ฉีเติ่งเสียนรู้สึกเหมือนมีเปลวไฟลุกโชนอยู่ในใจ แม้ว่าการทำลายโอเมนหน่วยหนึ่งทั้งหน่วยจะทำให้เขารู้สึกสดชื่น แต่พอกลับมาแล้วเห็นหยางกวนกวนถูกตบตีจนหูดับไปข้างหนึ่ง เขาก็รู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมา!
เพราะความเกลียดชังระหว่างเขากับกลุ่มเทควันโดไท่อี้เริ่มต้นมาจากฝีมือของนังซุนอิ่งซูนั่น!
ยิ่งไปกว่านั้น หันตงซานอะไรนี่กับหยางกวนกวนยังต่อสู้กันอย่างเปิดเผยยุติธรรม แม้ว่าหยางกวนกวนจะแพ้เขาก็คงไม่มีอะไรจะพูด
แต่นี่มีการใช้วิธีสกปรกด้วยการแทงไปที่ต้นขาของหยางกวนกวนจนเกิดเป็นบาดแผลขนาดใหญ่
แม้ว่าส่วนที่สวยที่สุดของหยางกวนกวนจะไม่ใช่ต้นขา แต่ฉีเติ่งเสียนก็ยังชอบต้นขาของเธอมาก!
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ... หันตงซานสามารถหาที่อยู่ที่โมตูของหยางกวนกวนได้อย่างแม่นยำจากโคกูรยอ เห็นได้ชัดว่ามีคนให้ข้อมูลนี้กับเขา คนคนนั้นเป็นใคร ไม่ต้องคิดก็ยังรู้
“หาร่องรอยของไอ้หอกนี่และรีบกลับมารายงานฉัน ถ้ากล้าชักช้า ฉันจะกลับไปสับถึงโยวตู!” หลังจากวางสายโทรศัพท์ ฉีเติ่งเสียนก็สั่งให้คนไปตามหมาป่าโลภและเอ่ยอย่างโหดเหี้ยมทันที
“มีปัญหารึไง? ขอให้คนอื่นช่วยแล้วพูดอย่างนี้น่ะเรอะ!” หมาป่าโลภรู้สึกไม่พอใจทันที เขาเป็นคนอารมณ์ร้าย แม้แต่กับฉีปู้อวี่ก็ยังกล้า
“เฮอะๆๆ...” ฉีเติ่งเสียนหัวเราะอย่างเยียบเย็น
หมาป่าโลภได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเย็นวาบที่สันหลัง เขารีบเอ่ยทันทีว่า “ล้อเล่นน่ะ ผมจะช่วยคุณค้นหาเดี๋ยวนี้ ช่วยให้ผู้คุมพาผมไปใช้คอมพิวเตอร์ที่ออฟฟิศที”
ฉีเติ่งเสียนมุ่งตรงไปที่โรงแรม ถีบคนฆ่าสัตว์ ปีศาจราตรี และผีพยาบาทให้ลุกออกจากเตียง
“ไอ้บ้าเอ๊ย คนจะหลับจะนอนไม่ให้นอน ไม่รู้หรือไงว่ากูเหนื่อย” ปีศาจราตรีบ่นขึ้นมาเสียงดังอย่างอดไม่ได้
“หุบปากซะ อยากถูกฆ่ารึไง” คนฆ่าสัตว์รีบปิดปากหมอนั่นและตวาดเสียงลอดไรฟัน
เมื่อผีพยาบาทเห็นฉีเติ่งเสียน เขาก็หลับตาลงและขยับปากพึมพำว่า “อมิตาพุทธ”
ปีศาจราตรีเองก็เห็นสีหน้าอันเกรี้ยวกราดของฉีเติ่งเสียน เขาสะอึกไปหนึ่งทีและหัวเราะแหะๆ จากนั้นจึงเอ่ยยิ้มๆ ว่า “รองหัวหน้าใหญ่ มีเรื่องอะไรถึงได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแบบนี้ ใครมาแหย็มกับคุณ เดี๋ยวเราจะไปจัดการพวกมันเอง!"
ฉีเติ่งเสียนเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“รองหัวหน้าใหญ่ ไอ้หอกนั่นพักอยู่ที่โรงแรมเทียนตี้ หมายเลขห้อง 808” หมาป่าโลภรายงานอย่างกระชับตรงประเด็น
“ดีมาก!” ฉีเติ่งเสียนวางสายและหันไปสะบัดหน้าส่งสัญญาณให้ทั้งสามคน
ทั้งสามคนลุกไปแต่งตัวอย่างว่าง่ายและติดตามฉีเติ่งเสียนออกไป
ฉีเติ่งเสียนพาทั้งสามคนตรงไปที่ชั้นแปดของโรงแรมเทียนตี้โดยไม่พูดอะไรสักคำ เมื่อไปถึงก็ถีบประตูเสียงดังปังจนประตูหน้าเปิดออก
ขณะนั้นหันตงซานกำลังนอนอยู่บนเตียง เมื่อได้ยินเสียงดังเขาก็ตกใจ ผุดลุกจากเตียงทันที
“นั่นใครน่ะ!” หันตงซานถามอย่างมีโทสะ
“หันตงซานใช่ไหม” ฉีเติ่งเสียนเอียงคอและหรี่ตาซ้ายนิดหนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะ
“ใช่ ฉันเอง นายเป็นใคร” หันตงซานถาม
“แกใช้วิธีสกปรกสู้กับลูกศิษย์ของฉัน ตอนนี้ยังมาถามอีกหรือว่าฉันเป็นใคร” ฉีเติ่งเสียนถามกลับ
หันตงซานชะงักไป จากนั้นจึงหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยามและเอ่ยว่า “นายคืออาจารย์ฉีที่ทำร้ายเหยียนตงซวี่ศิษย์น้องของฉันน่ะหรือ? ฉันคิดว่านายก็แค่พวกที่ทำทุกวิถีทางเพราะอยากมีชื่อเสียง ทำไม ลูกศิษย์นายแพ้ก็เลยพาคนมาหาเรื่องงั้นสิ? กลัวว่านายคนเดียวจะสู้ฉันไม่ได้ ก็เลยพาลูกมือมาด้วยงั้นเหรอ”
คนฆ่าสัตว์และอีกสองคนตกตะลึง
ไอ้บ้านี่มันเป็นใคร สมองกลวงสุดๆ...
ไม่เห็นหรือไงว่าไฟโกรธแทบจะลุกโชนถึงหน้าผากของรองหัวหน้าใหญ่แล้ว ยังไม่คุกเข่าขอความเมตตาอีกเรอะ
ผีพยาบาทกล่าวว่า “อมิตาพุทธ คนผู้นี้ฆ่าไปก็โปรดสัตว์ไม่ได้ โง่เง่าเกินไป แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังไม่รับ!”
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะใส่หันตงซานและเอ่ยว่า “แกคิดว่าฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแกงั้นเหรอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...