มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 869

ประสาทการได้ยิงเสียงของฉีเติ่งเสียนละเอียดอ่อนมาก ยิ่งอยู่ในสถานการณ์ตอนกลางคืนที่ทุกอย่างอยู่ในความสงบแล้วนั้น

ทำให้เขาสามารถได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นของเฉินหยู การไหลเวียนเลือดที่เร็วขึ้นด้วยเช่นกัน “เธอกำลังโกหก ฉันได้ยินเสียงหัวใจของเธอที่เต้นเร็วขึ้น” ฉีเติ่งเสียนกล่าว

“นี่เป็นเหตุผลแบบเดียวกันกับที่นายเห็นฉัน!นายคิดว่า มีแค่ผู้ชายที่ชอบดูสาวสวยอย่างนั้นหรอ?แล้วผู้หญิงจะไม่ชอบดูหนุ่มหล่ออย่างนั้นสินะ?” เฉินหยูยิ้มไปพูดไป

เมื่อฉีเติ่งเสียนได้ฟัง จึงพยักหน้าด้วยความชอบใจ “ในที่สุดเธอก็ยอมรับว่าผมหล่อแล้วสินะ ผมพอใจมาก!”

“นายเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้ฉันรู้สึกชื่นชม และนับถือ ความกล้าหาญของนาย ใต้หล้านี้ หาใครเปรียบมิได้”

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกได้ว่าจมูกของตัวเองนั้นกำลังจะงอนขึ้นไปบนฟ้าแล้ว ถูกเฉินหยูยอขนาดนี้ รู้สึกหึกเหิมกว่าที่อวี้เสี่ยวหลงยอซะอีก

เฉินหยูพูดไปพลางบิดปลายเท้าไปมาเล็กน้อย นิ้วเท้าที่สวยงามของเธอแต่ละนิ้วนั้น ก็น่ามองเช่นกัน

“เธอก็เป็นผู้หญิงที่คนอื่นเพียงแค่ได้เห็นรูปลักษณ์ภายนอก ก็ทำให้ใจเต้นได้” ฉีเติ่งเสียนชมกลับด้วยความจริงใจ ดวงตาที่เมื่ออยู่ในความมือจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวคู่นั้น มองไปยังแก้มที่ชุ่มชื้นและเนียนนุ่มราวกับหยกของเฉินหยูอย่างอดไม่ได้

“แม้ว่านายจะชมฉัน ก็ไม่ทำให้ฉันเอาปืนที่ไว้อยู่ใต้หมอนไปไว้ที่อื่นอยู่ดี!” เฉินหยูพูด

“กังฟูฝึกจนเข้าไขกระดูกแล้วไม่กลัวปืน......ฉันไม่กลัวการที่ถูกปืนจ่อมานานแล้ว ถึงเธอจะวางไว้เยอะขนาดไหนก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี”

เฉินหยูยิ้ม ใบหน้าที่เรียกได้ว่าเป็นหายนะนั้นปรากฏร่องรอยของการล้อเล่นออกมา “นายอยากกินข้าวคุกชามใหญ่สินะ!”

เมื่อพูดจบ เธอก็ลุกขึ้น แล้วพูดกับฉีเติ่งเสียนว่า “ซา โย นา ระ!”

“ทำไมถึงไม่เป็น คัม ออน เบบี๋?!” ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย

มุมปากของเฉินหยูยกขึ้นเล็กน้อย คลุมผ้าเช็ดตัว และจากไปด้วยใบหน้าที่หยิ่งผยอง

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกจบเห่ เกรงว่าคืนนี้ทั้งคืนน่าจะหลับไม่ลง ไม่แน่อาจจะถูกปีศาจยั่วยวนตนนี้กลับมาใช้สกิลมือที่ล้มเลิกไปนานแล้ว

เขาเอาหัวดำลงไปในน้ำทันที จากนั้นเอนกายแช่น้ำในสระน้ำ ร่างกายที่ถูกแช่ในน้ำนั้น ค่อยสงบลงมาหน่อย เพื่อไม่ให้ตัวเองอดใจไม่ได้แล้วไปท้าทายสกิลปืนของเฉินหยูเข้า

เฉินหยูที่แอบมองอยู่ชั้นสอง ขำคิกๆอย่างอดไม่ได้ พร้อมกับนึกด้วยความภูมิใจ“ที่หนึ่งแห่งใต้หล้าแล้วอย่างไร ยังไงก็ควบคุมนายได้อยู่ดี!”

ยามเช้า อากาศเปลี่ยนอย่างกะทันหัน จึงทำให้อุณหภูมิลดลงค่อนข้างมาก

ฉีเติ่งเสียนขณะนี้ได้จมลงไปอยู่ก้นสระเป็นที่เรียบร้อย ร่างกายของเขาขดตัวเป็นก้อน ราวกับเด็กทารก และหลับอยู่ในสระว่ายน้ำ

เช้าวันที่สอง จ้าว เฉียน ซุน อาจารย์ทั้งสามมายังสนามด้านหลังเพื่อฝึกซ้อม ทันทีที่พวกเขาเห็นเข้ากับฉีเติ่งเสียนที่จมอยู่ก้นสระ จึงอดไม่ได้ที่จะตกใจ

“อาจารย์ฉีจมน้ำตายแล้วหรอ?!” อาจารย์จ้าวถามด้วยความตระหนกตกใจ

“อาจารย์จ้าวโง่เกินไปแล้ว แบบอาจารย์ฉีนี้เขาเรียกว่ากำลังฝึกยุทธอยู่ เหยียบน้ำยังไม่เลยเข่า แล้วจะจมน้ำตายได้อย่างไร? แบบเขาเรียกว่ากำลังฝึกการหายใจแบบทารกในครรภ์” ความรู้กว้างขวางอย่างอาจาร์ซุนตอบกลับ

ปรมาจารย์ทั้งสามหลังจากที่ไปท่องยุทธจักรที่ประเทศมี่ หลังจากที่คิดกันอยู่สักพักหนึ่ง ในที่สุดก็ได้ตัดสินใจทำงานให้กับฉีเติ่งเสียน

อาจารย์จ้าวได้สติกลับมาจึงพูดต่อว่า “คิดไม่ถึงว่าจะมีการฝึกวรยุทธด้วยวิธีการเช่นนี้ ช่างแปลกประลาดและเห็นได้น้อยนัก!”

“การหายใจแบบทารกในครรภ์เป็นวิธีฝึกของลัทธิเต๋า โดยการหายใจเบาๆ เหมือนทารก? ดูสิเขาขดตัวเป็นก้อนกลม เหมือนทารกที่อยู่ในน้ำคร่ำภายในครรภ์ของมารดา”

ฉีเติ่งเสียนได้ขยับตัวในเวลานี้ จากนั้นจึงโผล่ขึ้นมา นิ้วเท้าขยับไปมา แหวกว่ายผ่านสายน้ำ ชั่วครู่ร่างของเขาก็ยืนอยู่บนผิวน้ำเรียบร้อย โดยที่น้ำแช่ได้เพียงเท้าเขาเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง