ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าเฉินหยูเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เริ่มกล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆ และเธอก็กล้าที่จะวางแผนด้วยตัวเอง
ถ้าวันนี้มั่วคังไม่อยู่ เธออาจจะตบโต๊ะแล้วชี้ไปที่จมูกของเฉินเซียนเหอแล้วด่าเขาก็ได้ ฉากนั้นคงทำให้เฉินเซียนเหอไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้แน่นอน
ถ้าอยู่ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว แน่นอนว่าเฉินเซียนเหอต้องยืมมือคนอื่นเข้ามาช่วย เพราะเขาไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆได้
โชคดีที่วันนี้มีมั่วคังอยู่ด้วย เฉินหยูได้เห็นปืนมากมายในสถานการณ์แบบนั้น จึงทำได้แค่อดทนกับมัน
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอพูดก่อนหน้านี้ว่าเธอคือเซี่ยงหวี่ และเฉินเซียนเหอคือหลิวปัง.…..
ความกล้านี้ คือยืมใช้มือของรองหัวหน้าใหญ่เล่นงานคนอื่นใช่ไหม?
เฉินหยูหันหน้าไปยิ้มให้กับฉีเติ่งเสียนและพูดว่า: “นายมีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่เก่งขนาดนี้ ถ้าไม่ใช้มันก็จะเปล่าประโยชน์! นายอย่าโกรธเลย เดี๋ยวฉันเอาคลิปวิดีโอสาวๆมาให้ดู”
จู่ๆ ฉีเติ่งเสียนก็อยากจะฆ่าเธอขึ้นมาทันที
เฉินหยูพูดอย่างครุ่นคิดว่า : “ตั้งแต่เฉินเซียนเหอระวังฉัน เราก็ต้องลงมือจากด้านอื่นก่อน ซื้อตัวมั่วคังดีไหม? ทหารเหล่านี้เห็นแก่เงิน ไม่สนใคร ยิ่งไปกว่านั้นถ้าได้รับความช่วยเหลือที่ตระกูลเฉินสามารถมอบให้เขาได้นั้นยิ่งใหญ่กว่าเฉินเซียนเหอคนเดียวเสียอีก!”
ฉีเติ่งเสียนหัวเราะเยาะและพูดว่า : “เธอมีความคิดเป็นของตัวเอง แล้วจะมาถามฉันทำไม?”
เฉินหยูพูดทันทีว่า: “ดูสิ นายโกรธแล้วใช่ไหม เล่นด้วยไม่ได้ใช่ไหม?”
ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่าเธอค่อนข้างหน้าหนาอีกด้วย
แน่นอนว่าเน้นการรักษาระยะห่างที่เหมาะสมเป็นสิ่งสําคัญมาก
เมื่อเธอมาที่จงไห่ครั้งแรก มันน่าทึ่งมาก ตอนนี้ได้รู้จักกันมากขึ้นแล้ว เธอถูกฉีเติ่งเสียนตราหน้าว่าท้องดํา บ้าคลั่ง อารมณ์เสียและอื่นๆมากมาย
“เธอรู้อะไรไหมว่า เธอทำตัวแบบนี้มันน่ารำคาญมาก!”ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างจริงจัง
“แบบไหนล่ะ?” จู่ๆ เฉินหยูก็ถือแว่นตาไว้ในมือข้างหนึ่ง พร้อมบิดร่างกายและกดริมฝีปากนุ่มๆด้วยอีกข้างหนึ่ง
ฉีเติ่งเสียนได้แต่สงบสติอารมณ์ไว้ข้างใน ว่ากันว่าในอินเทอร์เน็ตว่าการสวมแว่นตาเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์ที่สุด แน่นอนว่าเธอไม่ได้รังแกฉัน
ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจและพูดว่า: “เธอดูเย้ายวนมาก”
เฉินหยูยิ้มและพูดว่า : “นายเป็นผู้ชายที่อบอุ่นที่ไม่มีใครเทียบได้ใช่ไหม?”
ฉีเติ่งเสียนพูดว่า: “มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะซื้อมั่วคัง แต่ขุนศึกท้องถิ่นประเภทนี้น่าเชื่อถือน้อยที่สุด เธอควรระวังด้วยว่าเขาจะกลายเป็นหมาป่าตาขาว”
วันนี้การจัดการของเฉินเซียนเหอได้ขัดขวางแผนการของขั้นแรกของเฉินหยูโดยสิ้นเชิง
เดิมทีเธอต้องการใช้พลังพิเศษของฉีเติ่งเสียนเพื่อฆ่าเฉินเซียนเหออย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ค่อยยึดอํานาจในฐานะลูกสาวคนโตของตระกูลเฉิน เพื่อยับยั้งผู้คนที่เหลือ
แต่วันนี้กลับมีมั่วคังพร้อมทั้งทหารติดอาวุธมากมายอยู่ด้วย ถึงแม้จะลงมือทําได้แต่ก็กลัวว่าจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาจากการถูกปิดล้อมและปราบปรามโดยกองกําลังติดอาวุธในท้องถิ่นด้วย
เฉินหยูยังคงไม่เต็มใจที่จะรับความเสี่ยงนี้ ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่ถึงจุดที่เธอจะสามารถฆ่าเฉินเซียนเหอได้
ถนนในเมืองกวางหยางมีความยุ่งเหยิงซึ่งหาที่เปรียบมิได้กับหัวกั๋วโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ในบางครั้งจะมีรถบรรทุกขนาดเล็กที่บรรทุกบุคลากรติดอาวุธขับไปตามท้องถนน
“จริงๆ แล้วที่หนานหยางก็ไม่ได้ดีไปกว่าที่นี่มากนัก แต่ความสงบเรียบร้อยทางสังคมนั้นก็ดีกว่า” เฉินหยูพูด
กวางหยางเป็นสวรรค์ของอาชญากรล้วนๆ การปล้นทรัพย์และการโจรกรรมสามารถพบเห็นได้ทุกที่ แน่นอนว่าพวกคิดว่าสามารถทำได้ง่าย แก๊งอาชญากรสองกลุ่มหลักที่เป็นเนื้องอกที่ร้ายกาจที่สุดก็คือเอนท์กรุ๊ปและว่านเสิ่งกรุ๊ป เป็นแก๊งอาชกรรมวัยรุ่นที่ค้าอวัยวะ ขู่กรรโชกทรัพย์ และทำสิ่งที่ชั่วร้ายทั้งหมด
เฉินหยูเห็นร้านเล็กๆ ที่มีหินธรรมชาติและอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า : “นายรู้เรื่องเกี่ยวกับหยกบ้างไหม?”
ฉีเติ่งเสยนพูด : “ไม่รู้เรื่องเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...