานเป็นกระด้ง เริ่มพูดเยอะขึ้นทันทีฃ
ฉีเติ่งเสียนและหยางกวนกวนกินมื้อดึกและดื่มเบียร์ไปด้วย และวิเคราะห์การต่อสู้ในเมื่อวานนี้อย่างจริงจังไปด้วย
ระหว่างพูดคุยกัน หยางกวนกวนรู้สึกว่าเธอได้รับประโยชน์และความรู้มากมาย หลายอย่างที่คิดไม่ออก กลับรู็สึกคิดได้ในทันที
จากนั้น ฉีเติ่งเสียนก็ให้เธอด้นสดว่าจะเขียน《หนังสือการสู้รบจริง》อย่างไร และทำการแก้ไขในเรื่องที่เธออธิบายปัญหาได้ทันเวลา
หยางกวนกวนรู้สึกว่าความรู้สึกแบบนี้นั้นดีมาก ประเด็นหัวข้อที่คุยกัน ก็ได้ส่งเสริมความรู้สึกของทั้งสองคนเรื่อยๆ
เรื่องศิลปะการต่อสู้ ทําให้หยางกวนกวนได้พัฒนาตัวเองและเปลี่ยนแปลงตัวเอง ยิ่งทําให้เธอรับรู้ความรู้สึกของตัวเองอย่างชัดเจน เพราะเธอรู้สึกว่าการพูดคุยเรื่องศิลปะการต่อสู้กับฉีเติ่งเสียน เป็นเรื่องที่ดีมากๆเลย
ปกติคู่รักทั่วไปอาจส่งเสริมความรักด้วยการช็อปปิ้ง ดูหนัง เล่นเกม อื่นๆด้วยกัน แต่เธอและฉีเติ่งเสียนกลับผ่านการแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้ ความรู้สึกแบบนี้มันน่าทึ่งจริงๆ
อย่างที่เธอเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ มีความรู้สึกเหมือนเอี้ยก้วยเจ้าอินทรีแบบนั้นเลย
"พลังงูเหลือมพ่นตานที่ระเบิดออกมาครั้งสุดท้ายของคุณ น่ากลัวจริงๆนะ แต่ก็ต้องขอบคุณในความอวดดีของเยี่ยเฟยหลิว ไม่งั้นคุณอาจไม่ชนะก็ได้" หยางกวนกวนสรุป
"ทั้งอยากเป็นโสเภณี ทั้งอยากสร้างซุ้มอนุสาวรีย์(อยากทำทั้งดีทั้งชั่วในคราวเดียวกัน)ก็ต้องจบลงแบบนี้แหละ เขากลัวว่าคนอื่นจะพูดว่าที่ชนะฉันได้เพราะหลายคนรุ่มหนึ่ง ไม่ได้ชนะแบบยุติธรรม เลยทิ้งอาวุธและเอาชนะฉัน อย่างน้อยก็รู้สึกมีเกียรติบ้าง"
"เป็นถึงคนใจกล้าซะขนาดนั้นบทที่ ชื่อเสียงโด่งดังขนาดนี้ ถือปืนใหญ่ชนะแบบหลายคนรุมหนึ่ง นี่มันอะไรกัน?"
"มีคนมากมายที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องชื่อเสียง!"
ฉีเติ่งเสียนกินไตแกะย่าง กัดไปคำหนึ่ง น้ํามันเยิ้มออกมา และคิดใจในใจว่า "คืนนี้พี่จะเป็นไง ขึ้นอยู่กับแกแล้วนะ!"
หยางกวนกวนพูดว่า "ว่าแต่ คุณใช้พลังงูเหลือมพ่นตาน หัวใจก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก คงต้องพักฟื้นนานเลยใช่ไหม?"
ฉีเติ่งเสียนพูดๆว่า "แน่นอนว่าฉันเจ็บหนักกว่าเธอ แต่สมรรถภาพทางร่างกายของฉันก็แข็งแกร่งกว่าของเธออยู่แล้ว และความเร็วในการฟื้นตัวจะเร็วกว่าเธอเป็นปกติ"
เยี่ยเฟยหลิวเล่นปืนใหญ่เลยนะ ถ้าแรงไม่เยอะหน่อย จะยกปืนกระบอกใหญ่ที่ยาวสองเมตร และน้ำหนักกว่าสามสิบกิโลกรัมได้ไงล่ะ?
แต่เขาก็ถูกฉีเติ่งเสียนต่อยจนลอยออกไป ฟันร่วงทั้งปาก แค่คิดก็รู้แล้วว่า พลังของหมัดนั้นน่ากลัวแค่ไหน แค่หมัดเดียวก็ทําลายทุกอย่างแล้ว
ข้าวมื้อนี้กินได้อย่างมีความสุขมาก แน่นอนว่าก็ได้คุยกันอย่างสนุกสนาน และดื่มเบียร์หมดไปหนึ่งลังกว่าโดยไม่รู้ตัว
หยางกวนกวนลุกขึ้นถึงได้พบว่าตัวเองมึนมาก
พอดูเวลาสิ ก็เที่ยงคืนแล้ว!
เมืองโมตูยังหนาวอยู่นิดหน่อย พอลมพัดมา หนาวทะลุกระดูกไปเลย
เห็นหยางกวนกวนตัวสั่น ฉีเติ่งเสียนก็ถอดเสื้อโค้ทของตัวเองมาคุมให้เธอ และรวดกอดไว้ในอ้อมแขนแล้วพูดว่า "เมืองโมตูนี่ก็หนาวไปนะ เพราะอยู่ติดทะเลด้วย ชื้นมาก"
หยางกวนกวนตอบเสียงเบา เดินตามฉีเติ่งเสียนไปเหมือนรู้ตัวและไม่ได้ถามว่าไปไหนด้วยนะ
แอลกอฮอล์นี้ก็มีประโยชน์อยู่นะ กระตุ้นให้มีความกล้า และยังกระตุ้นอารมณ์บางอย่างได้ด้วย
ไตแกะย่างห้าไม้ที่ฉีเติ่งเสียนกินก็ยังพอช่วยได้บ้าง อีกอย่างวันนี้หยางกวนกวนก็ไม่ได้ขอให้ปิดไฟด้วย
เขารู้สึกว่าฝ่ามือบากัวที่ตัวเองซ้อมมาหลายปีไม่ได้ฝึกไปเสียเปล่า
คลื่นโหมกระหน่ำนั้น ไม่ใช่คนธรรมดาที่จะสามารถควบคุมได้
ยังดีที่เขาชื่อฉีเติ่งเสียน จะเป็นคนธรรมดาได้ไงกันล่ะ?
"เลขาหยางจะไปไหนเนี่ย นอนกับเจ้านายอีกสักพักสิ!" วันรุ่งขึ้น ฉีเติ่งเสียนตกใจตื่นเพราะหยางกวนกวนทำตัวหลบๆซ่อนๆจะลุกขึ้น เขายื่นมือจับเธอไว้และลากกลับมา
"ไปซ้อมนะสิ ไม่ได้ฝึกมาสองวันแล้ว!" หยางกวนกวนพูดอย่างจริงจัง "เรื่องแบบนี้มันต้องขยันพยายามถึงจะก้าวหน้า ฉันกําลังอยู่ในช่วงพัฒนา ล่าช้าไม่ได้เด็ดขาด!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...