มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 82

หลี่อวิ๋นหว่านก็พยายามอ้อนวอนให้ฉีเติ่งเสียนแนะนำเธอให้หวงฉีปินรู้จัก

“น้องสาวของผมจะจัดงานวันเกิด พ่อเลยอยากจัดงานให้ยิ่งใหญ่สักหน่อยเลยไปยืมเรือสำราญของญาติมา ถึงเวลานั้นขอปรมาจารย์ฉีให้เกียรติมาร่วมงานด้วยนะครับ!” หวงฉีปินยิ้มให้กับฉีเติ่งเสียน

“อืม ไม่มีปัญหา ผมได้ตอบรับนายกหวงไปแล้ว” ฉีเติ่งเสียนพูด

หลี่อวิ๋นหว่านอดสงสัยไม่ได้ว่า ฉีเติ่งเสียนมีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัวนายกหวงกันแน่? เธอก็ได้รับเชิญไปงานนี้เหมือนกัน แต่เจ้าของงานไม่ได้มาเชิญด้วยตัวเองและมาเน้นย้ำให้ไปงานแบบนี้

เมื่อกินข้าวเสร็จ หวงฉีปินก็พูดว่า: “ปรมาจารย์ฉีอยากไปเล่นสนุกกับพวกเราหน่อยไหม? ตรงข้ามเป็นออนเซ็นที่ใหญ่และดีที่สุดในจงไห่”

ฉีเติ่งเสียนรู้ว่าออนเซ็นมีไว้ทำไม เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า: “ไม่ไปดีกว่า ผมแต่งงานแล้ว ไม่อย่างนั้นจะถือเป็นการไม่ให้เฉียวชิวเมิ่งเสียใจ”

หวงฉีปินหัวเราะ: “ผมเกือบลืมไปเลยว่าปรมาจารย์ฉีแต่งงานแล้ว ภรรยาสาวสวยเฉียวชิวเมิ่งเป็นถึงประธานเฉียวกรุ๊ป”

“อย่างนั้นน่าเสียดายแย่เลย ผมได้ยินมาว่าเจ้าของออนเซ็นได้คัดสรรช่างฝีมือที่ดีที่สุดมาจากเกาหลีและญี่ปุ่นเลยนะ”

“อย่างนั้น ผมคงต้องไปชวนเพื่อนๆไปเยี่ยมชมสักหน่อย ……”

ฉีเติ่งเสียนพูด: “ในเมื่อคุณชายหวงออกปากเชิญ ผมคงต้องไปแล้ว”

หวงฉีปินตกตะลึง

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างจริงจังว่า: “มันไม่ง่ายเลยที่ชาวต่างชาติจะมาเติบโตที่ประเทศจีน ผมลองไปสัมผัสการนวดสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน”

“คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมแค่อยากจะไปชี้แนะทักษะของพวกเธอสักหน่อย เพื่อให้พวกเธอสามารถอยู่รอดได้ดีขึ้นในประเทศของเรา”

“เพื่อมิตรภาพระหว่างประเทศเป็นหลัก ไม่สําคัญว่าพวกเธอจะสวยหรือไม่สวย!”

หวงฉีปินหัวเราะออกมา ก่อนจะตบไปที่ไหล่ของฉีเติ่งเสียน: “ฮ่าฮ่า ปรมาจารย์ฉีอารมณ์ขันจริงๆ ”

หลี่อวิ๋นหว่านเพิ่งคิดว่าฉีเติ่งเสียนเป็นคนที่เคารพในหน้าที่ของตัวเอง แต่เมื่อกี้ที่ฟังเขากลับเปลี่ยนคำพูด:“นายไม่ควรไป นายไม่กลัวทำให้เมิ่งเมิ่งเสียใจเหรอ?”

หวงฉีปินกระแอม ก่อนจะพูดติดตลกว่า: “ใช่สิ แม้ว่ามันจะเป็นแค่การนวด แต่ปรมาจารย์ฉีแต่งงานแล้ว ไม่เป็นดีกว่าครับ เดี๋ยวคุณเฉียวชิวเมิ่งจะเข้าใจผิดเอา”

“เฉียวชิวเมิ่งคือใครกัน?” ฉีเติ่งเสียนถามด้วยความแปลกใจ

หลี่อวิ๋นหว่านดึงเสื้อของฉีเติ่งเสียน ในใจเธอรู้สึกไม่เป็นสุขและพูดด้วยความโกรธว่า: “ไม่ได้ นายไปไม่ได้ ถ้านายกล้าไป ฉันจะไปบอกเมิ่งเมิ่ง ถึงเวลานั้นฉันจะคอยดูว่านายยังกล้ามีหน้าไปเจอเธออีกไหม!”

ฉีเติ่งเสียนขยับมุมปากพร้อมกับถอนหายใจ และพูดกับหวงฉีปินว่า : “เหล่าหวง เมื่อกี้ผมแค่ล้อเล่น พวกคุณไปสนุกกันเถอะ”

หวงฉีปินหัวเราะก่อนจะนำเพื่อนๆไปเที่ยวออเซ็น ฉีเติ่งเสียนทำได้แต่เพียงส่งสายตาอิจฉาให้กับพวกเขา

“ผู้หญิงนี่ ไม่ช่วยแล้วยังจะทำให้เกิดปัญหาอีก” ฉีเติ่งเสียนชำเลืองมองไปยังหลี่อวิ๋นหว่าน ก่อนจะพูดประโยคนี้ซ้ำในใจ

หลี่อวิ๋นหว่านหัวเราะเย็น: “ผู้ชายเหมือนกันหมด ภายนอกดูซื่อสัตย์ แต่ภายในกลับไม่มีศีลธรรม”

ฉีเติ่งเสียนพูดว่า: “ผมแค่อยากเห็นมิตรภาพระหว่างประเทศ ไม่มีศีลธรรมตรงไหน? ปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา กังวลเกี่ยวกับประเทศและประชาชน!”

หลี่อวิ๋นหว่านแสดงสีหน้าดูถูก และไม่อยากจะรับฟังคำพูดของเขา

“โอเค ไม่ไปก็ไม่ไป ดึกมากแล้ว ผมกลับก่อนนะ คุณก็กลับบ้านเองแล้วกัน” ฉีเติ่งเสียนพูด

“ไม่ได้ ฉันจะคอยจับตาดูนายไว้ ถ้าเกิดฉันกลับบ้านไป แล้วนายแอบไปออนเซ็นกับพวกเขาล่ะ!” หลี่อวิ๋นหว่านเท้าเอว พร้อมพูดอย่างชอบธรรม

ฉีเติ่งเสียนทำได้เพียงแอบบ่นคำสองคำ ก่อนจะนั่งรถของหลี่อวิ๋นหว่านกลับวิลล่าวิมานเมฆ

“คุณคงไม่ได้คิดจะนอนบ้านผมหรอกนะ?” ฉีเติ่งเสียนถามขึ้น พร้อมกับจ้องมองไปยังหลี่อวิ๋นหว่าน

“แน่นอน! สมองนายมีแต่ความคิดไม่ดี ฉันต้องคอยจับตาดูนายไว้ไม่ให้นายมีโอกาสทำให้เมิ่งเมิ่งเสียใจหรอก” หลี่อวิ๋นหว่านพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย เพื่อหาเหตุผลที่เหมาะสมที่จะได้นอนค้างที่นี่

ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “ผมว่า คุณคงไม่ได้ตั้งใจหาข้ออ้างนอนค้างที่นี่หรอกใช่ไหม?”

“ถุย ?” หลี่อวิ๋นหว่านใจเต้นรัว แต่กลับแสดงออกมาอย่างอารมณ์เสีย

“อย่างนั้นก็ตามใจแล้วกัน” ฉีเติ่งเสียนโบกมือ และพูดอย่างเกียจคร้าน

หลี่อวิ๋นหว่านถามฉีเติ่งเสียนว่า: “ช่วงนี้นายช่วยเหลือเมิ่งเมิ่งตั้งหลายเรื่อง เธอเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับนายบางหรือยัง?”

ฉีเติ่งเสียนส่ายหัว แล้วพูดว่า: “น่าจะยังนะ แต่วันนี้กลับทำให้ผมรู้สึกมีความสุขไม่น้อยเลย”

หลี่อวิ๋นหว่านพูด: “แล้วนายมีความคิดว่าอย่างไง?”

“ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ผมก็ไม่ได้ไปขอร้องเอาใจเธอนี่?” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเรียบเฉย เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้สักเท่าไร

สิ่งเดียวที่เขาตั้งใจทําตอนนี้ก็คือรอจนกว่าเซี่ยงกรุ๊ปจะทำศึกกับหู่เหมินกรุ๊ปและสวีกรุ๊ป ถ้าทั้งสองฝ่ายทำศึกกันเมื่อไรเขาจะนำทางทุกอย่าง และเข้าไปตบหน้าที่เย่อหยิ่งของอวี้เสี่ยวหลงได้อย่างโหดเหี้ยม!

