มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 679

สรุปบท บทที่ 679 รุมกระทืบ: มังกรผู้ทรงพลัง

บทที่ 679 รุมกระทืบ – ตอนที่ต้องอ่านของ มังกรผู้ทรงพลัง

ตอนนี้ของ มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 679 รุมกระทืบ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกเหมือนมีเปลวไฟลุกโชนอยู่ในใจ แม้ว่าการทำลายโอเมนหน่วยหนึ่งทั้งหน่วยจะทำให้เขารู้สึกสดชื่น แต่พอกลับมาแล้วเห็นหยางกวนกวนถูกตบตีจนหูดับไปข้างหนึ่ง เขาก็รู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมา!

เพราะความเกลียดชังระหว่างเขากับกลุ่มเทควันโดไท่อี้เริ่มต้นมาจากฝีมือของนังซุนอิ่งซูนั่น!

ยิ่งไปกว่านั้น หันตงซานอะไรนี่กับหยางกวนกวนยังต่อสู้กันอย่างเปิดเผยยุติธรรม แม้ว่าหยางกวนกวนจะแพ้เขาก็คงไม่มีอะไรจะพูด

แต่นี่มีการใช้วิธีสกปรกด้วยการแทงไปที่ต้นขาของหยางกวนกวนจนเกิดเป็นบาดแผลขนาดใหญ่

แม้ว่าส่วนที่สวยที่สุดของหยางกวนกวนจะไม่ใช่ต้นขา แต่ฉีเติ่งเสียนก็ยังชอบต้นขาของเธอมาก!

ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ... หันตงซานสามารถหาที่อยู่ที่โมตูของหยางกวนกวนได้อย่างแม่นยำจากโคกูรยอ เห็นได้ชัดว่ามีคนให้ข้อมูลนี้กับเขา คนคนนั้นเป็นใคร ไม่ต้องคิดก็ยังรู้

“หาร่องรอยของไอ้หอกนี่และรีบกลับมารายงานฉัน ถ้ากล้าชักช้า ฉันจะกลับไปสับถึงโยวตู!” หลังจากวางสายโทรศัพท์ ฉีเติ่งเสียนก็สั่งให้คนไปตามหมาป่าโลภและเอ่ยอย่างโหดเหี้ยมทันที

“มีปัญหารึไง? ขอให้คนอื่นช่วยแล้วพูดอย่างนี้น่ะเรอะ!” หมาป่าโลภรู้สึกไม่พอใจทันที เขาเป็นคนอารมณ์ร้าย แม้แต่กับฉีปู้อวี่ก็ยังกล้า

“เฮอะๆๆ...” ฉีเติ่งเสียนหัวเราะอย่างเยียบเย็น

หมาป่าโลภได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเย็นวาบที่สันหลัง เขารีบเอ่ยทันทีว่า “ล้อเล่นน่ะ ผมจะช่วยคุณค้นหาเดี๋ยวนี้ ช่วยให้ผู้คุมพาผมไปใช้คอมพิวเตอร์ที่ออฟฟิศที”

ฉีเติ่งเสียนมุ่งตรงไปที่โรงแรม ถีบคนฆ่าสัตว์ ปีศาจราตรี และผีพยาบาทให้ลุกออกจากเตียง

“ไอ้บ้าเอ๊ย คนจะหลับจะนอนไม่ให้นอน ไม่รู้หรือไงว่ากูเหนื่อย” ปีศาจราตรีบ่นขึ้นมาเสียงดังอย่างอดไม่ได้

“หุบปากซะ อยากถูกฆ่ารึไง” คนฆ่าสัตว์รีบปิดปากหมอนั่นและตวาดเสียงลอดไรฟัน

เมื่อผีพยาบาทเห็นฉีเติ่งเสียน เขาก็หลับตาลงและขยับปากพึมพำว่า “อมิตาพุทธ”

ปีศาจราตรีเองก็เห็นสีหน้าอันเกรี้ยวกราดของฉีเติ่งเสียน เขาสะอึกไปหนึ่งทีและหัวเราะแหะๆ จากนั้นจึงเอ่ยยิ้มๆ ว่า “รองหัวหน้าใหญ่ มีเรื่องอะไรถึงได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแบบนี้ ใครมาแหย็มกับคุณ เดี๋ยวเราจะไปจัดการพวกมันเอง!"

ฉีเติ่งเสียนเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“รองหัวหน้าใหญ่ ไอ้หอกนั่นพักอยู่ที่โรงแรมเทียนตี้ หมายเลขห้อง 808” หมาป่าโลภรายงานอย่างกระชับตรงประเด็น

“ดีมาก!” ฉีเติ่งเสียนวางสายและหันไปสะบัดหน้าส่งสัญญาณให้ทั้งสามคน

ทั้งสามคนลุกไปแต่งตัวอย่างว่าง่ายและติดตามฉีเติ่งเสียนออกไป

ฉีเติ่งเสียนพาทั้งสามคนตรงไปที่ชั้นแปดของโรงแรมเทียนตี้โดยไม่พูดอะไรสักคำ เมื่อไปถึงก็ถีบประตูเสียงดังปังจนประตูหน้าเปิดออก

ขณะนั้นหันตงซานกำลังนอนอยู่บนเตียง เมื่อได้ยินเสียงดังเขาก็ตกใจ ผุดลุกจากเตียงทันที

“นั่นใครน่ะ!” หันตงซานถามอย่างมีโทสะ

“หันตงซานใช่ไหม” ฉีเติ่งเสียนเอียงคอและหรี่ตาซ้ายนิดหนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะ

“ใช่ ฉันเอง นายเป็นใคร” หันตงซานถาม

“แกใช้วิธีสกปรกสู้กับลูกศิษย์ของฉัน ตอนนี้ยังมาถามอีกหรือว่าฉันเป็นใคร” ฉีเติ่งเสียนถามกลับ

หันตงซานชะงักไป จากนั้นจึงหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยามและเอ่ยว่า “นายคืออาจารย์ฉีที่ทำร้ายเหยียนตงซวี่ศิษย์น้องของฉันน่ะหรือ? ฉันคิดว่านายก็แค่พวกที่ทำทุกวิถีทางเพราะอยากมีชื่อเสียง ทำไม ลูกศิษย์นายแพ้ก็เลยพาคนมาหาเรื่องงั้นสิ? กลัวว่านายคนเดียวจะสู้ฉันไม่ได้ ก็เลยพาลูกมือมาด้วยงั้นเหรอ”

คนฆ่าสัตว์และอีกสองคนตกตะลึง

ไอ้บ้านี่มันเป็นใคร สมองกลวงสุดๆ...

ไม่เห็นหรือไงว่าไฟโกรธแทบจะลุกโชนถึงหน้าผากของรองหัวหน้าใหญ่แล้ว ยังไม่คุกเข่าขอความเมตตาอีกเรอะ

ผีพยาบาทกล่าวว่า “อมิตาพุทธ คนผู้นี้ฆ่าไปก็โปรดสัตว์ไม่ได้ โง่เง่าเกินไป แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังไม่รับ!”

ฉีเติ่งเสียนหัวเราะใส่หันตงซานและเอ่ยว่า “แกคิดว่าฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแกงั้นเหรอ”

ปีศาจราตรียืนนิ่งไม่ไหวติง

หันตงซานกวาดเท้าไปได้ครึ่งทางก็หยุดลงอย่างฉับพลัน ขาหลังถีบตัวกระโดดขึ้นและหมุนตัวกลับกลางอากาศ ตวัด “ลูกเตะลมกรด” อันรวดเร็วดุดันไปที่คอของปีศาจราตรี!

“อ้าซงั้นเหรอ!” ปีศาจราตรีกระตุกมุมปาก ในระหว่างที่เขากำลังกลับตัว ปีศาจราตรีก็ย่อตัวลง โน้มไหล่ขึ้นข้างหนึ่งกระแทกไปที่หน้าท้องของหันตงซาน ทำให้เขากระเด็นออกไปทันที

ในขณะที่เขายังอยู่กลางอากาศ ผีพยาบาทก็พุ่งไปอยู่ที่ด้านหลังของเขาตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบ เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นมากดไหล่ของคู่ต่อสู้และจับตัวกระแทกลงกับพื้นเสียงดังปัง ใบหน้ากระแทกเข้ากับพื้นอย่างจังและดั้งจมูกก็หักทันที

จากนั้นทั้งสามคนก็รุมล้อมเข้ามาและรุมกระทืบหันตงซาน

หันตงซานกุมศีรษะของตัวเองเอาไว้และขดตัวเป็นลูกบอล กลิ้งไปมาอยู่บนพื้น

“ไอ้โง่เอ๊ย มาแหย็มกับรองหัวหน้าใหญ่ พาลทำให้พวกฉันไม่ได้หลับไม่ได้นอน!”

“ไอ้สวะ ไม่รู้หรือไงว่าพวกฉันเพิ่งไปสู้กลับมาแล้วก็เหนื่อยมาก”

“แกมันชั่ว ฉันจะกระทืบแกให้ตาย!”

ทั้งสามคนด่ากราดและรุมกระทืบไม่หยุด กระทืบปึงๆ ลงไปจนหันตงซานดิ้นไปไหนไม่ได้อีก

ในขณะที่ทั้งสามคนหอบหายใจเป็นพักๆ หันตงซานก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบาก ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด มองฉีเติ่งเสียนอย่างเคียดแค้นและเอ่ยว่า “นายมันไม่มีคุณธรรมในการต่อสู้”

“คุณธรรมในการต่อสู้? แกกล้าสอนฉันอย่างนั้นเหรอ สาธุ!” ฉีเติ่งเสียนยิ้มเยาะ

ปีศาจราตรีกระทืบลงไปอย่างมีความสุขและตวาดว่า “ยังมีแรงพูดอีกนะ!"

“คุณธรรมในการต่อสู้งั้นสินะ!” คนฆ่าสัตว์กระทืบลงไป

จนเมื่อฉีเติ่งเสียนตะโกนบอกให้หยุด หันตงซานก็หายใจรวยรินเต็มที บนเนื้อตัวของเขาเต็มไปด้วยรอยเท้าและรอยเลือด

ฝีเท้าที่กระทืบลงไปของสามคนนี้ก็ชั่วร้ายและทรงพลังมาก ถ้าไม่ใช่เพราะหันตงซานฝึกฝนการต่อสู้มานานหลายปี เขาคงจะถูกกระทืบจนตายไปนานแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง