มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 800

สำหรับหยางกวนกวนแล้ว วันนี้เป็นวันที่จิตใจเร่าร้อนฮึกเหิม

แต่สำหรับซุนอิ่งซูแล้ว วันนี้เป็นวันที่เศร้าหมองที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

เขากำลังจะเผชิญหน้ากับสถาการณ์ที่ยากลำบากในเวลาต่อมา สิทธิ์ในการควบคุมตลาดส่วนใหญ่ในประเทศหัวกั๋วจะเปลี่ยนไปอยู่ในมือของหลี่จุ้นหยาน ถึงเวลานั้น ตระกูลชุยคุงจะไม่ปล่อยให้โอกาสที่จะทำลายเธอนี้หลุดลอยไป

ขณะที่เขากำลังนั่งไปที่บนโซฟาถึงขนาดรู้สึกเคว้งคว้าง

ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองจะต้องยึดเอาทรัพย์สมบัติที่ไม่ใช่ของตัวเองตั้งแต่แรก หลังจากนั้น ทำให้ตัวเองเต็มไปด้วยรอยแผล ถึงขนาดที่ว่าแม้แต่เพื่อนที่เชื่อใจได้สักคนก็ยังไม่มี

“ใช่แล้ว เพื่อนไง......”ซุ่นอิ่งซูพึ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้ จะโทรศัพท์หาใครบางคนพอดี คนที่เธอคิดถึงก็ได้เดินเข้ามาในห้องแล้ว

คนที่มากลับไม่ใช่ฉีเติ่งเสียน แต่กลับเป็นเพื่อนที่คอยช่วยเหลือเธออยู่เสมอพร้อมทั้งการออกความเห็น สวีซูซิ่ว

หลังจากที่ซุนอิ่งซูเห็นสวีซูซิ่วแล้ว อดไม่ดี่จะถอนหายใจ เอ่ย：“ซูซิ่ว ฉันถูกฉีเติ่งเสียนทำให้เจอความยากลำบากซะแล้ว ฉันสงสัยว่าเขาอาจะตกลงอะไรกับสักคนสำเร็จไปแล้ว ตอนนี้ฉันควรจะทำยังไงดี？”

สวีซูซิ่วเป็นผู้หญิงวัยสาวที่อายุใกล้เคียงกับซุ่นอิ่งซู ส่ายส่ายหัวและ พูด：“สถาการณ์ในตอนนี้สำหรับคุณ มองโลกในแง่ร้ายเกินไปแล้ว

แน่นอนว่าซุนอิ่งซูเข้าใจดีว่าสถานการณ์นี้ทำให้เขามองโลกในแง่ร้ายจนถึงที่สุด ตระกูลชุยใช้สถานการณ์บีบคั้น เขากำลังจะสูญเสียสิทธิในการคุบคุมตลาดในประเทศหัวกั๋ว

แค่ตลาดหนานยางของตระกูลเฉินที่เดียว ไม่สามารถสสนับสนุนสถานการณ์ในตอนนี้ของเขาได้อีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น เฉินกรุ๊ปกำลังปล่อยข่าวอื้อฉาวในประเทศหัวกั๋ว พวกเขาเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายแล้ว

“พวกผู้ชายกลุ่มนี้ มันไม่สามารถเชื่อถือได้จริงๆ ฉันเคยคิดว่า เป็นเพื่อนของฉันแล้ว ”ซุนอิ่งซูพูดและถอนหายใจ

“คุณเป็นถึงแม่หม้าย และยังมีสิทธิในทรัพย์สิน พวกผู้ชายก็คิดแค่อยากที่จะหลอกใช้คุณ จะเอาคุณมาเป็นเพื่อนได้ยังไง？”สวีซูซิ่วพูดและส่ายหัว

ซุนอิ่งซูยกคิ้วของตัวเอง พูด：“ตอนนี้ฉันงงงววยไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี คุณมีความคิดเห็นอะไรมั้ย？”

สวีซูซิ่วพูด：“ฉันมาที่นี่ ก็เพื่อที่จะคิดหาหนทางให้คุณ

ซุ่นอิ่งซูเสียงอืม และพูดว่า：“ถ้าอย่างงั้นคุณพูดมา ฉันควรทำยังไง？”

สวีซูซิ่วยิ้มและพูด：“จริงๆแล้ว มันก็ไม่ได้ยากมาก！”

ซุนอิ่งซูพูด：“อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม！”

“หลี่จุ้นหยานต้องการที่จะยึดสิทธิในการคุบคุมประเทศหัวกั๋วของคุณ และตระกูลเจียก็ไม่คิดที่จะหยุดในการขับไล่คุณให้ลงจากตำแหน่งสูง......อย่างงั้น คุณสู้แต่งงานกับหลี่จุ้นหยานก็ได้แล้ว ตั้งแต่นี้ไป ร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่ง ตระกูลชุยไม่สามารถทำอะไรคุณได้แล้ว ในขณะเดียวกันคุณก็มีความสามารถพอที่จะรักษาทรัพย์สินไว้ ！”สวีซูซิ่วมองไปที่ซุ่นอิ่งซู เสนอวิธีที่เขาไม่มีทางยอมรับมันได้ตั้งแต่แรก

หลังจากได้ยินคำนี้ สีหน้าของซุนอิ่งซูซีดขึ้นมาแล้ว พูด：“ซูซิ่ว คุณหมายความว่ายังไง？หลี่จุ้นหยานมันเป็นคนยังไง คุณก็เข้าใจดี แต่ตอนนี้ กำลังผลักฉันเข้าไปในกองไฟ？”

สวีซูซิ่วพูด：“คุณเพียงแค่ใช้ตำแหน่งและอำนาจอิทธิพลของเขา จะไปสนใจว่าเขาเป็นคนยังไงทำไม？ คุณแต่งงานกับเขา เขามาสารถช่วยคุณได้ อีกอย่าง ตั้งแต่นี้ไป พวกคุณก็เป็นตระกูลเดียวกัน ตระกูลหลี่ก็คงจะไม่นั่งดูดายปล่อยให้ตระกูลชุยมายุ่งกับคุณอีก”

“ตระกูลชุย จะตามจังหวะของคุณ และล้มลงในที่สุด”

“คุณเป็นแม่หม้ายมาหลายปีแล้วขนาดนี้ ก็ได้ทำดีที่สุดสำหรับตระกูลชุยแล้ว”

ซุนอิ่งซูส่ายหัวพูด：“ไม่ได้ ฉันไม่ใช่คนประเภทที่จะเอาของพวกนี้ ยอมที่จะเสียสละตัวเองทั้งหมดแบบนั้น ฉันจะไม่จมลงไปถึงระดับแบบนี้หรอก”

สวีซูซิ่วกลับหัวเราะเยาะ และพูด：“อิ่งซู คุณเลิกทำตัวเป็นเด็กไร้เดียงสาแบบนี้ได้แล้ว？ไม่มีอำนาจทรัพย์สินแล้ว คุณก็ไม่มีอะไรเลย！อีกอย่างคนที่ติดตามคุณมากมายขนาดนี้ หรือว่าคุณอยากจะทำให้พวกเขาผิดหวังใช่ไหม？”

ทัศนคติของซุนอิ่งซูยังติดสินใจแน่วแน่เหมือนเก่า พูดขรึมๆ：“ซูซิ่ว คุณเป็นเพื่อนฉันจริงๆใช่มั้ย？ ให้ฉันแต่งงานกับหลี่จุ้นหยานคำพูดนี้ คุณก็สามารถพูดมันออกมาได้จากปากหรอ？”

สีหน้าของสวีซูซิ่วเปลี่ยนเป็นหนักอึ้งขึ้นมาทันที กัดฟันทั้งหมดและพูด：“ซุ่นอิ่งซู ถ้าคุณไม่แต่งงานกับเขา อย่างงั้น ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดของคุณก็จะถูกยึดไปหมด！ คุณเสียอำนาจแล้ว อย่างงั้นพวกเราหล่ะ？พวกเราก็จะไม่มีอะไรเลย！”

คิดไปเองว่าเขาจะพยายามเพื่อเรื่องราวของตัวเอง พันธมิตรที่ก้าวไปข้างหน้าเคียงข้างกันเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าร่วมกัน พวกเขาทั้งหมดก็ทรยศทีละคน

เขาอดไม่ได้ที่จะคิดย้อนกลับไปถึงสามสิมปีมานี้ของตัวเอง เขาได้อะไรมาแล้วจริงๆบ้างล่ะ？

เงินจำนวนที่นับไม่ถ้วน ทำให้ที่คนมองเห็นก็เกิดความกลัวกับอำนาจ ชีวิตคนนับไม่ถ้วนที่อิจฉา？ตอนนี้ลองมองย้อนกลับไป เขากลับไม่มีอะไรเลย

ก็เหมือนกับที่ฉีเติ่งเสียนหัวเราะตอนนั้น แม้เพื่อนสักคนก็ยังไม่มี

ตอนนี้ขนาดที่คิดถึงว่า มีคนแบบฉีเติ่งเสียนนั้นที่มาคอยทำให้โกรธตลอดก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยที่สุด ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่

“ดังนั้นพูดว่า คุณตกลงฉันก็ตกลง ไม่ยินยอมก็ต้องยินยอม！”

“อย่าบังคับให้ฉันลงมือเอง ให้ใครซักคนมัดคุณแล้วพาไปที่หลี่จวุ้นเหยียนอยู่ แบบนี้ ทุกคนก็จะดูไม่แย่”

สวีซูซิ่วสีหน้าเย็นชาไม่แยแสมองไปที่ซุนอิ่งซู พูดคำที่โหดเหี้ยมและบีบคั้นหัวใจมากที่สุด

ซุ่นอิ่งซูอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแบบน่าเวทนาขึ้นมาและ เอ่ย：“สวีซูซิ่ว คุณเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันมาตลอด อีกอย่าง พวกเราทั้งสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่มัธยมต้นแล้ว แต่ว่าตอนนี้ เปลี่ยนไปจนฉันไม่รู้จักแล้ว......”

สวี่ซูซิ่วพูดขรึมๆ：“ฉันต้องการตำแหน่งที่ฉันมีทั้งหมดในตอนนี้ เงินทอง และยังมีอำนาจ！มันเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะจมลึกลงสู่ก้นทะเลพร้อมกับคุณ！”

“เพื่อนหรอ？มันคืออะไร！ เมื่อต้องเผชิญต่อหน้ากับวัตถุที่คนธรรมดาไม่สามารถเอื้อมถึงได้ ก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่ไม่มีนัยสำคัญแล้ว”

“พวกเรา ไม่ได้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่แรก！เป็นเพียงแค่ต่างคนต่างใช้ผลประโยชน์ของกันและกันเท่านั้น คุณใช้ความสามารถและความรู้ของฉัน ฉันก็ต้องการตำแหน่งที่คุณนำมาให้ฉัน”

“ประเทศหัวกั๋วมีคำพูดโบราณ คนไม่ทำเพื่อตนเอง ฟ้าลงทัณฑ์ดินทำลาย ！”