เมื่อสวีเอ้าเสวี่ยมุ่งเป้าหมายไปที่เซี่ยงกรุ๊ป เธอต้องไปขอความช่วยเหลือจากอวี้เสี่ยวหลงแน่นอน เพราะอวี้เสี่ยวหลงมีทั้งอิทธิพลและอำนาจ อีกทั้งตระกูลอวี้ยังเป็นตระกูลที่ร่ำรวยมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย ถ้าเธอเข้าร่วมศึกครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่าแน่นอน

แต่ฉีเติ่งเสียนจะไม่ทำให้เธอได้ในสิ่งที่ต้องการแน่ อีกอย่างเพื่อทำตามคำสัญญาของเขาที่มีต่อเซี่ยงตงเหลย

หลี่อวิ๋นหว่านรู้สึกประหม่าขึ้นเล็กน้อย เมื่อเธอได้ยินฉีเติ่งเสียนพูดถึงเฉียวชิวเมิ่งด้วยสีหน้าที่มีความสุขและผ่อนคลาย และรู้สึกว่าเธอควรเร่งหาความคืบหน้าของ “การจับผิด” มิฉะนั้น ถ้าเฉียวชิวเมิ่งพบรอยรั่วของผู้ชายคนนี้ เธออาจจะหมดโอกาสก็ได้

“ท่านฉี วันนี้นายทำให้หู่เหมินกรุ๊ปขุ่นเคือง นายต้องระวังตัวไว้ด้วย……อีกอย่างฉันก็เป็นกังวลว่ามู่กรุ๊ปของฉันจะโดนเล่นงานไปด้วย”

“พวกเขาต้องไม่ลืมความโกรธครั้งนี้แน่ บางทีพวกเขาอาจจะถูกเซี่ยงกรุ๊ปเล่นงานก่อนก็ได้ แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่มาเล่นงานกับมู่กรุ๊ปของพวกเรา!”

“ถ้าเกิดพวกเขาลงมือขึ้นมาจริงๆ ฉันจะทำอย่างไงล่ะ?”

หลี่อวิ๋นหว่านรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เธอส่งสายตาน่าสงสารมองไปที่ฉีเติ่งเสียน

เธอรู้สึกเป็นกังวลจริงๆ เพราะวันนี้ที่ทำให้พวกเขาขุ่นเคืองอย่างโหดเหี้ยมแบบนั้น ถ้าพวกเขาแค้นมู่กรุ๊ปขึ้นมา คงจะเกิดปัญหาตามมามากมาย……

ขณะที่เธอพูดนั้น เธอก็เอามือเกาะไปที่แขนฉีเติ่งเสียนพร้อมกับเขย่าแขนของเขา : “นายจะช่วยฉันเรื่องนี้ไหม? ถ้าพวกเขาลงมือขึ้นมาจริงๆ ฉันต้องตายแน่ๆ!”

ฉีเติ่งเสียนขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “เอาอย่างนี้ ผมจะแบ่งที่ดินบางส่วนที่ผมซื้อไว้ให้ การถือครองที่ดินเหล่านี้จะเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทคุณมากขึ้น และถึงเวลานั้นหู่เหมินกรุ๊ปจะมาเล่นงานคุณก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย……”

“ที่ดินตรงไหน?” แววตาของหลี่อวิ๋นหว่านเป็นประกาย และเวลานั้นแขนของฉีเติ่งเสียนก็ตกลงมาที่หน้าอกของเธอโดยไม่รู้ตัว

“ดินแดนแห่งความตาย” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเรียบเฉย

หลี่อวิ๋นหว่านตกตะลึง จากนั้นก็สบัดมือของฉีเติ่งเสียนออกไปด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว เธอกัดฟันแน่นแล้วพูดว่า: “ฉีเติ่งเสียน แม่นายสิ……กำลังล้อฉันเล่นใช่ไหม?!”

ฉีเติ่งเสียนหัวเราะเยาะแล้วพูดว่า: “เขตการปกครองนี้กำลังจะมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ที่สําคัญ ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นก็คือดินแดนแห่งความตาย”

“จริงเหรอ?!”

หลี่อวิ๋นหว่านตกใจมากเมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้

ดินแดนแห่งความตายที่มีแต่ความแห้งแล้งจะถูกพัฒนาให้เป็นพื้นที่สําคัญในอนาคต?!

“ถ้าอย่างนั้นนายก็อย่าตั้งราคาให้ฉันสูงเกินไปได้ไหม……”

ครั้งนี้เธอเข้าไปกอดแขนของฉีเติ่งเสียนโดยตรง……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง