มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 84

“วันนี้ฉันจะซื้อเสื้อผ้าที่เหมาะสมให้กับนาย ถ้านายใส่ชุดที่เป็นทางการกว่านี้ อาจจะสร้างความประทับใจได้ดียิ่งขึ้น”

หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนมาถึงแล้วเฉียวชิวเมิ่งก็พาเขาไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อเลือกชุดสูทให้กับเขา

ครั้งล่าสุดที่ฉีเติ่งเสียนสวมเสื้อผ้าของเฉียวกั๋วเทาในงานเลี้ยงอาหารค่ำของเซี่ยงกรุ๊ป เธอถูกเยาะเย้ย มันทำให้เธอรู้สึกอับอายมาก

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ตอนนี้ทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากันในนาม พวกเขายังคงต้องแสดงต่อหน้าทุกคนต้องทำให้ดีไม่ว่ายังไงก็ตาม

“ว้าว สามีของคุณผู้หญิงหุ่นดีมาก เหมาะกับชุดสูทของห้องเสื้อของเรามาก!” พนังงานห้องเสื้อ BOSS ชื่นชมเสียงดัง

เฉียวชิวเมิ่งต้องยอมรับว่าฉีเติ่งเสียนมีรูปร่างที่ดี สูง ยาว และมีกล้ามเนื้อที่แน่นแข็งแรง หลังจากสวมชุดสูท เขาดูเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ล้นออกมา

แม้ว่าจะไม่ชอบใจฉีเติ่งเสียนมากนัก แต่เฉียวชิวเมิ่งก็ยกยิ้มตอบรับ

“ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการของเซี่ยงกรุ๊ปคือลูกพี่ลูกน้องของเซี่ยงตงฉิง นายตามฉันมา แล้วทำตัวสุภาพให้มากที่สุด” เฉียวชิวเมิ่งบอกกับฉีเติ่งเสียน

“อืม.....” ฉีเติ่งเสียนเห็นด้วยอย่างเกียจคร้าน เมื่อคิดดูแล้วเซี่ยงตงฉิงน่าจะบอกกล่าวแก่คนในแผนกแล้ว การเจรจาของเฉียวชิวเมิ่งในครั้งนี้อาจเพียงทำเป็นพิธีเท่านั้น

หลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้วเฉียวชิวเมิ่งก็พาฉีเติ่งเสียนตรงไปที่โรงแรม เพื่อพบกับเจิ้งกวงหมิงผู้อำนวยการฝ่ายโครงการของเซี่ยงกรุ๊ป

หลังจากที่เจิ้งกวนหมิงเห็นเฉียวชิวเมิ่ง ดวงตาของเขาก็สว่างวาววับขึ้น หลังจากเห็นฉีเติ่งเสียนที่อยู่ด้านหลังใบหน้าของเขาก็มืดลงทันที

“สวัสดีค่ะ คุณผู้อำนวยการเจิ้ง นี่คือสามีของฉัน ฉีเติ่งเสียน.....” เฉียวชิวเมิ่งแนะนำสถานฐานะฉีเติ่งเสียนให้เจิ้งกวงหมิงรู้จัก

ใบหน้าของเจิ้งกวงหมิงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ก่อนเขาพูดอย่างเย็นชา: “คุณเฉียวคุณทำเป็นหูทวนลมกับคำพูดของผมหรือไง? ผมเคยบอกว่าให้คุณมาคนเดียวเพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการกับผม มาคนเดียวก็พอ ไม่ได้บอกว่าให้พาคนอื่นมาด้วยนิ?”

เฉียวชิวเมิ่งชะงักอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า: “ผู้อำนวยการเจิ้ง ฉันแค่คิดว่ามันควรจะเป็นการพูดคุยอย่างเป็นทางการเท่านั้น”

เจิ้งกวงหมิงโบกมือแล้วพูดอย่างเย็นชา: “ผมไม่ชอบเขา บอกเขาให้ออกไปจากที่นี่ซะ”

เฉียวชิวเมิ่งไม่คาดคิดว่าเจิ้งกวนหมิงจะหยาบคายขนาดนี้ และใบหน้าของเธอก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง

“หือ? คุณไม่เห็นด้วยเหรอ?”

“นั่นก็จริง คุณเป็นสามีภรรยากัน มันคงแย่ถ้าคุณบอกให้เขากลับไปตอนนี้”

“ก็ได้ ผมจะเมตตาให้เขาอยู่กินข้าว กินข้าวเสร็จ ค่อยให้เขากลับไป”

“คุณตามผมมา ไปที่บ้านผมแล้วค่อยคุยกัน”

เจิ้งกวงหมิงยิ้มเล็กน้อย ดวงตาของเขาจ้องมองไปมาบนขายาวของเฉียวชิวเมิ่งใต้กระโปรงของเธออย่างหื่นกระหาย ถูมือทั้งสองของเขาเข้าหากันราวกับว่านี่เป็นของเล่นที่อยู่ในมือเขาแล้ว

เฉียวชิวเมิ่ง ไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าเธอรู้ว่าเจิ้งกวงหมิง หมายถึงอะไร ใบหน้าของเธอซีดลงและเธอพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก: “ผู้อำนวยการเจิ้ง โปรดเกียรติตัวเองด้วยค่ะ!”

“ให้เกียรติตัวเอง? คุณหมายถึงอะไร?” ดวงตาของเจิ้งกวงหมิงเปลี่ยนเป็นเย็นชาก่อนเอ่ยถามออกมา

“การให้เกียรติตัวเองหมายความว่า อย่าทำเหมือนคนโง่งี่เง่าที่ไม่เคยเห็นผู้หญิงมาก่อน เหมือนพวกที่เต็มไปด้วยตัณหาราคะ” ฉีเติ่งเสียนกล่าวอย่างสงบ

เฉียวชิวเมิ่งเธอหมายถึงแบบนั้น แต่เธอไม่คิดว่าฉีเติ่งเสียนจะพูดออกมาอย่างจริงจังขนาดนี้ ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปจ้องมองฉีเติ่งเสียน

ตามที่คาดไว้ เจิ้งกวงหมิงโกรธ เขาตบฝ่ามือลงบนโต๊ะเสียงดัง แล้วพูดด้วยความโกรธ: “หนุ่มน้อย พูดกับคนอายุเยอะกว่าแบบนั้นได้ยังไง?”

“คุณด้วย เฉียวชิวเมิ่ง กล้าดียังไงมาพูดกับผมแบบนี้?”

เฉียวชิวเมิ่งเม้มริมฝีปากของเธอ รู้สึกเสียใจเล็กน้อย แต่ยังคงพูดอย่างจริงจัง: “ผู้อำนวยการเจิ้ง เรามาที่นี่เพื่อปรึกษาหาความร่วมมือ ไม่ใช่เพื่อให้คุณมาทำให้พวกเราอับอาย!”

“อับอายเหรอ? ฮ่าๆ ไร้สาระสิ้นดี!”

เจิ้งกวงหมิงหัวเราะอย่างเหยียดหยามและพูดว่า: “คุณคิดว่าเฉียวกรุ๊ปของคุณสมควรที่จะร่วมมือกับเซี่ยงกรุ๊ปของเรางั้นหรือ? มันคุ้มค่ากับโครงการของบริษัทของเรางั้นเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะรูปลักษณ์ของคุณ คุณจะคิดว่าผมอยากจะเจอคุณหรือไง?”

“ขอให้มาคนเดียว แต่ดันพาคนอื่นมาด้วย นี่คุณกะจะหักหน้าผมใช่ไหม? หรือคุณไม่ได้ใส่ใจฟังคำพูดของผม หรือไม่เข้าใจภาษามนุษย์กันแน่?”

“ผมยินดีที่จะนอนกับคุณและมอบโครงการของบริษัทให้คุณ นั่นเหมือนเป็นพรจากพระเจ้าของบริษัทของคุณ เหมือนกับโชคลาภที่หล่นมาจากฟ้า!”

“ถ้าคุณไม่ไล่สามีออกไป งั้นตามผมกลับไปบ้านและดูแลผมให้ดี ทำไมคุณต้องมาคาดหวังให้ผมเกียรติตัวเองด้วย”

ใบหน้าของเฉียวชิวเมิ่งเปลี่ยนเป็นสีแดง และร่างกายของเธอสั่นด้วยความโกรธต่อคำพูดที่ตรงไปตรงมาและเปิดเผยของเจิ้งกวงหมิง แต่เธอไม่กล้าที่จะกล่าวโทษเขา

เจิ้งกวงหมิงเป็นผู้อำนวยการแผนกโครงการของเซี่ยงกรุ๊ปและลูกพี่ลูกน้องของ เซี่ยงตงฉิง เขามีตำแหน่งที่สูงในบริษัทและเธอไม่สามารถจะหาเรื่องเขาได้

ยิ่งไปกว่านั้น หากเธอต้องการเป็นประธานของเฉียวกรุ๊ปต่อไป เธอจะต้องได้รับโครงการงานจากเซี่ยงกรุ๊ปอย่างน้อยหนึ่งโครงการ ไม่เช่นนั้นเธอจะถูกไล่ออกทันที

“ผู้อำนวยการเจิ้ง เราขอพูดคุยอย่างเหมาะสมและจริงจังกว่านี้ได้หรือเปล่า?”เฉียวชิวหมิงกัดฟัน

“คุยกันเหรอ แน่นอนว่าเราคุยกันได้เสมอ ไม่มีอะไรที่เราคุยกันไม่ได้!” เจิ้งกวงหมิงกล่าวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ

เฉียวชิวเมิ่งถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ฉันขอสั่งอาหารก่อน แล้วมาคุยกันขณะดื่มกันเถอะค่ะ...”

