บทที่ 937 ยังเย่อหยิ่งเหมือนเดิม – ตอนที่ต้องอ่านของ มังกรผู้ทรงพลัง
ตอนนี้ของ มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 937 ยังเย่อหยิ่งเหมือนเดิม จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
รอจนฉีเติ่งเสียนวางสายแล้ว สวีเอ้าเสวี่ยก็แทบจะถีบหัวส่งเขาทันที
แต่แรงมือของฉีเติ่งเสียน เธอจะสู้ไหวได้ยังไง?
เมื่อก่อนเธอกับอวี้เสี่ยวหลงถูกเรียกว่าสองพี่น้องแห่งเมืองหลวง เธอก็มีความภาคภูมิใจของตัวเอง
แน่นอนว่าเธอยังไม่อยากให้อวี้เสี่ยวหลงรู้ ว่าเธออยู่กับฉีเติ่งเสียนมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ จนถึงขั้นต้องยอมประนีประนอมตอนอยู่ต่อหน้าฉีเติ่งเสียน
หลังจากเช้าวันนี้ เธอจะไม่มีความกลัวเหมือนเมื่อวานอีกแล้ว เพราะตอนนี้เธอรู้สึกเกลียดฉีเติ่งเสียนจะตายอยู่แล้ว!
แต่อาจจะเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น......
รอให้ช่วงเวลาที่อับอายจนโกรธเกลียดนี้ผ่านไป จิตใจเธอจะเป็นยังไงต่อไปนะ?
"ประเมินคุณต่ำไปนะเนี่ย คิดไม่ถึงเลยว่าอวี้เสี่ยวหลงที่อยู่เมืองหลวงจะข่าวช้ากว่าคุณซะอีก ประธานสวีนี่สุดยอดไปเลย!" ฉีเติ่งเสียนมองประเมินสวีเอ้าเสวี่ยอย่างชื่นชม
"ฉันขอเตือนนายไว้นะฉีเติ่งเสียน ถ้านายกล้ารังแกฉันอีกล่ะก็ ฉันจะแทงข้างหลังนายซะ!" สวีเอ้าเสวี่ยพูดอย่างโมโห
"ผมไม่ได้รังแกซะหน่อย นั่นเรียกว่ารักคุณต่างหาก! เพราะผมชอบคุณ ก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้คุณสิ" ฉีเติ่งเสียนพูด
สวีเอ้าเสวี่ยพูดไม่ออก รู้สึกอยากจะโบกมือลาไอ้บ้านี่ แล้วกลับหนานหยางซะตั้งแต่ตอนนี้เลย
ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงคนมาเคาะประตู
ฉีเติ่งเสียนนั่งลงบนโซฟาอย่างสบายๆ ร่างกายกลับมาอ้วนท้วม ราวกับว่าเป็นเพียงแขกธรรมดาคนหนึ่ง
สวีเอ้าเสวี่ยเปิดประตู พบหญิงสาวคนหนึ่ง
"คุณเป็นใคร?" สวีเอ้าเสวี่ยเห็นแล้วก็ขมวดคิ้ว ไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้
"เธอคือสวีเอ้าเสวี่ยใช่ไหม?" ผู้หญิงคนนั้นปรายตามอง ถามด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจมากนัก
ผู้หญิงคนนี้หน้าตาดี แต่งตัวก็ดี ดูจากบุคลิกก็พอจะเดาได้ว่าเป็นผู้ดี
สวีเอ้าเสวี่ยได้ยินน้ำเสียงของเธอแล้วก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา สายตาเปลี่ยนเป็นเย็นชา "มีธุระอะไร? ถ้าไม่มีธุระอะไรก็อย่ามารบกวน ยังมีแขกคนอื่นอยู่ด้วย!"
"ฉันชื่อเหลยเสวี่ยเจียว เธอน่าจะเดาออกนะว่าฉันเป็นใคร!" หญิงสาวพูดเสียงเรียบ
"เหลยเสวี่ยเจียว? ลูกสาวของเหลยเจิ้นฉีหรือเปล่า" สวีเอ้าเสวี่ยได้ยินแล้วก็คิดในใจ ไม่ได้พูดอะไรออกไป
ตอนนี้เธอรู้สึกไม่สบอารมณ์ที่สุด เมื่อก่อนไม่ว่าจะไปไหนก็ไม่มีใครกล้าปฏิบัติกับเธอแบบนี้ แต่วันนี้ไม่เหมือนวันวานเพราะเธอตกต่ำลง ถึงแม้จะพอลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้บ้างแล้ว แต่ก็เป็นแค่ที่หนานหยางเท่านั้น เธอยังคงถูกเหล่าตระกูลมั่งคั่งในหัวกั๋วดูถูกอยู่ดี
ในขณะที่สวีเอ้าเสวี่ยกำลังจะถามว่าเธอมาทำอะไรกันแน่ ก็เห็นเธอโบกมือหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นก็มีคนมาตบหน้าสวีเอ้าเสวี่ยอย่างแรงทันที
"พี่เฉิงอยากจะทำธุรกิจกับเธอที่หนานหยาง เธอกล้าปฏิเสธงั้นเหรอ? อยากตายนักหรือไง?" เหลยเสวี่ยเจียวพูดเสียงเย็นชา
สวีเอ้าเสวี่ยหลังจากถูกตบก็รู้สึกมึนงงไปเล็กน้อย
ฉีเติ่งเสียนรีบลุกจากโซฟาแล้วเดินมาหาทันที
แต่ยังไม่ทันเดินถึงตัว จู่ๆเหลยเสวี่ยเจียวก็ตบหน้าสวีเอ้าเสวี่ยกะทันหันอีกครั้ง ทำให้ฉีเติ่งเสียนป้องกันไม่ทัน
เหลยเสวี่ยเจียวมองสวีเอ้าเสวี่ย ก่อนจะพูดพลางยิ้มเย็น "คิดว่าตัวเองอยู่หนานหยางแล้วเก่งมากนักหรือไง? เธอมันก็แค่หมาตัวหนึ่งที่พึ่งคนอื่นไปทั่วนั่นแหละ มีอะไรน่าภูมิใจนักเหรอ?"
"พี่เฉิงคิดจะร่วมมือกับเธอ นับว่าไว้หน้าและให้ให้โอกาสคนอย่างเธอแล้ว"
"เธอยังกล้าปฏิเสธ?"
แต่อย่างไรก็ตาม เขาตามจีบอวี้เสี่ยวหลงไม่สำเร็จอยู่แล้ว
ผู้หญิงคนนี้ยึดมั่นในตัวเองมาก ต่อให้จะโดนตระกูลอวี้กดดันมากแค่ไหน เธอก็มองว่ามันเป็นแค่เรื่องไร้สาระ ความแข็งแกร่งและชะตาชีวิตของเธอได้กลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้งแล้ว
เมื่อก่อนสวีเอ้าเสวี่ยก็เป็นคนที่กำหนดโชคชะตาด้วยตัวเอง แต่หลังจากพ่ายแพ้ให้กับเซี่ยงกรุ๊ป ชะตาชีวิตของตัวเองก็ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น
"คุณกล้าขัดคำสั่งตระกูลจ้าวเหรอ?" ฉีเติ่งเสียนถามเสียงเบา
"ก็ต้องใช้ไหวพริบกันหน่อย ใช้สถานการณ์ในหนานหยางให้เกิดประโยชน์! อีกอย่าง ฉันอยู่ที่หนานหยางไปได้สวยมาก พวกเขาเองก็ต้องการตัวฉัน เขาไม่จำเป็นต้องยืนหยัดสู้กับฉันด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆนี่หรอก"
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า ดูแล้วสวีเอ้าเสวี่ยจะไปได้สวยมากในหนานหยาง เมื่อก่อนไม่ว่าตระกูลจ้าวจะให้เธอทำอะไร เธอก็ทำอย่างไม่กล้าขัด
แต่ตอนนี้ เธอกล้าขัดคำสั่งของตระกูลจ้าวแล้ว
เหลยเสวี่ยเจียวที่นั่งอยู่ที่พื้นเรียกสติคืนมาได้ ก่อนจะกัดฟันกรอดด่าทันที "สวีเอ้าเสวี่ย แกมันก็แค่นกกระจอกตัวหนึ่ง แกกล้าตบฉันงั้นเหรอ?"
สวีเอ้าเสวี่ยตอบกลับเสียงเรียบ "ผิดแล้ว เธอต่างหากนกกระจอก ฉันน่ะพญาหงส์"
เหลยเสวี่ยเจียวโกรธจัด ลุกจากพื้นด้วยใบหน้าแดงก่ำ คิดจะลงมือกับสวีเอ้าเสวี่ย
แต่แล้ว ก็มีผู้ชายคนหนึ่งจับไหล่เธอเอาไว้ก่อน "ทำไมต้องลงมือเองล่ะ? เสวี่ยเจียว"
"พี่......พี่เฉิง!" เหลยเสวี่ยเจียวหันไปมอง เห็นหวังเจี้ยนเฉิง ก็เรียกชื่อเขาออกมาด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
ฉีเติ่งเสียนยิ้มเห็นฟัน ก่อนจะพูด "เฮ้ นี่มันประธานหวังผู้น่าสงสารไม่ใช่เหรอ? ครั้งที่แล้วโม้ให้นายพลอวี้ฟังไว้เยอะเลยนี่ว่าจะครอบครองวิลล่าวิมานเมฆให้ได้ สุดท้ายก็ไม่มีเงินจ่าย ขายหน้าแย่เลยมั้ง?"
หวังเจี้ยนเฉิงเห็นฉีเติ่งเสียน สีหน้าพลันมืดครึ้ม "ไอ้ประธานหลี่คนรวยหน้าโง่นี่เอง!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...