หลี่อวิ๋นหว่านไม่ต้องคิด ก็รู้ เจียงซานไห่รองนายหางเสืออะไรนี้ต้องซวยแน่นอน
เพียงแต่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ แค่ฉีเติ่งเสียนไม่พัวพันมาถึงแม่ของตัวเอง ทุกอย่างก็ไม่เป็นไร
มองเห็นหลี่อวิ๋นหว่านหน้าตาสดใส และยังใส่ถุงน้องสีดำ ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่ทอดถอนใจ นิสัยเฉพาะตัวของผู้หญิงคนนี้ ทำให้เอวของผู้ชายต้องทำงานหนักจริงๆ…
เขาคิดว่า หลี่อวิ๋นหว่านมาโมตูครั้งนี้ ก็คือมายั่วยวนเขา
ทั้งสองคนถือของขวัญชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ ตรงไปที่บ้านซ่งจือเหมย
ซ่งจือเหมยเป็นรองนายหางเสือของโมตูหลงเหมิน แน่นอนว่าต้องมีเงินและอำนาจ อยู่ในหมู่บ้านที่หรูหรา หนึ่งตารางเมตรราคาสองแสนหยวน รวมสองร้อยตารางวา
“ติ่งต๊อง!”
กริ่งหน้าประตูถูกนิ้วมือเรียวยาวของหลี่อวิ๋นหว่านกด
ประตูใหญ่เปิดออก แต่คนที่เปิดประตูไม่ใช่ซ่งจือเหมย แต่เป็นหญิงวัยกลางคนผมสั้น
“หลี่อวิ๋นหว่านกับฉีเติ่งเสียน?รีบเข้ามา ฉันคือเหวยฮว่าเหมยเพื่อนของแม่เธอ”หญิงวัยกลางคนยิ้มและหลีกทางให้ ทั้งสองคนก็พูดแนะนำตัวอย่างเรียบง่าย
หลี่อวิ๋นหว่านยิ้มและพูด“ฉันรู้จักคุณ คุณคือที่ปรึกษาทางการทหารของแม่ฉัน วางแผนการให้เธอบ่อยๆ!ครั้งแรกที่เจอกัน ก็ให้คำชี้แนะด้วย”
เหวยฮว่าเหมยยิ้มและพูด“ที่ปรึกษาทางการทหารอะไรล่ะ ก็แค่เลขาเท่านั้นเอง ไม่ต้องเกรงใจ”
ทำให้หลี่อวิ๋นหว่านประหลาดก็คือ ซ่งจือเหมยเข้าครัวทำกับข้าวด้วยตัวเอง
“แม่เธอรู้ว่าเธอจะมา ดังนั้นจึงเข้าครัวเอง”เหวยฮว่าเหมยพูด
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็โชคดีมาก”หลี่อวิ๋นหว่านก็พูด
ซ่งจือเหมยเห็นคนมาแล้ว ก็ยิ้มและเช็ดมือ เดินออกมาจากห้องครัวและพูด“อวิ๋นหว่าน เสี่ยวฉี พวกเธอนั่งก่อน ฉันใกล้จะทำเสร็จแล้ว อีกเดี๋ยวยังมีแขกสองคนมาเยี่ยมเยียน”
ฉีเติ่งเสียนนำของขวัญวางลง ก็พูดทักทายซ่งจือเหมย และนั่งรอบนโซฟากับหลี่อวิ๋นหว่าน
เหวยฮว่าเหมยเสิร์ฟชาให้พวกเขาทั้งสองคน ก็เข้าไปช่วยซ่งจือเหมยในห้องครัว
“คุณฉี คุณคิดว่าถ้าแม่รู้ว่าคุณเป็นนายหางเสือของโมตูหลงเหมินแล้ว จะตกใจจนอ้าปากค้างไหม”หลี่อวิ๋นหว่านอดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูด
“ฉันเคยไตร่ตรองแล้ว ถึงเวลานั้นจะนำอำนาจมอบให้แม่เธอ ถึงยังไงก็เป็นคนในครอบครัว อีกทั้ง ฉันไม่ได้สนใจกับนายหางเสือของโมตูหลงเหมิน”ฉีเติ่งเสียนพูด
หลี่อวิ๋นหว่านได้ฟังคำพูดนี่ ในใจก็ยิ่งได้รับประโยชน์มากขึ้น ในขณะที่คิดว่าฉีเติ่งเสียนไม่สนใจอำนาจเล็กน้อยนี้ อีกด้านหนึ่งก็คิดว่าเขาให้ความสำคัญกับตัวเอง ยอมช่วยซ่งจือเหมย
ไม่นาน ซ่งจือเหมยก็ออกมาจากในห้องครัว มอบงานให้กับเหวยฮว่าเหมยทำต่อไป
ซ่งจือเหมยยิ้มและพูด“อวิ๋นหว่านรูปร่างผมเกินไปแล้ว ต้องดินเนื้อเยอะๆ”
หลี่อวิ๋นหว่านก็กลอกตามองบน ในชีวิตของคุณ มักจะมีแม่ที่รังเกียจว่าคุณกินน้อย
“เสี่ยวฉี พวกเราเคยเจอกันแล้ว นายก็ไม่พูดว่าจะมาหาฉัน รู้สึกว่าไม่ค่อยดีเถอะ”ซ่งจือเหมยพูด
“น้าซ่ง ผมก็คือรอหลี่อวิ๋นหว่านมาหาคุณพร้อมกันไหม?”ฉีเติ่งเสียนยิ้มและพูด
ก่อนหน้านี้เขากับซ่งจือเหมยเคยมีเรื่องบาดหมางกัน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะหายไปแล้ว แต่ถ้ามาเยี่ยมเยียนคนเดียว ก็ต้องหลีกเลี่ยงความเก้อเขินไหม?
หลี่อวิ๋นหว่านก็พูด“อีกเดี๋ยวมีแขกที่ไหนมาเหรอ?”
ซางฉวนจิงหวู่ได้ยินว่าฉีเติ่งเสียนเป็นลูกเขยของซ่งจือเหมย ก็สีหน้ายิ่งแย่ลง ก็หันไปพูดกับหลิวจงเหยียนซุ่ย“อาจารย์ ก็คือหมอนี่ที่ทำลายเรื่องของพวกเรา มิยาซากิ จินโซ ก็เป็นเขาที่เรียกมา!”
หลิวจงเหยียนซุ่ยพยักหน้าอย่างใจเย็น ชำเลืองมองฉีเติ่งเสียน หลังจากนั้นก็เพิกเฉย
คิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีลมปราณดี แต่หายใจไม่มั่นคง หัวใจเต้นอ่อนแรง ถึงแม้ว่าจะมีทักษะการต่อสู้ แต่ไม่ใช่คนที่มีฝีมือสูง ครึ่งหนึ่งเพราะว่าผู้หญิงล้วงไปหมดแล้ว
ก็ไม่แปลกใจที่เขาจะคิดแบบนี้ ถึงยังไงฉีเติ่งเสียนก็ได้รับบาดเจ็บ และหลี่อวิ๋นหว่านที่นั่งอยู่ด้านข้างเขาก็ยังปล่อยไก่ ถุงน่องสีดำและเรียวขาที่ยาว เกรงว่าผู้ชายคนไหนก็อดใจไม่ที่จะมอง
“คุณซางฉวนมีเรื่องบาดหมางกับลูกเขยฉัน?ฮ่าฮ่า ก็ไม่ต้องตื่นเต้น วันนี้ทุกคนนั่งกินข้าวด้วยกัน ก็ไม่เป็นไรแล้ว”ซ่งจือเหมยพูดพลางลุกขึ้นยืน
ฉีเติ่งเสียนจึงยิ้มให้กับหลิวจงเหยียนซุ่ย กลับถูกปรมาจารย์คนนี้มองข้าม ไม่แม้แต่จะมองเขา ไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตา
หลี่อวิ๋นหว่านอดไม่ได้ที่จะพูดเสียงเบา“คุณมีเรื่องบาดหมางกับคนเจียเผิงสองคนนี้?”
ฉีเติ่งเสียนพูด“มีเรื่องนิดหน่อย ไม่ต้องสนใจ ดูว่าพวกเขามาด้วยจุดประสงค์อะไรแล้วค่อยว่ากัน”
ซางฉวนจิงหวู่ยังอยากจะพูดอะไร หลิวจงเหยียนซุ่ยกลับยื่นมือออกมากดไหล่เขา และพูด“นั่งกินข้าวก่อนเถอะ”
หลิวจงเหยียนซุ่ยสีหนาแข็งทื่อ มีอีกข้างก็วางของขวัญลง ไม่เปิดปากพูด
ซ่งจือเหมยอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าเพื่อนคนสำคัญที่จะร่วมมือด้วย จะมีเรื่องบาดหมางกับฉีเติ่งเสียน หวังว่าจะไม่ทำลายเรื่องดีเถอะ…
ซ่งจือเหมยอยากจะได้ตำแหน่งนายหางเสือโมตูหลงเหมิน พึ่งพาฐานะของตัวเองก็ยังไม่พอ ยังต้องพึ่งพาอำนาจอื่น และเหยียนซุ่ยหลิวคืออำนาจอื่นที่ดีที่สุด
หลังจากที่สองสามคนนั่งลงบนโต๊ะกินข้าว ซ่งจือเหมยก็ยกแก้วเหล้าขึ้น และพูด“ยินดีต้อนรับทั้งสองท่านที่มาเป็นแขกที่บ้านฉัน”
ฉีเติ่งเสียนยิ้มตาหยีและพูด“ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...