“น้องชายคุณคิดว่าควรทำยังไงดี?ถ้าหากวันนี้ไม่ใช่ฉัน คุณอยากเป็นอิสระ เกรงว่ามันจะยากแน่นอน!”
“พวกเขารู้ภูมิหลังของคุณ อีกทั้งยังใช้วิธีเลวทรามชั้นต่ำเพื่อยัดขอกลางใส่ร้ายคุณ นั่นมันต้องมีการเตรียมวิธีการณ์ที่สมบูรณ์มาในตอนแรกแล้ว”
“นายพลอวี้เคยพูดกับฉัน คุณเป็นคนที่จะไม่ยอมเสียเปรียบใดๆเลย”
ลู่จ้านหลงหันหัวไปมองฉีเติ่งสียน อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม
ในเกมนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อเขาโดยเฉพาะ มันเป็นเพียงแค่การเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับเขา เหตุการณ์วุ่นวายมาจนถึงจุดนี้ ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
จ้าวมั่นเอ๋อร์เป็นคนที่อ่อนไหว เป็นคนของตระกูลจ้าว ลู่จ้านหลงเป็นฝ่ายกลางของสำนัก ก็ไม่ควรที่จะไปหาเขาเพื่อแสดงความยุติธรรมอะไรทำนองนั้น
ถ้าหากคุณจะไปสร้างความวุ่นวายให้จ้าวมั่นเอ๋อร์อีก นั่นยากที่จะเหลียกเลี่ยงการสงสัยของผู้คนว่าเขาได้ไปยืนอยู่ข้างกับฝ่ายอวี้เสี่ยวหลงโดยสมบูรณ์หรือไม่
ฉีเติ่งเสียนได้ยินคำพูดของลู่จ้านหลง อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น เอ่ย:“อวี้เสี่ยวหลงให้ค่าฉันขนาดนี้?ดูเหมือนว่า ฉันในสายตาของเขา มันไม่ได้ทิ้งความประทับใจที่ดีเลยล่ะ!”
ลู่จ้านหลงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดขึ้นมา:“ถึงแม้การตีค่าคุณสมบัติผู้คนของนายพลอวี้จะไม่ดี แต่ทว่าพลังกังฟูของคุณเขากลับชมไม่ขาดปาก”
ฉีเติ่งเสียนกลอกตาไปมาอย่างรุนแรง คิดไม่ถึงว่าคนที่เย็นชาอย่างอวี้เสี่ยวหลง จริงๆแล้วเธอเป็นผู้หญิงช่างพูดที่ชอบนินทาลับหลัง!
“จ้าวม่านเอ๋อร์คนนี้เวลาทำการใดไม่สนกฎเกณฑ์ จัดการกับเขาโดยตรงเถอะ!” หยางกวนกวนจู่ๆก็พูดอย่างตื่นเต้นขึ้นมา
“คุณอย่าทำร้ายคน!”ฉีเติ่งเสียนเหลือบมองเขาอย่างดุร้าย
จัดการจ้าวม่านเอ๋อร์ จะทำยังไงถ้าไปยั่วยุจ้าวหงซิ่ว?
ตอนนี่สภาพร่างกายของเขา ยังไม่ได้ฟื้นฟืนกลับมาจนถึงที่สุด ไม่อยากที่จะปะทะกับจ้าวหงซิ่ว
อีกอย่าง ตามสถานการณ์ปัจจุบันนี้ เขาต่อสู้กับจ้าวหงซิ่วและทั้งสองได้รับบาดเจ็บ มันไม่ได้มีผลดีอะไรกับเขาเลย
ฉีเติ่งเสียนพูด:“แต่ทว่า จ้าวม่านเอ๋อร์ยังกล้าใส่ร้ายฉัน แค่คำเตือนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว!”
ลู่จ้านหลงหัวเราะไปพูดไป:“อย่างงั้นก็เป็นรื่องของคุณเองแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วล่ะก็ ฉันขอตัวก่อน วันหลัง พวกเราค่อยรวมตัวกันใหม่!”
หยางกวนกวนพูด:“พี่ใหญ่ลู่เดินทางให้ระมัดระวัง”
ลู่จ้านหลงยกมือโบกลา ต่อมาฉีเติ่งเสียนอยากที่จะไปหาเรื่องจ้าวม่านเอ๋อร์ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเขาแล้ว
ฉีเติ่งก็โทรหาเบอร์โทรศัพท์ของเจิ้งโหยวปินโดยตรง เอ่ยถาม:“น้องจิ้ง คนล่ะอยู่ที่ไหน?”
เจิ้งโหยวปินพูด:“ประธานฉี มีอะไร?เกิดเรื่องอะไรขึ้น?ฉันอยู่ข้างในคาสิโนน่ะ......”
ฉีเติ่งเสียนพูด:“จ้าวม่านเอ๋อร์อยู่ที่ไหน?เขาพึ่งจะให้คนมาใส่ร้ายฉัน ตอนนี้ฉันคิดว่าจะไปจัดการสักหน่อยล่ะ”
เจิ้งโหยวปินรู้สึกยินดีอย่างยิ่งเมื่อได้ยินสิ่งนี้ พูดเบาๆ: “จ้าวม่านเอ๋อร์อยู่ที่คาสิโน!”
ฉีเติ่งเสียนหรี่ตาและพูดต่อ:“คาสิโนถูกกฎหมาย หรือว่าคาสิโนใต้ดินล่ะ?”
“คาสิโนใต้ดินอา......ทรัพยากรที่ยืมมาจากตระกูลเย่เมืองจิงเต่า ร่วมมือกันเปิดขึ้นมา กิจการเปิดมาได้สองปีกว่าแล้ว ที่อยู่ก็อยู่ที่ตระกูลเจิ้งของพวกเราที่เปิดโรงแรมอย่างถูกกฎหมายชั้นใต้ดินชั้นสาม
“คาสิโนใต้ดินประเภทนี้ ถ้าหาต้องการเข้ามา มันต้องการบัตรสมาชิกหรือว่ารหัสลับอะไรพวกนั้นมั้ย?”ฉีเติ่งเสียนเอ่ยถาม
“ง่ายมาก......หลังจากที่คุณถึงโรงแรมแล้ว ซื้อไวน์แดงแห้งบอกร์โดซ์ปีหนึ่งเก้าแปดแปดหนึ่งขวดที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ หลังจากนั้นหยิบไวน์แดงเข้าไปในลิฟต์ของพนักงานจัดการก็ได้แล้ว”เจิ้งโหยวปินพูด
มีเสียงอ้อขึ้นมาจากฉีเติ่งเสียน จ้าวม่านเอ๋อร์นี่มันเก่งมากในการทำสิ่งต่างๆนะเนี่ย......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...