คนไม่ใช่เครื่องจักร แต่เป็นสัตว์ที่มีความรู้สึก
การทรยศ มันเป็นการโจมตีและการทำร้ายใครคนนึงที่รุนแรงที่สุด
และการทรยศบนพื้นฐานของความไว้ใจ มันคือความเจ็บปวดที่มากขึ้นไปอีก
“คนไม่ทำเพื่อตนเอง ฟ้าลงทัณฑ์ดินทำลาย แปดคำนี้ คุณไม่ตองบิดเบือนแล้ว!”
ในเวลานี้ ฉีเติ่งเสียนเอ้อระเหยลอยชายมาสาย เดินไปพูดไปเข้ามาในห้องด้วย ความชิลๆ
“คำพูดนี้เป็นคำพูดที่คนไม่ได้พยายามฝึกฝนตัวเองอย่างหนักพูด ไม่ช้าก็เร็วฟ้าดินไม่อาจอภัย แต่มันเหมือนกับคุณอย่างงั้น เอาผลประโยชน์ของตัวเองวางไว้อันดับแรก เพื่อตัวเองแล้ว อะไรทั้งหมดก็ทรยศได้!”
ฉีเติ่งเสียนได้เดินเข้าไปในห้อง ก็ใช้สายตาที่ดูถูกเหยียดหยามมองที่สวีซูซิ่ว
เขาดูถูกคนพวกนี้จริงๆ
เพราะว่า สำหรับเขาแล้ว สองคำนี้ เป็นสิ่งที่ล้ำค่าและสำคัญเป็นอย่างมาก
ถ้าหากชีวิตของคนเราไม่มีเพื่อน อย่างงั้นจะไปแบ่งปันความสุขกับใครล่ะ?
ถ้าหากชีวิตของคนเราไม่มีเพื่อน ใครล่ะจะช่วยแบ่งปันความทุกข์ใจที่เจ็บปวด?
ถ้าหากไม่มีเพื่อนแล้ว อารมณ์ดีใจ ความโกรธ ความทุกข์ เศร้าโศก และความสุขของชีวิตคนเรา การเผชิญหน้าในสิ่งต่างๆ มันก็เหมือนไม่มีความหมายอะไรเลย
มีอะไรในโลกที่ทำให้คนรู้สึกอบอุ่นมากกว่ามิตรภาพไหม?เหล้าดีๆนั้นหายาก แต่เพื่อนที่ดีหายากยิ่งกว่า
ฉีเติ่งเสียนชอบจิตวิญญาณลักษณะที่เยือกเย็นของลู่เสี่ยวเฟิงในนวนิยายและโหดเหี้ยมเหมือนกับซีเหมินชุยเสวี่ยในนวนิยาย เขาไม่คิดว่ามิตรภาพพวกนั้นคือจินตภาพ
เพราะว่า เขาเป็นเพื่อนกับคนที่มีอุดมการณ์เหมือนกันมากมาย
หลังจากที่ซุนอิ่งซูเห็นฉีเติ่งเสียนนั้น สีหน้าอดไม่ได้ที่จะแปลกประหลาดขึ้นมา สับสนเล็กน้อย และถอนหายใจเล็กน้อย
สวีซูซิ่วได้ยินคำพูดของฉีเติ่งเสียน กลับอดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่นฮ่าฮ่าและ พูด:“คุณก็คือฉีเติ่งเสียนหรอกหรอ?คำพูดคำจาเต็มไปด้วยความเมตตาและคุณธรรม แต่ใจกลับอุทิศให้ชื่อเสียงและโชคลาภทั่วโลก เขาถูกบังคับให้มาถึงจุดนี้ ไม่ใช่เพราะคุณหรอกหรอ?”
ซุ่นอิ่งซูรักษาสภาพเงียบไม่พูดจาไว้ พฤติกรรมและการกระทำของฉีเติ่งเสียนวันนี้ ทำให้เขารู้สึกผิดหวังจริงๆ
แต่สิ่งที่สวีซูซิ่วทำทั้งหมด กลับทำให้ใจเขาแตกสลาย
“เพียงแค่เขาเข้าใจฉันผิดไป หรือว่า เขายังไม่ได้ให้ฉันเป็นเพื่อนจริงๆ ดังนั้นถึงมีการเข้าใจผิดแบบนี้เกิดขึ้น”ฉีเติ่งเสียนหัวเราะไปพูดไป
“แน่นอนว่าฉันจะไม่มีทางทรยศเพื่อนของฉัน ต่อให้อีกฝ่ายจะให้ฉันมากเท่าไหร่ ฉันจะให้เขาแค่สี่คำ——แม่งไปตายซะ”
“ยกตัวอย่างเช่นคุณ ตอนนี้ฉันคิดคำสี่คำนี้ให้คุณโดยเฉพาะ”
เขามองไปที่สวีซูซิ่ว พูดด้วยความจริงจัง:“ฉันไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับคนแบบเธอ”
สวีซูซิ่วพูดขรึมๆ:“สกุลฉี นี่เป็นเรื่องของนายทุนซ่านซิง ไม่เกี่ยวกับคนนอกอย่างคุณ!ถ้าคุณจะยื่นมือเข้ามา อย่างงั้นสุดท้ายแล้วซุนอิ่งซูจะตายอย่างอนาถมากกว่าเดิม”
ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความสงบ:“ไสหัวไปเร็วๆ ฉันสามารถไว้ชีวิตสวะๆนี้ได้”
ระหว่างบทสนทนา เขายื่นมือชี้ไปที่ข้างนอกประตู
สวีซูซิ่วมองซุนอิ่งซู พูดเสียงหนักแน่น:“ซุนอิ่งซู คุณต้องคิดให้ดีๆนะ มันไม่ง่ายเลยจริงๆที่คุณจะได้สิ่งนี้มาทั้งหมด หรือว่าอยากจะสูญเสียมันไปทั้งหมดแบบนี้?สิ่งที่ฉันร่วมมือกับพวกเขาทั้งหมด เลือกที่จะทำแบบนี้ ไม่ใช่เพราะอยากจะให้เธอได้ดีหรอกหรอ?”
ซุนอิ่งซูส่ายส่ายหัว ปิดตาลง ไม่สนใจสวีซูซิ่ว
สวีซูซิ่วกำหมัดแน่น และพูดด้วยความโมโห:“ดีดีดี ไม้อ่อนไม่ชอบ ชอบไม้แข็ง ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็อย่าโทษฉันที่ใช้กำลัง!”
“คุณใช้กำลังทุบตี?ไหนฉันดูหน่อย คุณจะเก่งแค่ไหน?”
เสียงแผ่วเบาๆดังขึ้นมา อวี้เสี่ยวหลงค่อยๆเดินเข้ามาจากข้างนอก
หลังจากที่สวีซูซิ่วเห็นอวี้เสี่ยวหลง รูม่านตาอดไม่ได้ที่จะหดลงอย่างรวดเร็ว ตกใจสั่นและพูด:“พลโทอวี้เสี่ยวหลง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...