เจิ้งกวงหมิงส่ายหัวแล้วพูดว่า: “สิ่งที่ฉันหมายถึงก็คือคุณมานั่งบนตัวผมและเคลื่อนไหวไปด้วยขณะพูด หากคุณเคลื่อนไหวได้ดีทำให้ผมมีความสุข ไม่ต้องพูดถึงหนึ่งหรือสองโครงการ ผมจะให้โครงการทั้งหมดให้กับเฉียวกรุ๊ปของคุณเป็นไง?”

“นี่คือคำของผมที่จะพูด!”

“ว่าอย่างไร คุณเฉียว จะให้ผมทำอย่างไรกับคุณดี?”

เฉียวชิวเมิ่งตกตะลึง

ฉีเติ่งเสียนไม่พอใจ เซี่ยงตงฉิงกำลังทำอะไรอยู่ เขาแจ้งล่วงหน้าไปแล้ว แต่ทำไมยังมีคนอย่างเจิ้งกวงหมิง ปรากฏตัวออกมาทำให้ผู้คนรังเกียจอีก? !

“ไปให้แม่คุณทำสิ เห็นผู้หญิงแล้วเป็นบ้าขึ้นมาทันที อยากให้ผมไปฟาร์มหมูหาหาแม่พันธุ์หมูดีๆสักตัว มาเล่นกับคุณดีไหม?” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเหลืออด เฉียวชิวเมิ่งถูกลากไปข้างหลังของเขาทันที

เฉียวชิวเมิ่งมองแผ่นหลังกว้างที่กั้นเธอไว้ ก่อนจะถอนหายใจออกมา ทุกครั้งที่เธอมีเรื่องอะไรก็ตาม เขาจะยืนอยู่ตรงหน้าเธอเสมอ

แต่ถึงอย่างนั้นทุกครั้งที่เขาจัดการ เขาจะใจร้อนหุนหันพลันแล่น......

“เขาดีฉันมาก น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่คู่ที่ดีนัก ทั้งหุนหันพลันแล่นและฉุนเฉียว ดูไม่มีวันเข้ากันได้เลย”

“เป้าหมายของฉันคือการเป็นนางเอกเหมือนอย่างอวี้เสี่ยวหลง เขาดูไม่คู่ควรกับฉันเลย”

ดวงตาของเฉียวชิวเมิ่งดูสับสน เธอคิดอย่างเงียบ ๆ

เจิ้งกวงหมิงโกรธทันทีกับคำพูดของฉีเติ่งเสียน เขาตะคอกอย่างเย็นชาและพูดว่า "คุณเฉียว สามีของคุณเป็นคนโง่ที่พูดออกมาโดยไม่ผ่านสมองหรือไง?”

“ผมจะให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย ให้เขาตบปากตัวเอง และขอโทษผม แล้วคุณกลับไปกับผม ทำตามที่ผมบอก”

“ไม่เช่นนั้นเฉียวกรุ๊ปจะไม่ได้โครงการจากเซี่ยงกรุ๊ปสักโครงการเดียว!”

ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยใบหน้าเย็นชา: “ไม่น่าแปลกใจเลยที่เซี่ยงกรุ๊ปถูกหู่เหมินกรุ๊ประราน ปรากฎว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเซี่ยงตงฉิงมีคนอย่างคุณอยู่นี่เอง!”

“กลับไป ผมจะให้เซี่ยงตงฉิงไล่คุณออก ไอ้คนแพ้ มาดูกันว่าคุณจะแสดงพลังอำนาจของคุณอย่างไร?”

เจิ้งกวงหมิงตกตะลึง จากนั้นขมวดคิ้วและพูดว่า “คุณรู้จักคุณเซี่ยง?””

“ผมไม่เพียงแต่รู้จักเธอเท่านั้น ผมยังเป็นรองหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของเซี่ยงกรุ๊ปด้วย!” ฉีเติ่งเสียนหยิบบัตรประจำตัวใบอนุญาตทำงานของเขาออกจากกระเป๋าเสื้อ

คำพูดเหล่านั้นทำให้หัวใจของเจิ้งกวงหมิงเต้นรัว บางทีเขาเองอาจโดนปากกระบอกปืนกระแทกยิงเข้าให้แล้ว? !

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง