ฉีเติ่งเสียนพาหยางกวนกวน ค่อยๆเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง
“คุณผู้ชาย ชั้นสองที่นี่ ห้ามเข้าถ้าไม่ได้รับเชิญ!”คนใส่ชุดสีดำยื่นมือออกมาหยุดเส้นทางของพวกเขาสองคน พูดอย่างเย็นชา
“อ้อ......ฉันมาหาจ้าวม่านเอ๋อร์ ”ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างสบายๆ
“ทุกวันก็มีคนมาหาคุณนายจ้าว แต่ว่าถ้าไม่มีคำสั่งของคุณนายจ้าว พวกเราไม่สามารถปล่อยคนเข้าไปได้”คนที่สวมชุดดำพูดและส่ายหัว
ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้ว แล้วเข้าไปใกล้าเขา หลังจากนั้นยื่นมือ เขาหยิบปืนพกขึ้นมาจากเอวของเขา และยิ้มเหมือนไม่ได้ยิ้มพูด:“พาพวกเราเข้าไป!”
สีหน้าของคนชุดดำแข็งทื่อทันที และพูด:“คุณชาย คุณรู้มั้ยว่าถ้าหากใช้อาวุธที่นี่ จะมีผลตามมายังไงไหม?”
ฉีเติ่งเสียนไม่พูด ลั่นไกลยิงไปที่ท้องเขาของเสียงดังปัง
คนชุดดำนี้กรีดร้อง เจ็บทรมานล้มไปบนพื้น จับไปที่ท้องและกลิ้งไปมาไม่หยุด
เสียงปืนที่ดังขึ้นนี้ ก็ทำให้ผู้คนในสนามทั้งหมดตกใจ!
พวกเขาแต่ละคนหยุดการพนัน หันหัวมามอง มองฉีเติ่งเสียนด้วยความตกใจและหวาดกลัว
เจิ้งโหยวปินมองอยู่ที่ชั้นสอง ตาค้างไปในทันที เขารู้ว่าเขาจะมาหาเรื่องจ้าวม่านเอ๋อร์ แต่คิดไม่ถึงว่าจะใช้วิธีการที่ป่าเถื่อนและง่ายขนาดนี้......
หยางกวนกวนยืนเอ๋อไปแล้วข้างๆ หลังจากนั้นก็ตื่นเต้น นี่มันน่าตื่นเต้นกว่าที่ตัวเองจินตนาการไว้อีกล่ะ!
แต่ทว่า เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม:“สิ่งนี้คุณนับว่าเป็นการทำร้ายผู้บริสุทธิ์หรือไม่?”
ฉีเติ่งเสียนพูดสบายๆ:“ไอ้นี่มันเคยฆ่าคน มันเป็นสุนุขดุร้ายของจ้าวม่านเอ๋อร์ ไม่นับว่าเป็นผู้บริสุทธิ์”
จ้าวม่าเอ๋อร์ก็ถูกเสียงปืนทำให้ตกใจ ยืนขึ้นมาจากโซฟาทันที โมโหและตะโกนว่า:“ใครกัน ใครกล้าใช้ปืนในสถานที่ของฉัน ไม่รู้กฎของฉันหรอกหรอ?!”
เขาโมโหทันที และพาลูกน้องของเขาสองสามคนวิ่งออกมาด้วยท่าทางที่ดุดันในขณะที่โกรธ เดินลงบันไดมาเพียงสองก้าว ก็เห็นฉีเติ่งเสียนที่ถือปืนอยู่ในมือนั้น
ฉีเติ่งเสียนเงยหัวขึ้น เผชิญหน้ากับใบหน้าและดวงตาที่ประหลาดของจ้าวม่านเอ๋อร์ ยิ้มและพูด:“คุณนายสาม ไม่ได้เจอกันนานนะ! คิดถึงฉันมั้ย?”
จ้าวม่านเอ๋อร์มองไปที่เขาเหมือนกับเจอผีอย่างงั้น แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เขาไม่ได้คิดว่า ฉีเติ่งเสียนจะมาที่นี่จริงๆ!
หลังจากที่รู้ว่าสือห้าวเกี่ยวข้องกับลู่จ้านหลง เขาก็รู้ว่ารื่องนี้ไม่มีทางที่จะจัดการสำเร็จแล้ว ชื่อเสียงของลู่จ้านหลงในกรมยุทธการนั้นสูงเกินไปแล้ว ใครกล้าแตะตองเขา อย่างงั้นก็ต้องเผชิญหน้ารับผลที่ตามมาของการที่นักสู้ระดับต่ำจำนวนมากที่อดทนต่อความเกรี้ยวโกรธ!นอกจากจะด่าว่าสือเจี๋อเป็นไอ้โง่เง่าแล้ว จ้าวม่านเอ๋อร์ก็ไม่มีทางอื่นที่จะระบายความโกรธของเธอได้อีกแล้ว
“ฉีเติ่งเสียน คุณไอ้คนที่ทำเลวอย่างไม่ยำเกรงต่อสิ่งใด นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าใช้ปืนในนี้!คุณรู้ว่ามันจะมีผลตามมายังไงมั้ย?”จ้าวม่านเอ๋อร์เสียงโมโหและพูดถาม
“ปัง!”
ฉีเติ่งเสียนยกมือ เขายิงไปที่ขั้นบันใดของจ้าวม่านเอ๋อร์
นี่ทำให้จ้าวม่านเอ๋อร์ตกใจจนเกือบจะล้มลงไปกับพื้น ในแววตาเต็มไปด้วยความช็อก
ฉีเติ่งเสียนยักยักไหล่ พูด:“ตอนนี้พวกคุณไม่ควรถามคำถามไร้สาระอย่างเช่นผลที่จะตามมาอีกแล้วใช่มั้ย?”
จ้าวม่านเอ๋อร์สีหน้าเขียว เล็บที่หลังจากกำหมัด แทบจะฝังเข้าไปอยู่ในเนื้อแล้ว
“ไอ้นี่มันเป็นใครกัน นึกไม่ถึงว่าจะกล้าใช้ปืนในสถานที่ของคุณนายสาม ไม่อยากอยู่แล้ว?”
“ไม่ใช่เป็นเพียงแค่กล้าหาญธรรมดา เดาว่าต้องเป็นคนที่มีเบื้องหลังด้วย......แต่ทว่า ก่อเรื่องขนาดนี้ ต่อให้มีเก้าชีวิตก็ไม่พอแล้วล่ะ!”
“เล่นไพ่เล่นไพ่ คนที่อยากตายพวกนี้ อีกสักพักก็จะมีอีกสองสามคนตามมา ไม่ต้องไปสนใจเขา”
หลังจากที่ทุกคนมองไป ต่างคนต่างประหลาดใจ บางคนก็ไม่ได้ประหลาดใจ ตะโกนให้นักพนันโต๊ะเดียวกันเล่นไพ่กันต่อ
ถ้าหากว่าทนปล่อยให้คนอื่นอวดอำนาจด้วยปืนและทำเป็นเจ๋งที่นี่ จ้าวม่านเอ๋อร์คงให้ลูกน้องไปจัดการเขาตั้งแต่แรกแล้ว
แต่ฉีเติ่งเสียนไม่เหมือกัน ยังไงก็ตามตัวตนนั้นยังมีพลังที่จะสงบสิ่งต่างๆได้ จ้าวม่านเอ๋อร์ไม่อยากที่จะเข้าไปที่การเมืองสักสองสามวันอีกต่อไป
ฉีเติ่งเสียนก็ได้เดินขึ้นบันไดไป เดินไปและเอ่ยว่า:“คุณนายสามคุณคงไม่คิดว่าตัวเองที่มาใส่ร้ายฉันแบบนี้ ฉันจะปล่อยมันไปง่ายๆล่ะ? ขอโทษด้วยนะ ฉันเป็นคนที่ขี้เหนียวมาก มีจิตใจที่ต้องแก้แค้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...