มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 67

ผู้หญิงที่เก่งกาจมักจะเป็นศัตรูกับผู้หญิงที่เก่งกาจเหมือนกัน โดยเฉพาะผู้หญิงที่เก่งกาจในธุรกิจเดียวกัน

ใบหน้าของเซี่ยงตงฉิงเปลี่ยนไปทันทีที่เธอเห็นสวีเอ้าเสวี่ย เธอมีสีหน้าที่มีอึดอัดและมีความกังวลอยู่

สวีเอ้าเสวี่ยเดินมาด้านหน้าเซี่ยงตงฉิง ก่อนจะยื่นมือออกไปและยิ้ม: “คุณเซี่ยง ฉันต้องขอโทษจริงๆ ที่มาโดยไม่ได้รับเชิญ ได้โปรดอภัยด้วย!”

เซี่ยงตงฉิงจับมือกับสวีเอ้าเสวี่ยและพูดว่า: “ไม่เป็นไรค่ะ คุณสวีมาฉันก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ เพียงแต่ฉันแค่ไม่รู้ว่าคุณสวีรู้จักกับคุณหวังด้วย!”

สวีกรุ๊ปยังเป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงอย่างมาก

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เซียงตงชิงก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองไปที่ฉีเติ่งเสียน ก่อนหน้านี้ฉีเติ่งเสียนได้พูดไว้ว่าสวีกรุ๊ปก็จะเข้าสู่ตลาดด้วย ตอนแรกเธอคิดว่ามันเป็นแค่การตื่นตระหนก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นจริง

สวีเอ้าเสวี่ยและหวังหู่ไม่ใช่เพื่อนกันตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้ทั้งสองปรากฏตัวด้วยกันเพื่อให้ได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ

ต่างคนต่างเข้าใจถึงสถานะของกันและกัน ไม่ต้องพูดถึงมิตรภาพ เพราะความสัมพันธ์ที่มั่นคงที่สุดคือการมีจุดหมายเหมือนกันอย่างไม่ต้องสงสัย

“ไม่ทราบว่าคุณสวีมาทำอะไรที่จงไห่?” เซี่ยงตงฉิงถาม

“แน่นอน ฉันก็มาทําเงินนะสิ!” สวีเอ้าเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ: “คุณเซี่ยงถามอะไรแปลกๆ?”

ใบหน้าของเซี่ยงตงฉิงเคร่งขรึม แล้วพูดว่า: “คุณสวี การหาเงินในจงไห่ไม่ใช่เรื่องง่าย ระวังจะกระโดดลงไปในหลุมและปีนออกไม่ได้นะคะ!”

สวีเอ้าเสวี่ยพยักหน้าและพูดว่า: “ฉันจะจําคําพูดของคุณเซี่ยงไว้นะ แต่คุณเซี่ยงก็ไม่ควรดูถูกคนนอกอย่างพวกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉันที่มาจากเมืองหลวง!”

เมืองหลวงของประเทศ เป็นสถานที่หลบซ่อนตัวของคนที่มีพรสวรรค์และเก่งกาจอยู่

คำพูดของสวีเอ้าเสวี่ยนั้นราวกับว่าเธอตัดสินใจจะกินเค้กส่วนของเซี่ยงกรุ๊ปแล้ว

เซียงตงฉิงรู้สึกกดดันเป็นสองเท่าในชั่วขณะหนึ่ง อันที่จริงหวังหู่พูดถูกมันเป็นเรื่องยากสําหรับผู้หญิงฉลาดที่จะทําอาหารโดยไม่มีข้าว

แม้ว่าบริษัทจะถูกอยู่ในมือของผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินระดับโลกทั้งสองคนสําหรับการซื้อขาย แต่หากเงินทุนถูกผูกไว้ ไม่ว่าพวกเขาจะมีอํานาจแค่ไหนมันก็ไม่ช่วยอะไร

“ไม่คิดว่าคุณฉีเติ่งเสียนจะทํางานอยู่ในบริษัทของคุณ ช่างเป็นโชคชะตาอะไรเช่นนี้!”สวีเอ้าเสวี่ยยิ้ม

“คุณสวีรู้จักเขาด้วยเหรอ?” หวังหู่มองฉีเติ่งเสียนและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เซี่ยวตงฉิงก็ประหลาดใจเช่นกัน สวีเอ้าเสวี่ยเป็นคนเมืองหลวงและเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่ เธอจะรู้จักกับฉีเติ่งเสียนได้อย่างไร?

สวีเอ้าเสวี่ยพยักหน้าและพูดว่า: “บางทีพวกคุณอาจจะไม่รู้ คุณฉีเป็นคู่หมั้นเทพแห่งสงครามหญิงของประเทศจีนเรา อวี้เสี่ยวหลง…...”

“อะไรนะ!!!”

ทันทีที่สวีเอ้าเสวี่ยพูดออกมา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองฉีเติ่งเสียนด้วยความประหลาดใจอย่างมาก

แม้แต่เซี่ยงตงฉิงก็ยังตกตะลึง ในแววตาที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

อย่างไรก็ตามทุกคนก็รู้สึกเหลือเชื่อ แต่ฉีเติ่งเสียนไม่ได้แต่งงานแล้วเหรอ? แต่งกับเฉียวชิวเมิ่งประธานเฉียวกรุ๊ป

“สวีเอ้าเสวี่ย คุณกําลังหาเรื่องอยู่ใช่ไหม?!” ฉีเติ่งเสียนถามอย่างเย็นชาและหันกลับมาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ

เมื่อได้ยินฉีเติ่งเสียนเรียกชื่อของสวีเอ้าเสวี่ยแบบนั้น ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะหัวใจเต้นแรง

“ฉีเติ่งเสียนเป็นคู่หมั้นของพลโทอวี้เสี่ยวหลงจริงเหรอ? ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขากล้าหยิ่งผยอง ถ้ามีเบื้องหลังแบบนี้เขาสามารถทําอะไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ!”

“โอ้ พระเจ้า ดูเหมือนว่าสมาคมการค้ามังกรดําคงจะเทียบไม่ได้แล้ว……ถ้ามีพลโทอวี้สนับสนุนเขาอยู่แบบนี้ เขาจะต้องกลัวใครอีก?”

“ก็ใช่นะสิ พลโทอวี้เสี่ยวหลงนั้นไม่มีใครเทียบได้! ยิ่งกว่านั้น ตระกูลอวี้เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ ใครจะกล้ายั่วยุ?”

ทุกคนพูดด้วยเสียงต่ำ ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

สวีเอ้าเสวี่ยหยุดพูดไปอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้ฉีเติ่งเสียนและพูดว่า: “แน่นอน เขาเป็นเพียงแค่อดีตคู่หมั้น นายพลหญิงอวี้รู้สึกว่าคุณฉีไม่ใช่คู่ที่ดี และได้บอกเลิกสัญญาการแต่งงานไปแล้ว และทั้งสองก็ไม่มีความสัมพันธ์อะไรต่อกันอีก ขอทุกคนอย่าได้คิดอะไร!”

“เฮ้อ——”

ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรู้สึกสบายใจมาก

ฉีเติ่งเสียนในสายตาของพวกเขาช่างรังเกียจมาก ถ้าเป็นคู่หมั้นของอวี้เสี่ยวหลงจริงๆ มันคงจะน่าอิจฉาเกินไป!

“ฉันก็ว่าอยู่ นายพลหญิงอวี้จะไปชอบผู้ชายปากสวะและไม่มีความสามารถได้ยังไง อีกอย่างเขามันก็แค่ผู้คุมเรือนจำตัวน้อยๆ เหอะ!”

“อวี้เสี่ยวหลงเป็นถึงเทพแห่งสงครามหญิงในประเทศของเรา เธอเหมือนนางฟ้าบนดิน ฉันจินตนาการไม่ออกเลยว่าผู้ชายคนใดในโลกจะเหมาะสมกับเธอได้ ฉีเติ่งเสียน? มันก็แค่ขี้ก้อนหนึ่ง!”

“ฉันก็ตกใจเหมือนกัน คิดว่าคางคกสามารถกินเนื้อหงส์ได้ นายพลหญิงอวี้มองการณ์ไกลจริงๆ แตะไอ้ขยะนี่ออกไป ฮ่าฮ่าฮ่า……”

หลังจากได้ยินสวีเอ้าเสวี่ยพูดประโยคหลัง ก็ทำให้ทุกคนกระซิบกันอย่างมีความสุข

หลี่อวิ๋นหว่านอดไม่ได้ที่จะมองฉีเติ่งเสียนอย่างลึกซึ้ง ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอวี้เสี่ยวหลงนั้นน่าประหลาดใจจริงๆ

ฉีเติ่งเสียนมีสีหน้ามืดมนเล็กน้อย เขาแค่จะกินอาหารอร่อยๆ ในมื้อเย็นนี้แล้วกลับไปพักผ่อนอย่างมีความสุข ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้

เมื่อกี้สวีเอ้าเสวี่ยจงใจนําหัวข้อนี้มาพูดใส่เขาอีกครั้ง ซึ่งทําให้เขาไม่พอใจ

“นังผู้หญิงลิ้นยาว!” ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่ด่าเธอ

เมื่อทุกคนได้ยินคำนั้น ก็ทำให้เปลือกตาของพวกเขาเต้นกันอีกครั้ง

“ผู้ชายคนนี้คิดว่านายพลหญิงอวี้ยังไม่เตะเขาออกไปจากชีวิตอีกเหรอ? ถึงได้บ้าบิ่นกล้าพูดด่าคุณสวีแบบนี้!”

“คุณสวีและนายพลหญิงอวี้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เขาไม่กลัวที่จะถูกนายพลหญิงอวี้ฆ่าเขาเหรอ?”

“ยังดีที่คุณสวีอารมณ์ดีและไม่เอาเรื่องกับคนแบบนี้ ไม่อย่างนั้นเธอคงจะฆ่าเขาไปนานแล้ว”

ทุกคนดูถูกเหยียดหยามอยู่พักหนึ่งและรู้สึกว่าฉีเติ่งเสียนนั้นไม่มีความสามารถ ไม่มีเบื้องหลังสนับสนุนแล้วยังกล้าที่จะหยิ่งผยองและถ่มน้ําลายใส่ผู้คนได้อีก

ใบหน้าของสวีเอ้าเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะมืดมนและไม่พอใจ เธอพูดอย่างเย็นชาว่า: “นายกับอวี้เสี่ยวหลงอยู่กันคนละโลก นายยังเพ้อฝันอยู่อีกเหรอ?”

“ขนาดมาออกงานเลี้ยงแบบนี้ นายยังไม่มีแม้เสื้อผ้าดีๆใส่เลย นายควรเผชิญหน้ากับความเป็นจริงโดยเร็วที่สุดนะ”

“ดูนายแต่งตัวสิ สภาพน่ารังเกียจ น่าสงสารทําให้ผู้คนดูถูก”

ฉีเติ่งเสียนมองไปที่เธอและถามว่า: “เธอป่วยเหรอ? ฉันไม่ได้ยั่วยุเธอใช่ไหม? ถึงมาโจมตีฉันเหมือนคนโง่แบบนี้”

“แก——”สวีเอ้าเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะโกรธ

“ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ ถ้าเธอต้องการจะทําธุรกิจก็กลับไปทำที่เมืองหลวงโน้น อย่าคิดเอื้อมมือมาหาผลประโยชน์ที่จงไห่และคิดจะมาแบ่งเค้กชิ้นใหญ่ของเซี่ยงกรุ๊ปและหู่เหมินกรุ๊ป ถ้าเธอกล้าเอื้อมมือเข้ามา ฉันก็จะหักมือเธอเอง!”

“อย่าคิดว่าอวี้เสี่ยวหลงจะคอยช่วยเธอได้ ฉันก็สงสัยอยู่เหมือนกันนะว่าพวกเธออยู่ด้วยกันแล้วจะทำอะไรได้”

“ฉันจะบอกอะไรให้นะ ที่ฉันเข้ามายืนอยู่ในเซี่ยงกรุ๊ปได้อย่างรวดเร็วก็เพื่อจัดการอวี้เสี่ยวหลงและผู้หญิงปากมากอย่างเธอ”

“ฉันก็จะคอยดูว่า ต่อจากนี้ไปเธอยังกล้ามาดูถูกคนอย่างฉันอยู่ไหม”

ฉีเติ่งเสียนมองไปที่สวีเอ้าเสวี่ยอย่างเฉยเมยและพูดอย่างเย็นชาว่า: “นอกจากนี้ เธอยังโง่มากที่คอยเอาแต่เรื่องอวี้เสี่ยวหลงมาคุกคามฉัน”

“เธอเป็นคนบอกเองว่าฉันเป็นคนหยาบคาย ถ้าฉันไม่พอใจขึ้นมาจริงๆ ก็อาจจะจับเธอทุบกับพื้นสักยก เธอไม่อยากเสียโฉมใช่ไหม?”

คำพูดของฉีเติ่งเสียนทําให้ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นทั้งหมดเงียบลงทันที

นี่…...คือระเบิดจากท้องฟ้าใช่ไหม?!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง